เปิดแนวคิดพัฒนาตลาดสด “ดร.แดน” โวยกระดับหาบเร่เป็น Street furniture “ชูวิทย์” ข่มยกเท่าห้างสรรพสินค้า ส่วน “ประภัสร์” เล็งเข้ามาแก้จุดบกพร่องด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม ขณะที่ “อภิรักษ์” สานต่อโครงการตลาดสดน่าซื้อ ส่งเสริมขายผักปลอดสารพิษ สำหรับไอเดียทำงานร่วมกับครม.สมชาย 1“ดร.แดน” ขอรัฐบาลเป็นผู้ว่าฯ กทม.แบบ One Stop Service รับหน้าเสื่อฟังปัญหาและแก้ไขจุดเดียวเบ็ดเสร็จ “อภิรักษ์” ขอทำงานอย่างราบรื่น มีแบบแผน และทำโครงการใหญ่รัฐบาลต้องให้เงินสนับสนุน ด้าน “ชูวิทย์” จัดการพันธมิตรฯ แทนสมชาย ส่วน“ประภัสร์” บอกของบเพิ่มแน่
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ผู้รับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้แก่ นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ หมายเลข 2 สังกัดอิสระ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หมายเลข 8 สังกัดอิสระ และ นายประภัสร์ จงสงวน หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน ได้ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์ในนโยบายพัฒนาตลาด กทม.
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนจะสานต่อโครงการตลาดสดน่าซื้อ โดยจะเน้นการนำระบบขนส่งลอจิสติก รับ-ส่งสินค้าเข้ามาใช้ โดยจะให้มีการขนส่งตอนกลางคืน เพื่อให้สินค้ามีความสดใหม่ โดยผู้ค้าไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมียืดอายุ หรือ ความสดใหม่ของสินค้า นอกจากนั้นแล้วจะส่งเสริมให้ประชาชนเขตนอกเมือง กทม.เช่น หนองจอก ปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อส่งมาขายยังพื้นที่ชั้นในของ กทม.
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะทำตลาดให้มีความสะอาดปลอดภัย โดยจัดเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขมาตรวจคุณภาพของอาหาร สินค้าต่างๆ เพื่อเป็นแรงกระตุ้นทางอ้อมให้ประชาชนนิยมหันมาซื้อของที่ตลาดที่ได้รับการตรวจและผ่านเกณฑ์ประเมิน ซึ่งจะทำให้ตลาดมีชื่อเสียง เป็นที่นิยม นอกจากนี้ตนจะสนับสนุนให้หาบเร่ แผงลอย ขายได้ทุกวัน แต่ต้องมีการจัดระเบียบ ยกระดับให้หาบเร่ เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับถนน (Street furniture) เพื่อให้เกิดความสวยงาน และกลายเป็นเสน่ห์เมืองของกรุงที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา
นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนจะพัฒนาตลาดใหญ่ๆ ทั่วกทม.ให้มีคุณภาพ มาตรฐานเทียบเท่าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยจะเน้นด้านความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย อาหารที่ปรุงขายตามตลาดนั้นก็จะต้องทำให้ถูกสุขลักษณะ ผู้ค้าต้องสวมถุงมือ ผ้ากันเปื้อน หมวกคลุมผม ส่วนหาบเร่ แผงลอยนั้นจะไม่มีการจับ ปรับอีกต่อไป แต่จะต้องควบคุมให้ผู้ค้ามีการดูแลรักษาความสะอาดบริเวณที่ค้า ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนที่สัญจรไปมา รวมถึงจะเปิดโอกาสให้ทำการค้าขายได้ทุกวัน
ขณะที่นายประภัสร์ กล่าวว่า ตลาดใหญ่ ทั่วกทม. อาทิ ตลาดเทเวศร์ ที่ยังขาดการบำรุงรักษา ยังคงมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมขัง กลิ่นเหม็น การระบายลงสู่คลองใกล้เคียง ตนจะเข้ามาพัฒนาสิ่งที่บกพร่อง ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ค้าที่อยู่ในตลาด กับเจ้าหน้าที่ของกทม. บวกกับนโยบายพัฒนาแก้ปัญหาตลาดที่ยังสกปรกไม่ได้มาตรฐาน
