ผู้จัดการรายวัน - พปช.ป่วนหนัก 72 ส.ส.ก๊กเนวิน โดดขวาง สมชาย หลัง กก.บห.พรรคมีมติให้เป็นนายกฯ ระบุ น้องเขยทักษิณ สร้างเงื่อนไขความขัดแย้ง ขู่หากไม่ทบทวนใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ฟรีโหวต ขณะที่ ส.ส.พปช. ไม่สนใช้เสียงข้างมาก เตรียมคุยพรรคร่วมวันนี้ แม้วคุมเด็กเนวินไม่อยู่ "กานต์"ขู่หากมีปัญหาแบ่งขั้วขู่ยุบสภาก่อนเที่ยงวันนี้ ส่วนอนุพงษ์ยันไม่เคยหนุนคนพปช.หรือใครเป็นนายกฯ ด้านพันธมิตรฯย้ำจุดยืนรัฐบาลประชาภิวัฒน์ "สนธิ" เฉ่ง "พัชรวาท" รับใช้การเมืองจนละเลยความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ พันธมิตรฯสหรัฐอเมริกา-แคนาดาออกแถลงการณ์สนับสนุนการต่อสู้และร่วมสร้างการเมืองใหม่ ด้านเครือข่าย 11 องค์กรพร้อมนักวิชาการในสุราษฎร์ธานีออกแถลงการณ์ให้พรรคพลังแม้ว ยุติเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ส่วนตำรวจ ตั้งฉก.ตามจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (15 ก.ย.) มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค พลังประชาชนเพื่อเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยมีแกนนำพรรคมากันอย่างพร้อมเพียงเช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เป็นต้น
หลังการประชุม ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนแถลงว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ที่เหมาะสมจะไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งหากที่ประชุม ส.ส.ให้การรับรองเราก็จะแจ้งไปที่พรรคร่วมรัฐบาล และลงมติพร้อมกันในสภาฯ วันที่ 17 ส.ค.นี้
**เด็กเนวินขู่ชูสมชายสภาล่ม
นายทรงศักดิ์ ทองศรี ให้สัมภาษณ์ว่า การเสนอชื่อนายสมชาย เพียงคนเดียว อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นยังไม่ได้อภิปราย แต่กลับเป็นมติกรรมการบริหาร ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ในเวลา 14.00 น. เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนวันที่ 12 ก.ย.
นายทรงศักดิ์ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ยังยืนยันว่าจะสนับสนุน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะนพ.สุรพงษ์มีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบริหารประเทศได้ ส่วนปัญหาเรื่องคดีหวยบนดินนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อ นพ.สุรพงษ์ เนื่องจากคดียังต้องใช้เวลาอีกนาน
**กานต์เชื่อพปช.ถูกยุบ100%
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากใครที่ไม่ สนับสนุนนายสมชาย จะถือว่าอุดมการณ์ต่าง ต้องไปสังกัดพรรคอื่นที่ผ่านมากลุ่มภาคเหนือของนายยงยุทธ ติยะไพรัช กลุ่มอีสานพัฒนา ภาคกลาง และกทม.บางส่วน ก็ยืนยันที่จะเสนอและสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกฯ หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบก็จะไปอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยกัน
ส่วนการยุบพรรคนั้น พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ตนเชื่อพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ 100% เพราะดูบรรทัดฐานการพิจารณาคดีต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของ นายสมชาย ทางกลุ่มมองว่าเหมาะสมจะเป็นนายกฯคนต่อไปและหัวหน้าพรรคได้ เพราะประนีประนอม
**เนวินบุกคุมเกมต้านสมชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคประมาณ 1 ชั่วโมงจากนั้นได้อนุญาตให้ช่างภาพขึ้นไปถ่ายภาพบริเวณชั้น 10 แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ให้การสนับสนุนนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เช่น นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม และนายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการรมว.เกษตรฯ ได้เดินออกนอกห้องประชุม โดยไม่รอถ่ายภาพร่วม
ต่อมาเวลา 11.40น. ทันทีที่กรรมการบริหารพรรคมีมติให้เสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกฯ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้นั่งรถโตโยต้าแฮริเออร์ สีขาว มาจอดที่บริเวณชั้น 4 ระหว่างลงจากรถได้โทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คาดว่าหลังจากนั้นน่าจะเข้าไปหารือกับส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน
