xs
xsm
sm
md
lg

ควงมือตบสยบมารไล่ “สมชาย” เจอ 2 เด้งทั้งมธ.-พารากอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- พันธมิตรฯศิษย์เก่ามธ. ควง"มือตบสยบมาร" ตบไล่ "สมชาย" ที่ไปอัดเทปรายการ 75 ปีธรรมศาสตร์ พอโผล่ไปสยามพารากอน ช่วยผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หาเสียง เจอตบไล่อีก เจ้าตัวเซ็งแต่ยังกัดฟันบอกไม่โกรธ เตรียมใช้"บิ๊กจิ๋ว"ให้มาเจรจาแกนนำพันธมิตรฯ ด้านแกนนำพันธมิตรฯ-อภิสิทธิ์ ยันไม่ได้เกณฑ์คนไปขับไล่ แต่เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะดำเนินการ ไปห้ามไม่ได้

หลังจากนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมแล้ว ก็ได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเดินทางไปที่ลงสนามบิน จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยัง จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อนายสมชายเดินทางไปถึงสนามบิน จ.สุราษฎร์ธานี นอกจากจะได้พบกับประชาชนที่มาต้อนรับแล้ว ยังมีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาต่อต้าน ตะโกนขับไล่ พร้อมกับด่าว่า นายสมชาย ขายชาติ ทำให้นายสมชาย ต้องเลี่ยงไปออกประตูด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มที่มาขับไล่ ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนมัสการรูปเหมือนพ่อท่านคล้าย วัดสวนขันธ์ ที่อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งที่ จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ได้ประกาศรวมตัวกันที่ ศาลาประดู่หก เพื่อเดินทางติดตามต่อต้านนายสมชายทุกที่ ที่เดินทางไป ทำให้นายสมาชาย ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางกลับ ซึ่งจากเดิมจะต้องกลับไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน จ.สุราษฎร์ธานี

นอกจากนายสมชายจะถูกต่อต้านจากประชาชนในต่างจังหวัดแล้ว แม้แต่ในกรุงเทพฯ ไม่ว่านายสมชายจะเดินทางไปที่ใด ก็มีกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อม"มือตบสยบมาร" ตามไปขับไล่ทุกที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (28 ก.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เพื่อบันทึกเทปรายการ "ครบรอบ 75 ปี ธรรมศาสตร์" เพื่อนำไปออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวีในวันที่ 9 ธ.ค. 51 ซึ่งการบันทึกเทปครั้งนี้ นายสมชาย ได้ร้องเพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 3 เพลงได้แก่ เพลงมอญดูดาว เพลงยูงทอง และเพลงมาร์ชธรรมศาสตร์

อย่างรก็ตาม ในการบันทึกเทปครั้งนี้ นายสมชายได้สวมเสื้อโปโลสีแดง ซึ่งเป็นสีประจำของมธ. โดยมีข้อความสกรีนหลังเสื้อว่า "ฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้เรารักประชาชน"

เมื่อนายสมชายได้เดินทางไปถึงสถานที่บันทึกเทป ได้ก็มีตัวแทนศิษย์เก่ามธ.ได้มอบช่อดอกไม้ เพราะนายสมชาย ถือเป็นศิษย์เก่า นิติศาสตร์รุ่น 9 ของ มธ. (นิติ09) ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 4 ต่อจากนายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นนิติ มธ.01

นายสมชาย กล่าวบนเวทีประมาณ 10 นาที โดยเป็นการกล่าวถึงประวัติของตัวเองที่ตัดสินใจมาเรียนที่นิติศาสตร์ มธ. โดยตอนหนึ่งนายสมชาย กล่าวว่า เดิมไม่ได้วางแผนจะมาเรียนนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่เพราะที่บ้านไม่มีเงิน และพี่ชายก็เรียนจบที่นี่ จึงใช้หนังสือต่อจากพี่ชาย จะได้ไม่เสียเงิน

