xs
xsm
sm
md
lg

“ธีรยุทธ” ตั้งฉายา รบ.สมชาย"ชายกระโปรง" ชี้สลายม็อบ เกิดสงครามจลาจล -ปฎิวัติสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธีรยุทธ บุญมี
“ธีรยุทธ” ให้ฉายารบ.สมชาย "ชายกระโปรง เชื่อสถานการณ์บีบ"อนุพงษ์" โอกาสปฏิวัติสูง ชี้สลายการชุมนุมเกิดสงครามกลางเมือง ตายเกลื่อนแน่ ร้องรบ.ชายประโปรงอดทนอย่าใช้ความรุนแรงปราบปชช. แนะรบ.ตั้งคณะกรรมการอิสระเจรจาหย่าศึกพันธมิตรฯ

วันนี้(28 พ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายธีรยุทธ บุญมี อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงถึงข้อเสนอการฝ่าวิกฤติการเมืองไทย ว่า ได้เคยเตือนล่วงหน้าว่าถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชาชน ดิ้นรนแก้รัฐธรรมนูญล้มล้างความผิดตัวเอง เพื่อกลับมาสู่อำนาจใหม่ จะเกิดวิกฤติรอบสอง ซึ่งเสียหายร้ายแรงกว่าเดิม ซึ่งรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี หรือ เรียกว่ารัฐบาล “ชาย กระโปรง” คิดแต่จะอยู่ในอำนาจเพื่อจ้องหาผลประโยชน์ ยึกยักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนวิกฤติบานปลาย เลือกใช้วิธีการระดมมวลชนมาปะทะกันเป็นสงครามกลางเมือง

ส่วนฝ่ายพันธมิตรได้ทำให้ความขัดแย้งการเมืองไทยกลายเป็นความขัดแย้งทางอุดมการณ์ พันธมิตรคัดค้านการคอร์รัปชั่นการซื้อเสียงของนักการเมือง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเป็นปัญหาที่ปล่อยให้คาราคาซังมานานของการเมืองไทย ฝ่ายรัฐบาลส่วนใหญ่อยู่กับการซื้อเสียงและแสวงประโยชน์ตนเอง แต่อ้างประชาธิปไตย ซึ่งก็เป็นความถูกต้อง เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างอุดมการณ์ที่ถูกต้องคนละส่วน ปัญหาจึงแก้ได้ยาก พันธมิตรใช้วิธีแข็งขืนกฎหมาย ฝ่ายรัฐใช้อำนาจป่าเถื่อนเข้าตอบโต้ พันธมิตรก็ใช้วิธีผิดกฎหมายสุดขั้วยิ่งขึ้นด้วยการปิดสนามบิน ความขัดแย้งขยายตัวไป เกิดเป็นทัศนคติที่โน้มเอียง เป็นอคติและขาดสติยับยั้งมากขึ้นทุกทีในทุกๆ ส่วนของสังคม

นายธีรยุทธ กล่าวว่า วิกฤติมีโอกาสบานปลายไปสู่การจลาจล และระดับใกล้เคียงสงครามกลางเมืองสูง ขณะที่ระบบการเมืองล้มเหลว รัฐอยู่ในภาวะอัมพาต สถาบันต่างๆ ทำงานไม่ได้ผล เกิดการเมืองนอกระบบขยายตัวเป็นความรุนแรงขึ้น จนมีฉากความเป็นไปได้ 3 แนวทางคือ(1) รัฐบาลลาออกหรือยุบสภา(2) รัฐบาลสลายการชุมนุม (3) เกิดการปะทุของความรุนแรงย่อยๆ การปะทะย่อยๆ จนนำไปสู่การปะทะขนาดใหญ่ของมวลชน ฉากความเป็นไปได้ทั้ง 3 แบบมีโอกาสเกิดภายในไม่กี่วันจนถึงประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้า แต่ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เพราะปัญหาใหญ่โตเกินกว่าจะแก้ไขได้ในครั้งเดียว แต่จะมีโรคแทรกซ้อนขึ้น 2-3 โรคตามมา รัฐบาลชาย กระโปรง ปฏิเสธการลาออกและยุบสภา แต่ถึงแม้จะทำก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไม่ส่งผลต่อการปฏิรูปการเมืองที่จะแก้ไขการซื้อเสียงและคอร์รัปชั่นแต่อย่างใด ในที่สุดจะมีการชุมนุมคัดค้านอีก เพราะการตื่นตัวของประชาชนสูงขึ้นมาก

นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ถ้ารัฐเลือกสั่งการให้ตำรวจสลายการชุมนุม จะส่งผลให้มีคนบาดเจ็บล้มตายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ ญาติมิตร พวกพ้องจะไม่ยินยอม มีการต่อสู้จลาจลไม่จบสิ้น นำไปสู่การรัฐประหารในที่สุด ในฉากที่ 3 ก็จะเกิดผลเช่นเดียวกัน คือการสูญเสียครั้งใหญ่ และการเข้ามาควบคุมสถานการณ์ของฝ่ายทหาร แต่ก็จะเป็นการรัฐประหารที่ยุ่งยากกว่าทุกหน ไม่ชัดเจนว่าจะมีวิธีการใดมาแก้ปัญหาระยะยาวได้อย่างไร การต่อต้านก็จะมีสูงและซับซ้อนกว่าทุกหนที่ผ่านมา สังคมไทยไม่มีทางออก ทุกเส้นทางนำไปสู่การสูญเสีย จึงขอให้คนที่ทำความดีตั้งใจดีตั้งสติภาวนาให้มีปาฏิหาริย์ที่จะให้ปัญหาซึ่งใหญ่หลวงและหยั่งรากลึก ได้คลี่คลายโดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อ

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ข้อแนะนำต่อรัฐบาลดังนี้ ก. รัฐบาลควรยอมรับว่ามีความไม่ชอบธรรมจากการซื้อเสียง คอร์รัปชั่นดำรงอยู่ในภาคการเมือง และยอมให้มีการปฏิรูปการเมือง ซึ่งดำเนินการโดยฝ่ายอิสระ รัฐบาลควรดำเนินการตามข้อเสนอของที่ประชุมอธิการบดี 26 สถาบัน เมื่อ 26 กันยายน 2551 ที่ให้ตั้งประธานเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการอิสระ เพื่อปฏิรูปการเมืองการปกครอง จากผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นกลาง มีความสามารถเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย เพื่อสร้างข้อเสนอปฏิรูปการเมืองประเทศ จากนั้นควรลาออกเพื่อมีส่วนคลี่คลายเหตุการณ์หรือไม่ เป็นดุลพินิจของรัฐบาล ข. ปัญหาที่เกิดเป็นปัญหาการเมือง รัฐบาลไม่ควรสร้างภาพพันธมิตรเป็นกลุ่มผิดกฎหมายหรือกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งเป็นเจตนาจะกระพือความรุนแรงให้สูงขึ้นอย่างไร้คุณธรรม ค. รัฐบาลควรเปิดการเจรจากับพันธมิตร เพื่อเปิดโอกาสให้มีทางออกโดยไม่เสียเลือดเนื้อ รัฐควรตั้งคณะกรรมการเจรจากับแกนนำพันธมิตรอย่างเปิดเผยโปร่งใสต่อสาธารณชน ก่อนจะตัดสินใจใช้มาตรการใดๆ ที่จะนำพาไปสู่การเสียเลือดเสียเนื้อ

นายธีรยุทธ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอต่อพันธมิตร พันธมิตรควรเลือกการดำเนินการระยะยาว เพื่อปฏิรูปโครงสร้างการเมืองอย่างถาวร ก. พันธมิตรได้ปรับตัวจากกลุ่มประท้วงเป็นขบวนการทางการเมืองที่มีความเชื่อ มีอุดมคติที่แรงกล้าของตน จนถึงขั้นยอมเสียสละชีวิตได้ การประท้วงมีข้อบกพร่องมากพอสมควรซึ่งควรแก้ไข แต่ก็สร้างประโยชน์ในการปลุกเร้าคนส่วนต่างๆ ของสังคมให้ตื่นตัวขึ้นมาตระหนักในปัญหาและความรับผิดชอบทางการเมืองของตนมากขึ้น ซึ่งมีคุณค่า ควรถนอมรักษาไว้ ใช้อย่างมีสติปัญญา ระมัดระวังเพื่อประโยชน์สูงสุดในระยะยาวแก่ประเทศชาติ ข. แม้รัฐบาลจะประกาศ พรก. ฉุกเฉิน และข่มขู่สลายการชุมนุม แต่จะถือว่าพันธมิตรได้ตัดสินใจอย่างฉลาดและกล้าหาญที่สุด ถ้าจะปรับยุทธวิธีการต่อสู้เป็นฝ่ายเลือกประกาศยุติการเคลื่อนไหวทั้งหมดทันที

โดยยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริงภายในเงื่อนเวลาที่กำหนด อาทิ ต้องแก้กฎหมายเลือกตั้งให้มีการลงโทษการซื้อเสียง ขายเสียงอย่างรุนแรงที่สุด เพิ่มอำนาจในการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเพิ่ม แก้กฎหมายเพื่อให้การตรวจสอบคอร์รัปชั่นโดยสังคม ประชาชน และองค์กรอิสระทำได้ง่ายขึ้น ประสานงานกันได้มากขึ้น ถ้าพันธมิตรทำเช่นนี้ แรงกดดันจะหวนกลับและพุ่งตรงไปที่รัฐบาล ส่วนต่างๆ ของสังคมคงจะเห็นด้วย เพราะเชื่อในความมุ่งมั่นของพันธมิตร และมองว่าเป้าหมายการต่อสู้ถูกต้องสมเหตุสมผล เป็นพัฒนาการทางการเมืองที่ถาวร เกิดผลประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติ

ถ้าพันธมิตรตัดสินใจดังกล่าว ภาคการเมืองจะกริ่งเกรงพลังความมุ่งมั่นของพันธมิตร จะทำให้อำนาจการต่อรองของภาคประชาชนดีขึ้น รวมทั้งเครือข่ายของพันธมิตรซึ่งสามารถมีบทบาทตรวจสอบการเมืองและการเมืองท้องถิ่นอย่างเป็นการถาวร มีโอกาสเป็นจริงได้ ง.ถ้าพันธมิตรตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งจะเป็นเรื่องยากและเจ็บปวด รวมทั้งแกนนำและบางส่วนจะถูกดำเนินคดีตามกระบวนการกฎหมาย แต่เชื่อว่าสังคมจะเห็นความตั้งใจดี ความมุ่งมั่นเพื่อส่วนรวมอย่างมีประมาณการของพันธมิตร การคลี่คลายในทางที่ดีขึ้นน่ามีโอกาสเป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีโอกาสที่จะเกิดการรัฐประหารหรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นเช่นนั้น เพราะเท่าที่ดูเหตุการณ์แล้ว ความขัดแย้งมันแก้ไม่ตก

เมื่อถามว่า ส่วนตัวใครคิดว่าจะเป็นผู้ทำการปฏิวัติ นายธีรยุทธ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนคงบอกไม่ได้ แต่เชื่อว่า สิ่งที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ ประกาศว่าไม่อยากปฏิวัตินั้น คงเป็นเช่นนั้นจริง เพียงแต่เหตุการณ์สถานการณ์ต่างๆ จะนำพาไปสู่จุดนั้นค่อนข้างสูงจนหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อถามว่า มีการพยายามปลุกม็อบเสื้อแดงขึ้นมาต่อสู้ นายธีรยุทธ ตอบว่า เวลานี้ทุกอย่างทำให้กลายเป็นความเชื่อ ความรู้สึกที่รุนแรงไม่ดีต่อกัน อีกทั้ง พันธมิตรฯ ต่อสู้ในลักษณะเชิงอุดมการณ์ที่ไม่บรรลุไม่เลิก ไม่หยุด ซึ่งตนคิดว่าทุกอย่างกำลังมุ่งหน้าไปสู่การปฏิวัติ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่สนับสนุนให้มีการปฏิวัติ เพราะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาให้กับโครงสร้างของสังคมอย่างเป็นระบบ

เมื่อถามว่า ฝ่ายรัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะใช้กำลังเข้าสลายม็อบหรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า ตนยังอยากให้อดทนฟังเสียงสังคมก่อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การบุกยึดสนามบินไม่อยู่ในจินตนาการที่ตนคิด หากรัฐบาลมีการกระทำการปราบปรามประชาชน ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ทั้งนี้ นายสมชายพูดใส่ไข่เล่นตัวเลขที่เศรษฐกิจที่เสียหายไป เพราะดูเหมือนนายสมชายอยากให้มีการสลายการชุมนุมมากเกินไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางการเจรจายังมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า ตนอยากให้เปิดโอกาสสักครั้งหนึ่ง เพื่อการเจรจาขั้นต้น โดยรัฐบาลจะส่งคณะกรรมการที่มีน้ำหนักและเหตุผลที่ดีไปคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การใช้กำลังเข้าปะทะกันของมวลชน ทั้งนี้ ตนไม่พร้อมที่จะเสนอตัวเป็นคนกลางคลี่คลายวิกฤติเพราะอาวุโสน้อยเกินไป แต่ถ้าได้รับคำขอร้องให้ไปช่วยในลักษณะการเป็นที่ปรึกษาก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่า เมื่อมีข้อเรียกร้องถึง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า ยอมรับว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวละครที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ต้นตอของปัญหาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม มองว่าบทบาทความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ช่วงหลังน้อยลงไป เพราะการให้สัมภาษณ์ช่วงหลังๆ มักสะเปะสะปะ ดูฝีมือตก ฟอร์มตกอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น เวลานี้ เราต้องมองเป็นปัญหาโครงสร้างใหญ่ ไม่ใช่มองปัญหาที่ตัวบุคคลอีกต่อไป

เมื่อถามว่าส่วนตัวรู้สึกหมดหวังกับสังคมไทยแล้วหรือไม่ นายธีรยุทธ ตอบว่า ถ้าเราคลี่คลายวิกฤติครั้งนี้ได้ไม่ดี แล้วยังไม่ตระหนักถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและปัญหาบ้านเมือง คิดว่าสังคมไทยในวันข้างหน้าอาจเจอปัญหาที่ใหญ่กว่าที่ต้องเผชิญอีก ดังนั้น อยากขอร้องให้ช่วยกันต่อไปไม่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะจบลงอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น