ต่อมา เวลา 14.30 น. พรรคพลังประชาชนได้เริ่มประชุม ส.ส.เพื่อเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ส.ส.กทม. ในฐานะประธาน ส.ส. เป็นประธานในที่ประชุม
ในการประชุม ได้มีการแจกหนังสือเรื่อง ลับ ยุบพรรคพลังประชาชน ให้ ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมซึ่งเขียนโดย บิ๊กป๋วย ใจไทย ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการยุบพรรคพลังประชาชน มาแจกให้กับ ส.ส.ทุกคน
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเริ่มประชุมได้ไม่นาน นายสุวัฒน์ ในฐานะประธานการประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุม ส.ส.รับทราบถึงมติกรรมการบริหารพรรค ที่มีมติสนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ปรากฎว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินหลายคน ขอให้เปิดโอกาสส.ส. ลุกขึ้นอภิปรายคุณสมบัติความเหมาะสมทั้ง 3 ส. ว่าใครมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบ แต่นายสุวัฒน์ ได้แย้งว่า เป็นมติที่ประชุมไปแล้วและพยายามจะรวบรัดยุติการประชุม ทำให้ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินไม่พอใจพยายามลุกขึ้นแสดงความเป็นห่วงพร้อมวิตกกังวลต่อมติดังกล่าว
โดยเฉพาะนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เห็นว่ามติกรรมการบริหารพรรค ที่เลือกนายสมชาย กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและกระทบต่อประเทศชาติแม้ว่า ส่วนนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี ได้ย้ำว่าการมีมติออกมาแบบนี้แทนที่จะแก้วิกฤติจะยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาวิกฤติเพิ่มอีก
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวินอีกคนอภิปรายว่าเมื่อคิดว่าเลือกท่านสมัครแล้วจะเป็นปัญหา แล้วการที่มีมติเลือกท่านสมชาย มั่นใจแล้วหรือว่าจะไม่เกิดปัญหาวิกฤติมากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นน้องเขยของท่านทักษิณ จะไม่หนักกว่าเดิมหรือ ประเทศชาติจะไปรอดหรือไม่**72ส.ส. จี้ทบทวนมติ
จากนั้นนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ได้อ่านแถลงการณ์จุดยืนของ 72 ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ร่วมกันเข้าชื่อต่อที่ประชุมพรรคว่า ในนามกลุ่มส.ส.อีสาน ที่ได้ร่วมลงชื่อและออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการการสรรหาตัวแทนของพรรคที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยสรุปว่า บุคคลที่พรรคเสนอมาจะต้องไม่เป็นเงื่อนไขที่ให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อลดเงื่อนไขการเผชิญหน้า พรรคจึงควรทบทวนมติของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ และเราไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
**เด็กเนวินวอล์คเอ้าท์
ระหว่างที่อ่านแถลงการณ์ ปรากฎว่าบรรยากาศภายในห้องประชุมอึมครึม และเงียบสนิท เมื่อแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายบุญจงได้เดินนำแถลงการณ์ พร้อมข้อเรียกร้องไปยื่นให้นายสุวัฒน์ ที่เป็นประธานการประชุมต่อหน้าแกนนำพรรค ที่นั่งอยู่และประหลาดใจที่ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวได้ลุกขึ้นทยอยเดินวอล์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุมทันทีไปทางด้านหลังตึก บริเวณลานจอดรถขึ้นลิฟต์ไปหารือที่ชั้น 8 ร่วมกับนายเนวิน ชิดชอบ ขณะที่แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน บางคนได้เดินทางออกจาก พรรคทันที ก่อนที่จะมารวมตัวลงมาแถลงข่าวร่วมกันประมาณ 30 คน ในห้องสื่อมวลชน
