xs
xsm
sm
md
lg

รากหญ้ามึน! น้ำมันร่วง ทำไมค่าโดยสาร-ราคาสินค้ายังแพงลิ่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประชาชนมึนราคาน้ำมันโลกดิ่งแตะ 80-90 ดอลลาร์ ดีเซลปรับลงไปแล้ว 13.50 บ.แต่ราคาสินค้ายังแพงลิ่ว ส่วนค่าโดยสาร “รถเมล์-บขส.” ยังไม่มีวี่แววปรับลง ขณะที่รัฐบาลใหม่ ก็ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ

วันนี้ (19 ก.ย.) แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ผู้บริหารระดับสูงได้นัดหารือเรื่องการปรับราคาสินค้า เพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาเรล และมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วง 80-90 ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งก่อนหน้านี้ น้ำมันดิบเคยพุ่งสูงสุดที่ 147 ดอลลาร์ต่อบาเรล เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศพุ่งขึ้นเกือบ 40 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาสินค้ากว่า 200 รายการ ขอปรับขึ้นราคาตามต้นทุน และส่งผลต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกือบ 10%

แหล่งข่าวยอมรับว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศได้ปรับลงกว่า 13 บาทต่อลิตร และเบนซินลดลงกว่า 10 บาทต่อลิตร โดยในวันที่น้ำมันดีเซลปรับขึ้นราคานั้น ผู้ประกอบการสินค้าจำนวนมาก ได้แห่มาขอปรับขึ้นราคา โดยอ้างต้นทุนการผลิต และต้นทุนการขนส่ง แต่ช่วงที่ราคาน้ำมันปรับลง ยังไม่พบว่า มีผู้ประกอบการรายใดมาขอยื่นเพื่อปรับลดราคาสินค้า

ทั้งนี้ การอนุมัติราคาสินค้าของกระทรวง ทุกรายการจะมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ถ้าต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นนั้นมาจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน ก็อาจขอร้องให้ผู้ผลิตช่วยตรึงราคาสินค้าไว้ก่อน โดยการหันไปปรับลดค่าใช้จ่ายอย่างอื่น อาทิ ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ ค่าโอที เป็นต้น แต่ถ้าต้นทุนการผลิตที่แพงขึ้นอันเนื่องมาจากค่าขนส่ง ก็เป็นเรื่องที่จะอนุมัติให้ตามสมควร ซึ่งบางแห่งก็ขอปรับลดปริมาณและขนาดลง

ด้านแหล่งข่าวจากองค์กรคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ราคาน้ำมันปรับลดลง แต่ราคาสินค้ากลับยังคงแพงเหมือนเดิม โดยที่รัฐบาลใหม่และเก่าไม่เคยพูดถึงปัญหานี้ เท่ากับ รัฐมนตรีพาณิชย์มีหน้าที่ในการอนุมัติขึ้นราคาสินค้า แต่ไม่มีหน้าที่ปรับลดราคาสินค้า ทั้งที่ต้นทุนปรับลดลง ขณะที่ประชาชนยังคงต้องใช้สินค้าราคาแพงเกินความเป็นจริง เป็นช่องว่างในการเปิดโอกาสให้นายทุนแสวงหากำไร ยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคือง

ขณะที่ บางเรื่องกระทรวงพาณิชย์ กลับประกาศว่า รัฐบาลต้องการปล่อยให้การแข่งขันให้เป็นไปตามกลไกตลาด กลับมีข่าวลือว่า บิ๊กในกระทรวงมีการออกคำสั่งห้ามโมเดิร์นเทรดขายเครื่องให้ไฟฟ้าต่ำกว่าร้านค้าปลีกข้างถนน เพราะเป็นการเข้าข่ายใช้อำนาจเหนือตลาด จึงดูเหมือนว่ามีความขัดแย้งอยู่ในที

** บขส.โยนบอร์ดขนส่ง ตัดสินใจ

นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวถึงการปรับลดค่าโดยสารลงตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งมี นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน โดยต้องดูว่าจะมีการพิจารณาหรือไม่ แต่คาดว่า คณะกรรมการคงพิจารณาว่าในช่วงที่ บขส.ได้รับการปรับขึ้นค่าโดยสารนั้น ทางคณะกรรมการ ราคาน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อลิตร ขณะที่ผู้ประกอบการต้องรับภาระต้นทุนค่าน้ำมันจริงที่กว่า 35 บาทต่อลิตร ทำให้ขณะนี้แม้ว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ยังไม่ได้หมายความว่า บขส.จะมีรายได้มากขึ้น เพราะต้องนำไปชดเชยกับต้นทุนราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาด้วย

