xs
xsm
sm
md
lg

“สมชาย” ยิ้มสู้! เสียงตะโกนไล่ “พันธมิตรฯ” ลั่นไม่ถือสา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชาย วงศ์สวัสดิ์
นายกฯรักษาภาพพจน์ ยึดหลักเจรจาสยบความเคลื่อนไหว เตรียมเข็น “พ่อใหญ่จิ๋ว” ขัดตาทัพจับเข่าคุยแทน เก็บอาการเหตุพันธมิตรฯโห่ไล่ ขณะช่วยหาเสียงผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.

วันนี้ (28 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางไปที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ท่าพระจันทร์) เพื่อบันทึกเทปรายการ “ครบรอบ 75 ปี ธรรมศาสตร์” เพื่อนำไปออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวีในวันที่ 9 ธ.ค. 51 ซึ่งการบันทึกเทปครั้งนี้นายสมชายได้ร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3 เพลงได้แก่ เพลงมอญดูดาว เพลงยูงทองและเพลงมาร์ชธรรมศาสตร์

ทั้งนี้ในการบันทึกเทปครั้งนี้นายสมชายได้สวมเสื้อโปโลสีแดง ซึ่งเป็นสีประจำของมธ. โดยมีข้อความสกรีนหลังเสื้อว่า “ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน” เมื่อนายสมชายได้เดินทางไปถึงสถานที่บันทึกเทปได้ก็มีตัวแทนศิษย์เก่ามธ.ได้มอบช่อดอกไม้ เพราะนายสมชายถือเป็นศิษย์เก่ารนิติศาสตร์รุ่น 9 ของมธ.(นิติ09) ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 4 ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนิติมธ.01

นายสมชาย กล่าวบนเวทีประมาณ 10 นาที โดยเป็นการกล่าวถึงประวัติของตัวเองที่ตัดสินใจมาเรียนที่นิติศาสตร์มธ. โดยตอนหนึ่งนายสมชายกล่าวว่า เดิมไม่ได้วางแผนจะมาเรียนนิติศาสตร์ธรรมศาสตร์ แต่เพราะที่บ้านไม่มีเงิน และพี่ชายก็เรียนจบที่นี่ จึงใช้หนังสือต่อจากพี่ชาย จะได้ไม่เสียเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่นายสมชายกำลังพูดอยู่นั้นก็ได้มีศิษย์เก่าผู้ชายรุ่นเดอะ 2 คนที่นั่งรอบนสแตนเพื่อเตรียมตัวบันทึกเทปเช่นกัน ได้ชู “มือตบพลาสติก” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยชูค้างไว้ตลอดช่วงที่นายสมชายพูด จนผ่านไปประมาณ 10 นาที โดยทั้ง 2 คนก็ลุกขึ้นยืนและกระพือมือตบเสียงดังลั่นหอประชุม พร้อมกับแสดงสีหน้า อาการไม่พอใจและได้เดินลงจากสแตนพร้อมกับมองไปหน้านายสมชายและตะโกนว่า “เอาศักศรีธรรมศาสตร์คืนมา” เสียงดังลั่นห้องประชุม จากนั้นก็เดินออกจากห้องประชุมไป ซึ่งนายสมชายมีสีหน้าเจื่อนๆอย่างเห้นได้ชัด และได้กล่าวบนเวทีทันทีว่า “ไม่เป็นไร ผมคงพูดเรื่องส่วนตัวมากเกินไปแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นการ์ดของนายกฯได้เดินตามชาย 2 คนออกไป เพื่อกันไม่ให้เข้ามาก่อความวุ่นวายอีกรอบ โดยการ์ดนายกฯได้พูดกับศิษย์เก่า 2 คนนั้นว่า “ทำไม? ตามมาป่วนทุกงานเลยหรือ?” โดยมีการเน้นน้ำเสียงเชิงเย้ยหยัน ขณะที่ศิษย์เก่า 2 คน ตอบกลับมาว่า “ผมเป็นศิษย์เก่าเศรษฐศาสตร์ มธ. รุ่น 2514 คุณทำหน้าที่รปภ.ก็ทำไป แต่อย่ามายุ่งกับผม เพราะที่นี่เป็นที่ของผม อย่ามาใช้เวทีที่นี่หาเสียง” พอพูดจบการ์ดนายกแสดงความไม่พอใจและจะปรี่เข้าไปหา พร้อมกับตะคอกเสียงดังกลับว่า “เป็นการ์ดแล้วจะทำไม?”

