xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดยิ่งเจริญ รีแบรนด์ดิ้งรับมือวิกฤตศก.เข็นพ่อค้ารุ่นใหม่ขายความทันสมัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดยิ่งเจริญรับมือวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ รีแบรนดิ้งตั้งแต่อาคารสถานที่ ความปลอดภัยของสินค้า และมารยาทคนขาย พร้อมเข็นโปรเจกต์ “โครงการพ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่” โดยจัดตั้งโรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ ขึ้น เพื่อเป็นสถานที่เรียนให้กับ พ่อค้า แม่ค้า เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ต้องการความทันสมัย สามารถแข่งขัน กับ ไฮเปอร์มาร์เก็ตข้ามชาติได้

นายปริญญา ธรรมวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุวพีร์ โฮลดิ้ง จำกัด ผู้บริหารตลาดยิ่งเจริญ สะพานใหม่ เปิดเผยว่า จากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจ ชะลอตัว ตามวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทางตลาดยิ่งเจริญจึงมีแผนที่จะปรับปรุงตลาด เพื่อรับมือวิกฤตดังกล่าว โดยจะให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยและครบคัรนของสินค้า รวมไปถึงมารยาทของพ่อค้าแม่ค้า พร้อมกับมีโครงการพ่อค้า แม่ค้ารุ่นใหม่ เพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาเป็นพ่อค้า แม่ค้าตลาดสด

“ตลาดยิ่งเจริญเป็นตลาดที่อยู่ตัวแล้วนะตั้งแต่ก่อนผมเข้ามา แต่เราก็ยังจะต้องพัฒนาขึ้นไปอีก เพราะปัจจุบันโลกเกิดนวัตกรรมใหม่ๆตลอดเวลา ตลาดสดไทยจึงจะอยู่นิ่งไม่ได้ เราจำเป็นต้องพัฒนาตัวเองให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนไป แต่ยังคงเป็นตลาดสดแบบไทยๆ ที่การซื้อหาเป็นแบบดั้งเดิม แต่ต้องปรับเปลี่ยนในด้านสถานที่ให้คนที่เข้ามาซื้อของมีความสะดวก ปลอดภัยในสถานที่ที่สะอาด ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำขังเฉอะแฉะ และมีความหลากหลายในประเภทสินค้า จากแต่เดิมเน้นการเป็นตลาดสดอย่างเดียว ก็มีการเพิ่มให้มีโซนอาหารสำเร็จ สินค้าอุปโภค สินค้าแฟชั่น สินค้าไอที และธนาคาร เพราะผู้บริโภคเขาเข้ามาแล้วไม่ใช่แค่ซื้อกับข้าวอย่างเดียว” นายปริญญากล่าว

ในเรื่องความปลอดภัยของสินค้าทางตลาดยิ่งเจริญก็ได้มีการลงทุนเป็นตัวเลข 8 หลักเพื่อสร้างห้องแล็บสำหรับสุ่มตรวจสารปนเปื้อนในสินค้าที่ขายอยู่ในตลาดเอง โดยเจ้าหน้าที่จากเขตจะมาสุ่มตรวจทุกวัน วันละ 30 ชนิด หากตรวจเจอสารปนเปื้อนที่แผงใด ทางตลาดจะยกเลิกสัญญาเช่าทันที ส่วนพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องมีมารยาทดี มีความสุภาพ ทำให้คนซื้อรู้สึกประทับใจ กลับไปแล้วก็อยากกลับมาซื้ออีก

นอกจากนี้ ทางตลาดยิ่งเจริญ เน้นเรื่องของการพัฒนาคน เพราะว่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบตลาดแบบไทยๆ ให้สามารถสู้ห้างสรรพสินค้าขายถูกข้ามชาติได้ โดยจัดทำ “โครงการพ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่” ณ โรงเรียนการเรือนยิ่งเจริญ ที่มี ผศ.ศรีสมร คงพันธุ์ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อพัฒนาคนที่เป็นแม่ค้าให้เป็นแม่ค้ารุ่นใหม่ที่มีความทันสมัย ทันโลก มีความรู้ คำนวณต้นทุนได้ จัดหน้าร้านเป็น แทนคนรุ่นเก่าๆที่ตามโลกไม่ทัน เรียนน้อย บางคนยังอ่านหนังสือแทบไม่ออก และไม่รู้จักวิธีคำนวณต้นทุน การทำสต็อก ทำให้แข่งขันกับไฮเปอร์มาร์เก็ตได้ยาก ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ขึ้นตรงกับกระทรวงศึกษาธิการ และประสานงานกับกรมแรงงาน

ทั้งนี้ ทางตลาดยิ่งเจริญเป็นผู้สนับสนุนค่าการศึกษา จำนวน 150,000 บาทต่อคน ผู้เรียนจึงออกเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านวัตถุดิบในการฝึกปฏิบัติจำนวน 5,000 บาทต่อคน เรียน 45 วัน 250 ชั่วโมง พร้อมได้รับการบรรจุเข้าเป็นพนักงานของตลาดยิ่งเจริญ รับเงินเดือนขั้นต่ำ 7,000 บาท เมื่อเรียนจบแล้วต้องฝึกงานต่อเป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อฝึกฝนทักษะในการประกอบธุรกิจจริงๆ จากนั้นตลาดยิ่งเจริญจะยกระดับพ่อค้าแม่ค้ารุ่นใหม่ทุกคนให้เป็นหุ้นส่วนของตลาด ด้วยการจัดหาทำเลค้าขายพร้อมเงินลงทุนเริ่มต้นให้

ขณะนี้กำลังมีการรับสมัครผู้เรียนรุ่นแรกจำนวน 30 คน สำหรับบุคคลทั่วไปและแม่ค้าในตลาด ผู้สมัครเรียนต้องผ่านการทดสอบ ข้อเขียนเพื่อวัดความรู้รอบตัว 30 ข้อ และการสอบสัมภาษณ์เพื่อดูกิริยามารยาท การพูด และการแต่งกาย และหลังจากเรียนไปแล้ว 2 อาทิตย์ก็จะมีการทดสอบว่าผ่านหรือไม่ เพราะทางโครงการฯต้องการคนที่สนใจจริงจัง มีการเรียนภาคทฤษฎี 15 ชั่วโมง ว่าด้วยเรื่องจรรยาบรรณและมารยาทของผู้ประกอบธุรกิจด้านอาหาร การเก็บรักษาอาหารให้ปลอดภัย การคิดต้นทุน การตั้งราคา การจัดหน้าร้าน กลยุทธ์ในการขาย ฯลฯ ที่เหลือเป็นการฝึกปฏิบัติการประกอบอาหาร เช่น อาหารว่าง เครื่องจิ้ม อาหารจานเดียว ผัด แกง ยำ และขนมหวาน

“พนักงานที่รับเข้ามาส่วนหนึ่งก็ให้มาประจำที่ฟู้ด คอร์ท เราเริ่มให้ผู้เรียนทำอาหารเองและไปขายตามงานต่างๆที่ภาครัฐและเอกชนจัด เรียกว่า “ศูนย์อาหารยิ่งเจริญ” ทุกคนต้องคำนวณต้นทุนเองว่าได้กำไรเท่าไร แล้วเสนอเรามา เมื่อหักต้นทุนและค่าเช่าร้าน คุณเอากำไรไปครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งจะนำกลับไปให้โรงเรียนเพื่อให้มีทุนมาสร้างคนรุ่นต่อไปต่อไป ถ้ากิจการคุณดีขึ้นก็อาจเซ้งร้านไปเลยได้” นายปริญญากล่าวทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น