** แม้วเบรกยี้ห้อยแต่ไม่สำเร็จ
แหล่งข่าวจาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหา ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน หลายคน ร้องขอให้ ส.ส.หยุดเคลื่อนไหวพร้อมทั้งให้สนับสนุนนายสมชาย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ ส.ส.ส่วนใหญ่เพียงแค่รับทราบไม่ได้แสดงความเห็นอะไรกลับไปมากนัก
ส่วนข้ออ้างที่บอกว่าหากสนับสนุน นพ.สุรพงษ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯในอนาคตอาจมีผลกระทบทางคดีตามมา โดยเฉพาะคดีหวยบนดินนั้น อยากถามว่าหากนายสมชาย ขึ้นมานางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย ก็ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบหลายเรื่อง เช่นการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ในการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใกล้ชิดนางเยาวภา ซึ่งเรื่องนี้อาจส่งผลเกี่ยวพันมายังนายสมชายได้
”วันนี้คนอีสานไม่พอใจอย่างมาก คนอีสานยังรักนายสมัคร แต่เมื่อมีการฆ่านายสมัครตกเก้าอี้เขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร เพื่อเอานายสมชายขึ้นมา เขารู้กันหมด ที่บอกว่า นพ.สุรพงษ์ ขึ้นมานั้นเป็นนอมินีให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือกลุ่มเพื่อนเนวิน แล้วอยากถามว่าแล้วนายสมชาย ไม่ใช่นอมินี แต่เป็นบุคคลใน แฟมมิลี่ เลย จะบอกเขาว่าอย่างไร”
มีรายงานข่าวว่ากลุ่มอีสานพัฒนาเสนอต่อ นายสมชาย หากเป็นนายกฯจริง ให้ทบทวนเก้าอี้รัฐมนตรีในส่วนของกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อให้นำมาพิจารณาใหม่และกระจายไปตามความเหมาะสมกลุ่มต่างๆในพรรคพลังประชาชน
**มติที่ประชุม เสนอสมชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมส.ส.พรรค เวลา 17.35 น. นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรค แถลงว่า ตามข้อบังคับพรรคได้มอบหมายให้ กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้คัดเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อกรรมการบริหารพรรค เลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงเอกฉันฑ์แล้ว ก็ได้แจ้งมติให้ที่ประชุม ส.ส.ทราบ
ส่วนที่มีส.ส.จำนวน 72 คนที่ได้ลงชื่อเสนอแนวทางการสรรหาบุคคลที่ควรได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเองก็ได้ตอบรับและชี้แจงให้รับทราบ โดยในวันที่ 16 ก.ย.จะมีการประชุมร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้การลงมติเลือกนายกฯจะใช้วิธีขานชื่อ และลงมติโดยเปิดเผย ที่สำคัญในเงื่อนไขบางข้อเช่นเรื่องการนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพันธมิตรฯ ที่ประชุมได้ชี้แจงแล้วว่าเป็นเพียงความเห็นของคนๆ เดียว พรรคไม่เคยมีมติให้เสนอนิรโทษกรรมไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น
**ตกลงไม่ได้ อาจยุบสภา
เมื่อเวลา19.30น. พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯมีมติเอกฉันท์ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯคนที่ 26 ต่อไป โดยในที่ประชุมไม่มีการเสนอชื่อแข่งขันทั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แต่มี ส..ส.บางส่วนเห็นว่าอยากเสนอผู้อื่นอยู่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ยังแบ่งกันสองฝั่งอยู่อย่างนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีการประกาศยุบสภาก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ เพราะถ้าอุดมการณ์ไม่ตรงกันแล้ว อาจทำให้ไม่สามารถประชุมสภาได้