**ชูวิทย์พร้อมจัดงบช่วยคนจน/คนชรา
วันเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 8 ได้ลงพื้นที่หาเสียงที่เขตหนองจอก พร้อมเข้าหารือกับนายบรรจง โซ๊ะมณี อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ปี 2534 ประธานมูลนิธิเพื่อคุณธรรม เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือบุคคลด้อยโอกาสและคนชรา
นายชูวิทย์ กล่าว่า ตนมีนโยบายที่จะช่วยผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะคนชรา ที่อาศัยอยู่ตามสถานรับเลี้ยง หรือ มูลนิธิรับเลี้ยง โดยจะจัดงบประมาณพิเศษของกทม.ให้ ปีละ 5-10 ล้านบาทต่อปี และจะประสานกับหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือ ส่วนมูลนิธิที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่มีอยู่ในปัจจุบันก็จะได้รับการดูแล พัฒนาให้เหมาะสม จะไม่ทำอย่างผู้ว่าฯ กทม.คนก่อนๆ ที่ไม่สนใจดูแล
ด้าน นายบรรจง กล่าวว่า มูลนิธิดังกล่าวตนทำมากว่า 20 ปี แล้ว ทางหน่วยงานของกทม. เช่น สำนักงานเขต ส.ก., ส.ข.หรือ ส.ส.ก็ไม่ได้สนใจให้การช่วยเหลืองบประมาณที่นำมาใช้ปัจจุบันก็ได้มาจากเงินบริจาคของผู้ที่ใจบุญ ส่วนคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม.ที่ตนอยากเห็นคือ เป็นคนซื่อสัตย์ เที่ยงธรรมชัดเจน ไม่ทุจริต คอรัปชั่น ต้องมีการประชาสัมพันธ์ผลงานอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตาม ตนคงไม่กลับไปเล่นการเมืองอีก แม้ว่าจะมีผู้สมัครฯ กทม.รายอื่นได้มาทาบทามตน ตนก็ปฏิเสธไป เพราะอยากทำงานด้านสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าหลังจากที่หารือกันแล้วเสร็จ นายชูวิทย์ และ นายบรรจง ร่วมอัดรายการพิเศษเดือนรอมฏอน ที่ออกอากาศไปยังทางวิทยุ และโทรทัศน์ในเครือของกรมประชาสัมพันธ์ โดย นายชูวิทย์ กล่าวตอนหนึ่งว่า “มีหลายคนมาว่าผมว่าเป็นองคุลีมาล เป็นคนสีเทา หากคนกรุงเทพฯให้โอกาสก็พร้อมจะพิสูจน์ให้ดูว่าผมจะเป็นอย่างที่ว่าจริงหรือไม่ นอกจากนั้นแล้ว ผมมีความศรัทธา แนวทางการช่วยเหลือคนด้อยโอกาสของนายบรรจง หากผมได้รับโอกาสจริงๆ ก็จะเข้ามาช่วยสนับสนุน และพัฒนา โดยขอความร่วมมือจากภาคเอกชน และหน่วยงานราชการที่สังกัด”
**เปิดแนวคิดทำงานร่วม ครม.สมชาย
วันนี้ (26 ก.ย.) ที่ตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้แก่ นายเกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ หมายเลข 2 สังกัดอิสระ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน หมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หมายเลข 8 สังกัดิอิสระ และ นายประภัสร์ จงสงวน หมายเลข 10 พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึงแนวทางประสานงานกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี
โดยนายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ตนจะขออำนาจหน้าที่ในการประสานงานกับหน่วยงานที่จะต้องมาให้ความร่วมมือ กับทางกรุงเทพฯ เพื่อทำให้ตนเป็นผู้ว่าฯกทม. แบบ One Stop Service หรือศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ โดยให้ กทม.เป็นเจ้าภาพ ในการรับฟัง-แก้ปัญหาของของประชาชนได้อย่างตรงจุด
ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนจะทำให้เกิดการประสานงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐบาลอย่างมีระบบ เพื่อให้เกิดการจัดการ พัฒนา อย่างมีแบบแผน เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา จะต้องมีการหารือร่วมกับ กทม.ได้โดยตรง การคิดโครงการขนาดใหญ่ รัฐบาลก็ต้องมีเงินงบประมาณมาสนับสนุน