**นายกฯเจอ"มือตบ"ไล่ที่ธรรมศาสตร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่นายสมชายกำลังพูดอยู่นั้น ก็ได้มีศิษย์เก่าจากคณะเศรษฐศาสตร์ รุ่น 2514 เป็นผู้ชาย 2 คน ที่นั่งรอบนสแตน เพื่อเตรียมตัวบันทึกเทปเช่นกัน ได้ชู “มือตบพลาสติก” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยชูค้างไว้ตลอดช่วงเวลาที่นายสมชายพูด จนผ่านไปประมาณ 10 นาที ทั้ง 2 คนก็ลุกขึ้นยืน และกระพือมือตบเสียงดังลั่นหอประชุม แล้วเดินลงจากสแตน พร้อมกับมองไปหน้านายสมชาย และตะโกนว่า "เอาศักดิ์ศรี ธรรมศาสตร์คืนมา" เสียงดังลั่นห้องประชุม จากนั้นก็เดินออกจากห้องประชุมไป ซึ่งนายสมชาย มีสีหน้าเจื่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด และได้กล่าวบนเวทีทันทีว่า "ไม่เป็นไร ผมคงพูดเรื่องส่วนตัวมากเกินไปแล้ว"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นการ์ดของนายกฯได้เดินตามชาย 2 คนออกไป เพื่อกันไม่ให้เข้ามาก่อความวุ่นวายอีก โดยการ์ดนายกฯได้พูดกับศิษย์เก่า 2 คนนั้นว่า “ทำไม? ตามมาป่วนทุกงานเลยหรือ?” โดยมีการเน้นน้ำเสียงเชิงเย้ยหยัน ขณะที่ศิษย์เก่า 2 คน ตอบกลับมาว่า “ผมเป็นศิษย์เก่าเศรษฐศาสตร์ มธ. รุ่น 2514 คุณทำหน้าที่รปภ.ก็ทำไป แต่อย่ามายุ่งกับผม เพราะที่นี่เป็นที่ของผม อย่ามาใช้เวทีที่นี่หาเสียง” พอพูดจบการ์ด นายกฯแสดงความไม่พอใจ และจะปรี่เข้าไปหา พร้อมกับตะคอกเสียงดังกลับว่า "เป็นการ์ดแล้วจะทำไม?"

จากนั้นก็มีศิษย์เก่าผู้หญิงร่างท้วมคนหนึ่งได้เดินมาจับข้อมือของการ์ดนายกฯ ที่กำลังเสียงดังใส่ศิษย์เก่า 2 คนนั้นพร้อมกับบอกว่า " พอแล้ว ถ้าช่างภาพถ่ายภาพออกไปมันจะดูไม่ดี" ทำให้ ผู้ติดตามนายกฯ ต้องยอมเลิกราและไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศิษย์เก่าที่ร่วมบันทึกเทปในครั้งนี้มีหลายคน อาทิ นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดี มธ. นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีต ส.ส.ร. นายจำลอง ครุฑขุนทด อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และนายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รมว.คลัง ในรัฐบาลของนายสมชาย

จากนั้นนายสมชาย ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะการทำกิจกรรมต้องเดินหน้าต่อไป ขืนไปชักช้าไม่ได้ กิจกรรมเป็นของใครของมัน ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไร ที่ลงพื้นที่ 2 วัน มีคนตะโกนไล่ตลอด นายสมชาย กล่าวว่า ในสังคมก็มีคนอย่างนั้นอยู่ในตอนนี้ แต่เราไม่เป็นไร เพราะงานมันต้องทำต่อไป

เมื่อถามว่า จะแก้ปัญหาความแตกแยกตรงนี้อย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า ปัญหามันต้องช่วยกันแก้ ให้แก้คนเดียวคงไม่ได้ คงไม่สำเร็จ ที่สำคัญต้องยึดประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นหลัก ยึดความสงบสุขของประชาชน เมื่อถามว่า หลายฝ่ายออกมาไม่เห็นด้วยกับแนวคิดปฏิรูปการเมืองของ 24 อธิการบดี แล้วส่วนตัวนายกฯ เห็นด้วยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ต้องศึกษาข้อมูล จากหลายๆฝ่ายให้ตกผลึก ว่ามันจะไปยังไง แต่ก็ได้บอกไปแล้วว่า เรารับฟังทุกฝ่าย แต่ต้องคุยในกรอบของประชาธิปไตย ส่วนรัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพหรือไม่ ก็ต้องดูก่อน