**อนุพงษ์ปัดหนุนคนพปช.นั่งนายกฯ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวสนับสนุนคนในพรรคพลังประชาชนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยให้การสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ในพรรคพลังประชาชน อย่างที่บางคนนำไปกล่าวอ้าง เพราะการเลือกสรรตัวนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่าย ทางการเมือง
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น เห็นว่าจะต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมและต้องเป็นคนที่สามารถคลี่คลายปัญหา ลดความขัดแย้งสามารถยุติปัญหาในบ้านเมือง และทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นได้
**เทพเทือกชี้รบ.ยังงัดข้อ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการเสนอชื่อ ผู้จะดำรงตำแหน่งนายกฯในวันที่ 17 ก.ย.นี้ พรรคร่วมรัฐบาลคงจะยังมีปัญหาอยู่ เพราะยังมีความเห็นแตกต่างในตัวบุคคล ส่วนที่ระบุว่าหากเสนอชื่อนายสมชาย จะเป็นที่ยอมรับเพราะเป็นคนใต้สามารถ ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้นั้นไม่เป็นความจริง
เรื่องของคนภาคใต้ คนใต้มีเหตุผลทางการเมืองใช่ว่า เขาเป็นภาคใต้แล้ว ต้องสนับสนุน ดูนายวีระ (มุสิกพงษ์) วันนี้สิ คนภาคใต้รู้สึกอย่างไรกับนายวีระ เพราะฉะนั้นกรณีของคุณสมชาย เพียงสื่อมวลชนมาถามผมให้วิจารณ์ว่า ในสามคนเป็นอย่างไร ผมก็วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าที่เห็น ตามความรู้สึกของประชาชนทั้งหลาย เท่าที่ผมได้สัมผัสไม่ได้หมายความว่าผมไปสนับสนุนคุณสมชาย
**พธม.ย้ำรัฐบาลประชาภิวัฒน์
วันเดียวกันที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงข้อเสนอของพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดรายระเอียดรูปแบบที่ชัดเจนเพียงแต่เราชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายของพันธมิตรฯ หลักการจะต้องเป็นรัฐบาลที่มีผู้บริหารที่ไม่ทุจริตจะต้องมีประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม ตรวจสอบและถอดถอนได้ง่ายไม่ใช่มีลักษณะแบบเก่าๆ ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ไม่มีการถ่วงดุลและซึ่งถือเป็นเผด็จการไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
ทุกวันนี้สภาและนักการเมืองแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มมีอิทธิพลและกลุ่มทุนที่เข้ามายึดครองสภาแต่กลับไม่มีตัวแทนภาคประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ นักวิชาการ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า ผู้ที่จะมาเป็นนักการเมือง ส.ส. ,ส.ว. ต้องมาจากหลายกลุ่มอาชีพไม่ใช่เลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็น ส่วนการกำหนดสัดส่วนจะเป็นเท่าไหร่นั้นจะต้องรอฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า หากให้มีการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นก็จะเกิดการครอบงำในสภาทั้งหมดได้ง่าย โดยเป็นไปตามคำสั่งของนายทุนทำให้ประเทศชาติเสียหายสำหรับสัดส่วน 70/30 ที่พันธมิตรเคยเสนอไว้เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้นเพื่อให้รู้ว่าไม่ต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็น
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนยืนยันที่จะแก้รัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพวกพ้องทั้งมาตรา 309 ม.237 และม.190 ที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้ทำผิดทางกฎหมายไว้
**รับไม่ได้สมชายนั่งนายกฯ
ส่วนที่พรรคพลังประชาชนเสนอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า การเมืองแบบนี้อยู่กับคนที่สั่งว่าเป็นใคร แต่ตรงนี้กลับกลายเป็นว่า นำคนครอบครัวเดียวกันมาเป็นนายกฯ มองได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เป็นนอมินี แต่เป็นเจ้าภาพแห่งการโกงเข้ามาโกงต่อ นายสมัครก็เข้ามาเป็นนอมินีอยู่ในบริษัท สื่อมวลชนก็เสนอข่าวว่านายสมชายเป็นสามีของเจ๊แดง ( นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์) อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณกับเมีย กับคุณหญิงอ้อ (พจมาน ชินวัตร) ลูกหลานครอบครัวทำมาหากินด้วยกัน ทำไมบ้านเมืองถึงอับจนขนาดนี้ เราไม่ต้องดูพฤติกรรมเขาแล้ว คนที่เคยทำชั่วมาแล้ว คนที่เคยปล้นมาแล้ว เช่น ยกมือใน ครม. ในกรณี ปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้น พฤติกรรมหรือกรรมนั้นมันแสดงเจตนา เขาถึงบอกกันว่า กรรมดี คนดีเขาเห็น แต่นี่กรรมชั่ว เราจะไปดูพฤติกรรมอะไร