อย่างไรก็ตาม บขส.ยังคงยืนยันดำเนินการตามแผนลดต้นทุนเหมือนในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น เช่น การปรับลดเที่ยววิ่งให้เหมาะสม และที่สำคัญยังเดินหน้าแผนการเช่าซื้อรถพลังงานทดแทนโดยในปี 2552 จะเริ่มนำเข้ารถล็อตแรกจำนวน 200 คัน และจะทยอยให้ครบ 800 คัน ภายใน 4 ปี ซึ่งหนทางดังกล่าวจะเป็นการแก้ปัญหาต้นทุนการเดินรถได้ในระยะยาว

นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า อัตราค่าโดยสารรถ บขส., รถร่วม บขส., รถเมล์ ขสมก.และรถร่วม ขสมก.ยังไม่ปรับลด เพราะที่จัดเก็บปัจจุบันคิดบนฐานราคาน้ำมันที่ 30-31 บาท ดังนั้น คงต้องรอให้น้ำมันปรับลดลงอีกระยะ รวมทั้งต้องให้ราคาน้ำมันนิ่งสักระยะจึงจะพิจารณาปรับลดอัตราค่าโดยสาร

** “เจ๊เกียว” โบ้ยดีเซลเหลือ 28 บ. ยอมลดราคา

ด้าน นางสุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์โดยสารประจำทาง กล่าวว่า หากราคาน้ำมันลดลงถึง 28 บาท และคงที่ในระดับดังกล่าวต่อไปสักระยะ ทางผู้ประกอบการในส่วนของสมาคมก็จะปรับลดราคาค่าโดยสารทันที โดยอาจอยู่ที่ 3 สตางค์ต่อกิโลเมตร แต่ทางภาครัฐโดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางต้องให้ความมั่นใจกับทางผู้ประกอบการด้วยว่าหากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง คณะกรรมการฯ จะต้องอนุมัติให้เอกชนปรับขึ้นราคาได้เร็วที่สุดเช่นกัน ไม่เหมือนในช่วงที่ผ่านมาที่ใช้เวลาในการอนุมัตินานมาก ส่งผลให้เอกชนแบกรับภาระต้นทุนน้ำมันเป็นเวลานาน

“เราจะประกาศปรับลดค่าโดยสารลงแน่ๆ แต่ภาครัฐต้องออกมารับรองว่าหากราคาน้ำมันปรับขึ้นก็ต้องอนุมัติให้ปรับขึ้นราคา ไม่ใช่ให้แบกรับภาระค่าน้ำมันเหมือนที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการขาดทุน”

** เรือด่วน-แสนแสบ นำร่องลดราคา

นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี (ขน.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ลิตรละ 31.84 บาท ซึ่งต่ำกว่าฐานราคาน้ำมันที่คิดค่าโดยสารทางเรือปัจจุบัน กรมจึงทำหนังสือไปยังผู้ประกอบการเรือโดยสารให้ปรับลดค่าโดยสาร ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากเรือโดยสารคลองแสนแสบที่ปรับลดค่าโดยสารลงระยะละ 2 บาท ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเรือโดยสารข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาจะปรับลดค่าโดยสารในวันที่ 22 ก.ย.นี้

สำหรับอัตราค่าเรือโดยสารใหม่มีดังนี้ 1.เรือคลองแสนแสบ ปรับราคาลงระยะละ 2 บาท จากเดิม 12-22 บาท เป็น 10-20 บาท 2.เรือด่วนเจ้าพระยา ธงส้มและธงเหลือง ปรับลงระยะละ 2 บาท โดยเรือธงส้มอยู่ที่ 15 บาทตลอดสาย จากเดิม 17 บาทตลอดสาย เรือธงเหลือง 20-29 บาท จากเดิม 22-31 บาท 3.เรือด่วนธงประจำทาง ปรับลงระยะละ 1 บาท เป็น 10-14 บาท จากเดิม 11-15 บาท และ 4.เรือข้ามฟาก ปรับลด 0.50 บาท เฉพาะท่าเรือที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 5,000 คน โดยปรับเป็น 2.50-3.50 บาท จากเดิม 3-4 บาท ส่วนท่าเรือที่มีผู้โดยสาร 5,000 คนขึ้นไป ซึ่งมี 6 แห่ง ประกอบด้วย ท่าช้าง-วัดระฆัง, ท่าช้าง-วังหลัง, ท่าพระจันทร์เหนือ-วังหลัง, ท่าพระจันทร์เหนือ-รถไฟ, ท่าพระจันทร์เหนือ-ปิ่นเกล้า, ท่าปิ่นเกล้า-ฝั่งธน-ฝั่งพระนคร ให้ใช้ค่าโดยสารเดิมเพราะที่ผ่านมาไม่ได้ปรับเพิ่มราคา
กำลังโหลดความคิดเห็น