จากนั้นก็มีศิษย์เก่าผู้หญิงร่างท้วมคนหนึ่งได้เดินมาจับข้อมือของการ์ดนายกที่กำลังเสียงดังใส่ศิษย์เก่า 2 คนนั้นพร้อมกับ “พอแล้ว ถ้าช่างภาพถ่ายภาพออกไปมันจะดูไม่ดี” ทำให้รปภ.ติดตามนายกต้องยอมเลิกราและสุดท้ายไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศิษย์เก่าที่ร่วมบันทึกเทปในวันนี้มี อาทิ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมธ. นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตสสร. นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและนายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รมว.คลังในรัฐบาลของนายสมชายเอง

จากนั้นนายสมชาย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะการทำกิจกรรมต้องดำเนินหน้าต่อไป ขืนไปชักช้าไม่ได้ กิจกรรมเป็นของใครของมัน ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกยังไงที่ลงพื้นที่ 2 วันมีคนตะโกนไล่ตลอด นายกฯ กล่าวว่า ในสังคมก็มีอย่างนั้นอยู่ในตอนนี้ แต่เราไม่เป็นไร เพราะงานมันต้องทำต่อไป

เมื่อถามว่าจะแก้ปัญหาความแตกแยกตรงนี้ยังไง นายสมชาย กล่าวว่า ปัญหามันต้องช่วยกันแก้ ให้แก้คนเดียวคงไม่ได้ คงไม่สำเร็จ ที่สำคัญต้องยึดประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ยึดความสงบสุขของประชาชน เมื่อถามว่าหลายฝ่ายออกมาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดปฏิรูปการเมืองของ 24 อธิการบดีแล้วส่วนตัวนายกเห็นด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ต้องศึกษาข้อมูล จากหลายๆฝ่ายให้ตกผลึก ว่ามันจะไปยังไง แต่ก็ได้บอกไปแล้วว่าเรารับฟังทุกฝ่าย แต่ต้องคุยในกรอบของประชาธิปไตย ส่วนรัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพหรือไม่ก็ต้องดูก่อน

เมื่อถามว่าถึงกระแสข่าวที่นายสมชายมีกำหนดการเดินทางไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษว่าจะพบเมื่อไร นายสมชาย กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ผมตั้งใจไปคารวะท่าน” จากนั้นนายสมชายก็ขึ้นรถออกไปทันที เพื่อเดินทางไปช่วยนายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครผู้ว่ากทม.สังกัดพรรคพลังประชาชนหาเสียงที่ห้างสยามพารากอน

ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสมชาย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางมายังห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายประภัสร์ อย่างไรก็ตามทันทีที่นายสมชายเดินทางมาถึงได้ประชาชนประมาณ 10 คนยืนรอตะโกนต่อว่า “ขายชาติ ออกไปๆ”เสียงดังลั่นห้าง จนเกิดการโต้เถียงกับทีมงานของนายประภัสร์ และมีการปะทะกันเล็กน้อย โดยหญิงคนหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวได้กระโดดถีบไปยังบริเวณหน้าขาของทีมงานหญิงของนายประภัสร์คนหนึ่ง ซึ่งทีมงานของนายประภัสร์ก็โต้ตอบด้วยการนำม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ฟาดกลับคืนไป

นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งที่ส่วนใหญ่สวมเสื้อเหลืองพยายามเดินตามตะโกนต่อว่าเป็นระยะ จากนั้นนายสมชายแวะรับประทานอาหารที่ร้าน “กิ่งกัลปพฤกษ์” ร่วมกับนายประภัสร์รวมทั้งส.ส.กทม. อดีตผู้สมัครกทม. บริเวณชั้นล่างของห้าง เมนูอาหาร ไก่ผัดพริกมะม่วงหิมพานต์ แกงจืดเต้าหู้หมูสับสาหร่ายทะเล แกงเขียวหวานไก่ คะน้าหมูกรอบ ปอเปี๊ยะทอด ทั้งนี้ก่อนที่นายกฯจะกินข้าวได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “มาอยู่ในภาวะอย่างนี้ต้องอดทน ที่มาวันนี้ก็ห่วงแค่ว่าจะทำให้นายประภัสร์เสียคะแนนไปหรือเปล่า”

อย่างไรก็ตามประชาชนที่สวมเสื้อเหลืองเริ่มทยอยกันมารวมตัวมากขึ้นเกือบ 50 คน พร้อมทั้งนำอุปกรณ์รูปมือมาเขย่า พร้อมประสานเสียงตะโกน “ขายชาติ” จนเกิดเสียงดังสนั่นบริเวณดังกล่าว สร้างความตื่นตระหนกแก่ผู้พบเห็น ขณะเดียวกันยังมีประชาชนเสื้อเหลืองบางคนพยายามที่จะเข้าประชิดตัวนายสมชาย ทำให้ทีมงานรปภ.ต้องกันตัวออกไป จนเกิดการกระทบกระทั่งกันเป็นระยะ ซึ่งนายสมชายตลอดจนทีมงานมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก ฝืนยิ้มหน้าเจื่อน ช่วงหนึ่งขณะนี้นายสมชายกินน้ำกระเจี๊ยบอยู่ ก็เกิดอาการสะอึก เมื่อเหลือบไปเห็นว่ากลุ่มประชาชนดังกล่าวเขยิบเข้ามาใกล้มากขึ้น ในที่สุดนายสมชายจำต้องลุกออกจากร้านไปโดยใช้เวลานั่งอยู่ไม่ถึง 20 นาที