**โต้พวกแนะให้พธม.ตั้งพรรค
ส่วนที่นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสนอให้พันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาต่อสู้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นักวิชาการคนนี้ไม่ต้องมาท้า ตนเคยตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว พรรคการเมืองนั้นเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่เราเป็นภาคประชาชน อย่ามาชวนเสียให้ยาก ตนยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะไม่พัฒนาการไปเป็นพรรคการเมือง
นายสมศักดิ์ เสริมว่า นักวิชาการที่เสนอควรไปตั้งพรรคการเมืองเอง เพราะเรื่องนี้เป็นการเมืองแบบเก่า นักวิชาการพวกนี้จะต่างอะไรกับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีสมองนิดเดียว ที่ไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับประเทศไทย รู้เพียงแค่ว่าการเมืองจะต้องมีพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองปัจจุบันกลับกลายเป็นแก๊งค์เป็นก๊วน พวกนี้ก็รู้กันถือเป็นพวกน้ำเน่าทางการเมือง
**พธม.ปรับพื้นที่ฆ่าเชื้อโรค
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ายังคงดำเนิน ไปอย่างปกติ มีแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยและการแสดงดนตรี ส่วนผู้ชุมนุมต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรประจำวันและในช่วงสายพันธมิตรฯได้มีการปรับปรุงพื้นที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นดินโคลนและส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลมาตลอดระยะเวลาในการชุมนุม โดยผู้ชุมนุมต่างช่วยกันยกพาเหรดไม้ที่ใช้เป็นทางเดินและที่นั่งออก จากนั้นโรยปูนขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคเสร็จ แล้วนำรถกำจัดน้ำเสียและกลิ่นนขไขมัน มาดูดน้ำที่ท่วมขังออก จากนั้นได้นำทรายประมาณ 100 ถุงมาเทกลบดินโคลน
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากวิศวกรผู้หนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามมาช่วยออกแบบและออกเงินให้พับพันธมิตรฯ เพื่อช่วยเหลือในการปรับปรุงพื้นที่การชุมนุม เพราะเห็นว่าผู้ชุมนุมนั่งนอนกันลำบาก ซึ่งอาจทำให้เกิดเจ็บป่วยได้
****สนธิเฉ่งพัชรวาท
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งคำถามไปถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่ายังเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่หรือเปล่า หรือยังมีความเป็นธรรมในหัวใจอยู่หรือเปล่า หรือเป็นแค่รับใช้นักการเมืองเท่านั้น
นายสนธิ กล่าวว่า การตั้งข้อหา 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหากบฏ ถือว่าไม่สมเหตุสมผล โดยยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญมาตรา 163 ที่ฝ่ายรัฐบาลมีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ มีการออกมติคณะรัฐมนตรีขายอธิปไตยกรณีปราสาทพระวิหาร ใครกันแน่ที่เป็นกบฎ พร้อมทั้งเปรียบเทียบกรณีของ นายขวัญชัย ไพรพนา ที่นำม็อบคนอุดรฯ มีการปลุกระดมให้มาฆ่าคน มีหลักฐานชัดเจน แต่ทำไมยังปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวอย่างลอยนวล
นายสนธิ ยังได้ยกตัวอย่างกรณีกลุ่ม นปก.ที่ถือมีด ไม้ อาวุธอื่นๆมาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมี ส.ส. รัฐมนตรีเข้าร่วมมาก่อจลาจล ทำไมตำรวจไม่ดำเนินคดีกับคนพวกนี้