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่นายสมชาย มีกำหนดการเดินทางไปพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษว่าจะพบเมื่อไร นายสมชาย กล่าวเพียงสั้นๆว่า "ผมตั้งใจไปคารวะท่าน" จากนั้นนายสมชาย ก็ขึ้นรถออกไปทันที เพื่อเดินทางไปช่วยนายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัครผู้ว่ากทม.สังกัดพรรคพลังประชาชนหาเสียงที่ห้างสยามพารากอน

**ไปสยามพารากอนเจอไล่อีก
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสมชาย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เดินทางมาไปถึงห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายประภัสร์

ทันทีที่นายสมชายเดินทางไปถึง ก็มีประชาชน ประมาณ 10 คน ยืนรอตะโกนว่า "ขายชาติ ออกไปๆ" เสียงดังลั่นห้าง จนเกิดการโต้เถียงเล็กน้อย กับทีมงานของนายประภัสร์ นอกจากนี้ ยังมีประชาชนอีกจำนวนหนึ่ง ที่ส่วนใหญ่สวมเสื้อเหลืองพยายามเดินตามตะโกนต่อว่าเป็นระยะ

ต่อมานายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านกิ่งกัลปพฤกษ์ โดยรับประทานอาหารร่วมกับนายประภัสร์ และรัฐมนตรีที่มาช่วยหาเสียงประมาณ 20 นาที โดยระหว่างรับประทานอาหาร ก็มีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรฯประมาณ 50 คน มาส่งเสียงตะโกนขับไล่นายกรัฐมนตรี ตลอดเวลา เมื่อรับประทานเสร็จ คณะของนายสมชาย ได้เดินออกจากร้านอาหาร เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า บีทีเอส สถานีสยาม เพื่อหาเสียงต่อ แต่ระหว่างที่เดินออกจากร้านอาหาร มายังสถานีรถไฟฟ้า กลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงเดินตาม และตะโกนขับไล่อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดคณะของนายกรัฐมนตรี ก็สามารถเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้ และช่วยนายประภัสร์หาเสียงต่อไป

**เตรียมใช้"บิ๊กจิ๋ว"เจรจาพันธมิตรฯ
ต่อมานายสมชาย ได้ให้สัมภาษณ์ที่สถานีตากสิน ถึงกรณีที่ถูกพันธมิตรฯต่อต้านว่า จะยังคงใช้แนวทางเดิมในการพูดคุยกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะเห็นว่าการใช้เหตุผลพูดคุยกันให้เข้าใจเป็นเรื่องดีที่สุด โดยต้องร่วมมือกันยึดประชาชนเป็นหลักสำคัญ ซึ่งในเบื้องต้นเห็นด้วยที่จะให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทน เพราะพล.อ.ชวลิต เป็นคนซื่อสัตย์ เป็นที่เคารพ มีความจริงใจ และยังมีความสามารถสูง หากสามารถพูดคุยกันให้รู้เรื่องได้ก็จะเป็นเรื่องดี

นายสมชายยืนยันว่า แม้จะถูกกลุ่มพันธมิตรฯตามโห่ไล่ แต่ตนไม่โกรธ เพราะเห็นว่า เป็นวิจารณญาณของประชาชน

**แกนนำยันไม่ได้สั่งพันธมิตรฯไปขับไล่
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวถึงกรณี กลุ่มพันธมิตรฯในต่างจังหวัด รวมตัวขับไล่นายกรัฐมนตรีที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดที่จ.นครศรีธรรมราช และไปช่วยหาเสียงให้กับนายประภัสร์ ที่สยามพารากอน ว่า เราคงไปควบคุมไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นประชาธิปไตยในการเมืองใหม่ พันธมิตรฯส่วนกลางไม่สามารถสั่งการได้ เพราะเรื่องในลักษณะนี้เป็นไปตามธรรมชาติ