ขณะที่นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนจะขอแก้ไขปัญหาม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาล แทนนายสมชาย ตนจะใช้วิธีการเจรจา และมีข้อเสนอสร้างสวน หรือ สถานที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่อย่างดี มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องอยู่อย่างเร่ร่อน นอกจากนั้นแล้วคนที่จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.จะต้องแสดงจุดยืนต่อการชุมนุมของประชาชนด้วย
ส่วนนายประภัสร์ กล่าวว่า หากตนมีโอกาสได้คุยกับครม. ของนายสมชาย ตนจะของบสนับสนุนจากรัฐบาล เนื่องจากว่าการพัฒนา กทม.ต้องใช้งบประมาณลงทุนค่อนข้างสูง เช่น การแก้ไขปัญหาจราจรด้วยการสร้างรถไฟฟ้า การทำงานในกทม. นอกจากจะมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วจะต้องมีงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาด้วย
ผุดไอเดียให้วินมอร์ไซค์รับจ้างเป็นสื่อกลาง เลือกตั้ง
นายพงศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานเปิดงานวินจักรยานยนต์หลักสี่ ทุกคน รณรงค์เลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.โดยมีวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่อยู่ในพื้นที่เขตหลักสี่ กว่า 500 คันเข้าร่วมงาน ณ ห้างไอที สแควร์ เขตหลักสี่
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในวันที่ 5 ตุลาคม นี้ ทางกทม.พร้อมกับสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ได้เร่งประชาสัมพันธ์ เชิญชวน ให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันอย่างเข้มข้น โดยจะมีรูปแบบการรณรงค์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น วันนี้ (26 ก.ย.) ก็ได้ขอความร่วมมือกับรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ด้วยการติดป้ายสีเขียว มีข้อความว่า “เลือกตั้งผู้ว่าฯ 5 ตุลาคม 2551 เวลา 08.00- 15.00 น.” ไว้ที่ด้านหลังเสื้อวินสีส้ม เพื่อให้ผู้ที่มาใช้บริการได้ตระหนัก และไม่หลงลืม การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันดังกล่าว นอกจากนั้นในวันเสาร์ -อาทิตย์ ที่ประชาชนอยู่บ้านพัก ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของเขต พร้อมกับทีมงานเดินออกไปเคาะประตูบ้านประชาชน พร้อมกับแจกแผ่นพับ ใบปลิว ให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าในวันลงคะแนนเลือกตั้งจะมีผู้มีใช้สิทธิไม่ต่ำกว่า 65.5 % แน่นอน
นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวอีกว่า และในวันที่ 27 กันยายนนี้ ตนจะนำคณะเยาวชน ดารานักแสดงวัยรุ่นร่วมเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ที่สยามพารากอนเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนที่มีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย ซึ่งจากจากการสำรวจพบว่ากลุ่มเยาวชนมีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้จำนวน 300,000 คน และเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกถึง 70,000 คน
“หากบุคคลใดตรวจรายชื่อในบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งแล้วไม่ปรากฏชื่อของตนเอง ก็ให้รีบแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่ที่อาศัยอยู่ สำหรับบุคคลที่รายชื่อตกหล่น ก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขตเพิ่มเติมได้ โดยสามารถแจ้งได้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้ ” ปลัดกทม.กล่าว