"ผมอยากเตือน พล.ต.อ.พัชรวาท ว่าถ้าแตะต้อง 9 แกนนำแม้แต่คนเดียวแผ่นดินลุกเป็นไฟแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง หรือใช้กรณีบุกเอ็นบีทีมาอ้าง ทั้งที่พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยใช้ศาลเป็นเครื่องมือมากลั่นแกล้งกับคนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง" นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม่ตำรวจและอัยการของญี่ปุ่นถึงได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาจับแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ส่วนตำรวจไทยท้าให้สำรวจความเห็นของประชาชน เชื่อว่าผลจะออกมาว่าทำตัวเหมือนโจร พร้อมเตือนให้ระวังเมื่อสังคมเปลี่ยนแปลง โดยให้ดู นายกฯหอกหักเป็นตัวอย่าง
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตำรวจครั้งใหญ่ ภายใต้การเมืองใหม่ โดยตำรวจจะต้องถูกรื้อครั้งใหญ่ ยกตัวอย่างให้ตำรวจนครบาลไปขึ้นกับกรุงเทพมหานคร ส่วนตำรวจภูธรให้ไปขึ้นกับจังหวัดหรือท้องถิ่น ส่วนตำรวจส่วนกลางให้ตั้งเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยผู้บังคับบัญชาสูงสุดต้องได้รับเลือกจากสภาด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 เพื่อป้องกันการวิ่งเต้นและรับใช้นักการเมือง
ในตอนท้าย นายสนธิ ได้กล่าวชมเชย สุภาพสตรีที่มีความอดทนและเสียสละร่วมกันต่อสู้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและอันตรายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งต้องขอคารวะด้วยความจริงใจ
**พธม.ตปท.หนุนการเมืองใหม่
วานนี้ (15 ก.ย.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกา-แคนาดา ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุด ฉบับที่ 6/2551 เรื่อง "ขอสนับสนุนการต่อสู้และร่วมสร้างการเมืองใหม่" ส่งไปยังประชาชนเครือข่ายพันธมิตรฯในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ประเทศไทยและสื่อมวลชน
โดยรายละเอียดแถลงการณ์ มีใจความสำคัญพอสรุปว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีมติร่วมกันสนับสนุนการต่อสู้ ดังต่อไปนี้ 1.ขอสนับสนุนนักเรียน นิสิต นักศึกษา องค์กรเยาวชนต่าง ๆ เข้าร่วมกับประชาชนในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงและสร้างประเทศไทยใหม่ให้เจริญก้าวหน้าโดยมีศีลธรรม จริยธรรมเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ในทุกด้าน
2.สนับสนุนทุกองค์กรอย่างเต็มกำลังเพื่อขจัดรัฐบาลชั่วขายชาติ หุ่นเชิด ทรราช ทุนสามานย์ ให้พ้นจากอำนาจโดยเร็วในทุกวิถีทาง 3.สนับสนุนการสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏเป็นจริงด้วยการระดมความคิดเห็นจากพี่น้องในรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อสรุปแนวทางของการเมืองใหม่ในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม 4.พร้อมยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา องค์กรเยาวชนและประชาชนในทุกภาคส่วนจนกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด
**11องค์กรจี้ พปช.เสียสละเพื่อชาติ
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศรีวิชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี นักวิชาการพร้อมเครือ 11 เครือข่ายองค์กรเอกชนใน จ.สุราษฏร์ธานี ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันปัญหาการเมืองกำลังวิกฤตถึงทางตัน จากที่นักการเมืองขาดคุณธรรม เรียกร้องให้พรรคพลังประชาชนยุติการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้เครือข่ายประชาสังคมสุราษฎร์ธานีเสนอทางออกในการคลี่คลายปัญหาและสร้างการเมืองใหม่หลายประการโดยสรุปดังนี้คือ หันมาใช้ปัญญาในการคลี่คลายปัญหา พัฒนาการเมือง และให้พรรคพลังประชาชน เสียสละเพื่อบ้านเมือง โดยยุติบทบาทการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และให้สมาชิกรัฐสภา ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในการใช้เอกสิทธิ์ส่วนตนเลือกบุคคลที่มีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับของสังคมและมีทัศนคติทางการเมืองตามหลักธรรมาธิปไตย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