ส่วนที่ผู้ดำเนินรายการบนเวทีพันธมิตรฯ ได้มีการแจ้งหมายกำหนดการของนายกฯ ว่าจะไปที่ไหนบ้างนั้น เป็นการแจ้งข่าวสารผ่านสื่อตามปกติ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ไม่ได้สั่งให้ไปโห่ไล่ แต่ประชาชนจะทำตามหรือไม่ ก็ถือเป็นสิทธิ พันธมิตรฯไม่ได้เป็นคนสั่งการ

**ปชป.ยันไม่ได้เกณฑ์คนไปไล่นายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังกล่าวถึงกรณีประชาชนในจ.สุราษฏร์ธานี ไปชุมนุมขับไล่นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ์ทำได้ แต่ไม่อยากให้เป็นรูปแบบ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนก็ตาม

ทั้งนี้ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง อยากวิงวอนเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไดก็ตาม การชุมนุมสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่รูปแบบของการขับไล่ กดดัน ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ

"ขอตำหนิฝ่ายการข่าวด้วยที่มีการรายงานว่า ประชาชนที่ไปชุมนุมกดดันเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งความจริงไม่เกี่ยวข้องกับพรรคเลย เพราะทั้งสองกรณี มีส.ส.ของพรรคไปร่วมในงาน ไม่ว่าจะเป็นสัมมนาของสภา และกรณีที่นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ซึ่งเป็นส.ส.ในพื้นที่ ที่เดินทางไปรับนายกรัฐมนตรี จึงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แต่ผมทราบมาว่า มีความพยามที่จะป้ายสี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งผมได้ทราบข้อมูลล่วงหน้ามาก่อนหน้านี้" นายอภิสิทธิ์กล่าว

**จี้ถอดรายการ"3เกลอ" ลดขัดแย้ง
นายเทพไท เสนพงษ์
ส.ส.นครศรีธรรมราช และผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีเดินทางเยี่ยมบ้านเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับปราศรัยให้เรียกร้องให้นักการเมือง และประชาชนไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ว่า พรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่จะต้องเคารพสิทธิ์ของประชาชนในการออกมาแสดงความเห็น เพราะคนส่วนหนึ่งที่มาต้อนรับ ในฐานะที่เป็นคนนครฯ เช่นเดียวกัน แต่คนที่มาคัดค้านเพราะเห็นว่านายสมชาย เป็นน้องเขยของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แม้การแสดงออกครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เห็นด้วย แต่ต้องเคารพสิทธิ์ของประชาชนที่เป็นไปด้วยความสงบ เหมือนกับอารยะประเทศ ที่มีการต่อต้านผู้นำเป็นธรรมดาของระบอบประชาธิปไตย

"เมื่อนายสมชายเรียกร้องไม่ให้แบ่งฝ่าย จึงอยากให้ไปดูรายการความจริงวันนี้ ที่สามเกลอกหัวกลม ออกมาปลุกระดมให้คนนครฯ เกิดความแตกแยกในคืนก่อนที่นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไป และ 1 ใน 3 เกลอ ได้ติดตามนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิดในการลงพื้นที่ และการใช้รายการโจมตีผู้ที่มีความเห็นต่าง โดยพูดความจริงเพียงข้างเดียว พร้อมทั้งบิดเบือนข้อมูล ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการอ้างถึงราคายางพาราที่สูงขึ้น เพราะผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ความเป็นการลงนามของสามประเทศผู้ปลูกยางพาราในยุคของนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ไม่มีพ.ต.ท.ทักษิณ แล้วแต่ราคายางพาราก็ยังสูงอยู่ ดังนั้นจึงอยากให้นายสมชายได้พิจารณาว่าหากต้องการให้บ้านเมืองสมานฉันท์จริง ก็ควรเริ่มต้นด้วยการถอดรายการความจริงวันนี้ออกจากผังรายการของเอ็นบีที" นายเทพไทกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น