จากนั้นเวลา 12.20 นายสมชายพร้อมนายประภัสร์และทีมงานได้ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีสยามไปยังสถานีสะพานตากสิน พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ขณะนี้กำลังใจยังดีอยู่ เจอแบบนี้ก็ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร” ขณะที่นายประภัสร์กล่าวว่า “ประชาชนควรจะแยกแยะว่าอะไรเหมาะสม ไม่รู้สึกกดดันอะไร การลงพื้นที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครมาขับไล่ อยากเห็นการเมืองอยู่บนฐานของความเป็นเหตุเป็นผล”

ต่อมาเมื่อถึงสถานีสะพานตากสินนายสมชายและนายประภัสร์ได้ลงจากรถไฟฟ้ามาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ ทางพรรคพลังประชาชนมีนโยบายชัดเจนในกทม.ว่าจะดูแลเรื่องการขนส่งมวลชนทุกอย่าง เพราะเราลำบากกันมานาน ในเรื่องของรถติด แออัดยัดเยียด กทม.จำเป็นต้องมีคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เราจึงชักชวนนายประภัสร์ อดีตผู้ว่ารฟม. มาลงสมัครครั้งนี้ เพราะเป็นมืออาชีพ มีฝีมือ เก่งหลายด้าน จะสามารถทำให้กทม.มีความทันสมัยไม่แพ้ใครในโลก ก็อยากให้พี่น้องประชาชนชาวกทม.ช่วยพิจารณาเลือกนายประภัสร์ด้วย ขอให้จับตาดูว่าสิ่งที่พูดไปจะทำจริงได้หรือไม่ เราจะทำเรื่องการจราจรเป็นเรื่องเร่งด่วน เรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้าไม่มีปัญหา จะทำตั๋วใบเดียวขึ้นได้ทั้งวัน ขณะที่นายประภัสร์ได้กล่าวเสริมถึงนโยบายการจราจร อาทิ การนำขสมก.มาสังกัดกับกทม.หลังไม่มีปัญหาเรื่องหนี้สินตกค้าง การขยายเส้นทางการเดินรถไฟฟ้า การเน้นวินัยจราจร ตลอดจนการซ่อมแซมผิวถนนจราจร

เมื่อถามว่ คะแนนของนายประภัสร์ตามหลังนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์อยู่มากจะมีกลยุทธ์ใดมาต่อสู้ นายสมชายกล่าวว่า กลยุทธ์เรามีไม่มาก แต่เรามีความตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน ไม่คิดเรื่องผลประโยชน์ เรื่องส่วนตัว เราจะยกระดักทม.ให้เทียบเท่ามหานครใหญ่ๆ ที่สำคัญต้องทำทุกอย่างที่พูดไว้ให้เป็นจริงให้ได้ด้วยความโปร่งใส

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน นายสมชายให้สัมภาษณ์กรณีที่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งมารวมตัวต่อต้านตะโกนขับไล่ว่า การที่มีประชาชนมาต่อต้านนั้น ให้ถือเป็นวิจารณญาณของประชาชนว่าจะตัดสินใจอย่างไร เมื่อถามว่า จะต้องจัดระเบียบอะไรหรือไม่ มิฉะนั้นอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่เรื่อยๆ นายสมชายย้อนถามว่า ถ้าจัดแล้วมันจะเป็นระเบียบหรือไม่ เราเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องมีเหตุผล และดูว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ อะไรคือวัฒนธรรมที่ดีของคนไทย สังคมไทย ในใจก็ไม่อยากให้มีความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้ายซึ่งกันและกัน ขอให้มาร่วมกันแก้ปัญหา เพราะปัญหาจะแก้เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้

เมื่อถามว่า โกรธหรือไม่ที่ถูกกระทำแบบนี้ นายสมชายกล่าวว่า “ไม่โกรธ ๆ มันเป็นเพียงความรู้สึก เพราะบางทีคนเราคิดไม่เหมือนกัน แต่พยายามให้คิดให้ได้ว่าอะไรคือผลประโยชน์ของประชาชน เพราะบางครั้งคนที่เขาทำอาจจะคิดว่าเขาทำถูก แต่ก็อยากให้ประชาชนช่วยมองว่าอะไรคือวัตถุประสงค์สูงสุด เราไม่ควรทำอะไรเพื่อตัวเอง เวลานี้ประเทศเรามีปัญหาเยอะ ประสบเหตุการณ์มากมาย ขอให้มาช่วยกัน อย่าเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง” เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการเจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ นายสมชายกล่าวว่า จะพายามเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ เมื่อถามว่า ได้มอบหมายให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯไปพูดคุยกับพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า มอบหมายให้ท่านไปช่วยดู เพราะเป็นคนที่มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ เป็นที่เคารพนับถือของคนจำนวนมาก และเป็นผู้ที่มีความสามารถสูงในรัฐบาลชุดนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น