**จัดหน่วยฉก.จับ9 แกนนำพธม.
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.น.เปิดเผยหลัง ประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น., ผบก.น.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปและประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า หลังมีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจยังคงกำลังในการดูแลความสงบเรียบร้อยไว้ 15 กองร้อย หรือ 2,250 นาย และยังมีกำลังสนับสนุนจากทหารอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง ซึ่งสามารถออกปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึง การดำเนินการจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ว่า บุคคลที่ต้องจับตามประกาศสืบจับ ถ้ามีโอกาสจับได้ต้องจับแน่นอน คดีนี้มีอายุความ 20 ปี ถ้าหากเข้าไปจับแล้วเกิดความสูญเสีย เราก็รอได้ โดยขณะนี้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาติดตามการเคลื่อนไหวของ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับตลอดเวลา หากออกมานอกทำเนียบเมื่อไหร่ และไม่เกิดการกระทบกระทั่งจะเข้าทำการจับกุมทันที โดยขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้ละเลยการบังคับใช้กฎหมายอย่างที่หลายฝ่ายจับตามองแน่นอน
*****************
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวานนี้ (15 ก.ย.) มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค พลังประชาชนเพื่อเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป โดยมีแกนนำพรรคมากันอย่างพร้อมเพียงเช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เป็นต้น
หลังการประชุม ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชนแถลงว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่าผู้ที่เหมาะสมจะไปรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งหากที่ประชุม ส.ส.ให้การรับรองเราก็จะแจ้งไปที่พรรคร่วมรัฐบาล และลงมติพร้อมกันในสภาฯ วันที่ 17 ส.ค.นี้
**เด็กเนวินขู่ชูสมชายสภาล่ม
นายทรงศักดิ์ ทองศรี ให้สัมภาษณ์ว่า การเสนอชื่อนายสมชาย เพียงคนเดียว อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่กรรมการบริหารพรรคคนอื่นยังไม่ได้อภิปราย แต่กลับเป็นมติกรรมการบริหาร ตนจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ในเวลา 14.00 น. เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนวันที่ 12 ก.ย.
นายทรงศักดิ์ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ยังยืนยันว่าจะสนับสนุน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป เพราะนพ.สุรพงษ์มีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบริหารประเทศได้ ส่วนปัญหาเรื่องคดีหวยบนดินนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อ นพ.สุรพงษ์ เนื่องจากคดียังต้องใช้เวลาอีกนาน
**กานต์เชื่อพปช.ถูกยุบ100%
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า หากใครที่ไม่ สนับสนุนนายสมชาย จะถือว่าอุดมการณ์ต่าง ต้องไปสังกัดพรรคอื่นที่ผ่านมากลุ่มภาคเหนือของนายยงยุทธ ติยะไพรัช กลุ่มอีสานพัฒนา ภาคกลาง และกทม.บางส่วน ก็ยืนยันที่จะเสนอและสนับสนุนนายสมชายเป็นนายกฯ หากพรรคพลังประชาชนถูกยุบก็จะไปอยู่พรรคเพื่อไทยด้วยกัน
ส่วนการยุบพรรคนั้น พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ตนเชื่อพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ 100% เพราะดูบรรทัดฐานการพิจารณาคดีต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ในส่วนของ นายสมชาย ทางกลุ่มมองว่าเหมาะสมจะเป็นนายกฯคนต่อไปและหัวหน้าพรรคได้ เพราะประนีประนอม
**เนวินบุกคุมเกมต้านสมชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรคประมาณ 1 ชั่วโมงจากนั้นได้อนุญาตให้ช่างภาพขึ้นไปถ่ายภาพบริเวณชั้น 10 แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ให้การสนับสนุนนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เช่น นายทรงศักดิ์ ทองศรี รักษาการ รมช.คมนาคม และนายธีระชัย แสนแก้ว รักษาการรมว.เกษตรฯ ได้เดินออกนอกห้องประชุม โดยไม่รอถ่ายภาพร่วม
ต่อมาเวลา 11.40น. ทันทีที่กรรมการบริหารพรรคมีมติให้เสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกฯ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้นั่งรถโตโยต้าแฮริเออร์ สีขาว มาจอดที่บริเวณชั้น 4 ระหว่างลงจากรถได้โทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คาดว่าหลังจากนั้นน่าจะเข้าไปหารือกับส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน
ต่อมา เวลา 14.30 น. พรรคพลังประชาชนได้เริ่มประชุม ส.ส.เพื่อเลือกบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุวัฒน์ วรรณศิริกุล ส.ส.กทม. ในฐานะประธาน ส.ส. เป็นประธานในที่ประชุม
ในการประชุม ได้มีการแจกหนังสือเรื่อง ลับ ยุบพรรคพลังประชาชน ให้ ส.ส.ที่เข้าร่วมประชุมซึ่งเขียนโดย บิ๊กป๋วย ใจไทย ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการยุบพรรคพลังประชาชน มาแจกให้กับ ส.ส.ทุกคน
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเริ่มประชุมได้ไม่นาน นายสุวัฒน์ ในฐานะประธานการประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุม ส.ส.รับทราบถึงมติกรรมการบริหารพรรค ที่มีมติสนับสนุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่ปรากฎว่า ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินหลายคน ขอให้เปิดโอกาสส.ส. ลุกขึ้นอภิปรายคุณสมบัติความเหมาะสมทั้ง 3 ส. ว่าใครมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบ แต่นายสุวัฒน์ ได้แย้งว่า เป็นมติที่ประชุมไปแล้วและพยายามจะรวบรัดยุติการประชุม ทำให้ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินไม่พอใจพยายามลุกขึ้นแสดงความเป็นห่วงพร้อมวิตกกังวลต่อมติดังกล่าว
โดยเฉพาะนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด เห็นว่ามติกรรมการบริหารพรรค ที่เลือกนายสมชาย กระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและกระทบต่อประเทศชาติแม้ว่า ส่วนนายวิเชียร ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี ได้ย้ำว่าการมีมติออกมาแบบนี้แทนที่จะแก้วิกฤติจะยิ่งซ้ำเติมให้ปัญหาวิกฤติเพิ่มอีก
ขณะที่ นายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม กลุ่มเพื่อนเนวินอีกคนอภิปรายว่าเมื่อคิดว่าเลือกท่านสมัครแล้วจะเป็นปัญหา แล้วการที่มีมติเลือกท่านสมชาย มั่นใจแล้วหรือว่าจะไม่เกิดปัญหาวิกฤติมากยิ่งขึ้น ยิ่งเป็นน้องเขยของท่านทักษิณ จะไม่หนักกว่าเดิมหรือ ประเทศชาติจะไปรอดหรือไม่**72ส.ส. จี้ทบทวนมติ
จากนั้นนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ได้อ่านแถลงการณ์จุดยืนของ 72 ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ที่ร่วมกันเข้าชื่อต่อที่ประชุมพรรคว่า ในนามกลุ่มส.ส.อีสาน ที่ได้ร่วมลงชื่อและออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการการสรรหาตัวแทนของพรรคที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยสรุปว่า บุคคลที่พรรคเสนอมาจะต้องไม่เป็นเงื่อนไขที่ให้เกิดความขัดแย้ง เพื่อลดเงื่อนไขการเผชิญหน้า พรรคจึงควรทบทวนมติของคณะกรรมการบริหารพรรคฯ และเราไม่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับอดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทย และกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
**เด็กเนวินวอล์คเอ้าท์
ระหว่างที่อ่านแถลงการณ์ ปรากฎว่าบรรยากาศภายในห้องประชุมอึมครึม และเงียบสนิท เมื่อแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายบุญจงได้เดินนำแถลงการณ์ พร้อมข้อเรียกร้องไปยื่นให้นายสุวัฒน์ ที่เป็นประธานการประชุมต่อหน้าแกนนำพรรค ที่นั่งอยู่และประหลาดใจที่ ส.ส.กลุ่มดังกล่าวได้ลุกขึ้นทยอยเดินวอล์คเอ้าท์ออกจากห้องประชุมทันทีไปทางด้านหลังตึก บริเวณลานจอดรถขึ้นลิฟต์ไปหารือที่ชั้น 8 ร่วมกับนายเนวิน ชิดชอบ ขณะที่แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน บางคนได้เดินทางออกจาก พรรคทันที ก่อนที่จะมารวมตัวลงมาแถลงข่าวร่วมกันประมาณ 30 คน ในห้องสื่อมวลชน
** แม้วเบรกยี้ห้อยแต่ไม่สำเร็จ
แหล่งข่าวจาก ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหา ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน หลายคน ร้องขอให้ ส.ส.หยุดเคลื่อนไหวพร้อมทั้งให้สนับสนุนนายสมชาย ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ ส.ส.ส่วนใหญ่เพียงแค่รับทราบไม่ได้แสดงความเห็นอะไรกลับไปมากนัก
ส่วนข้ออ้างที่บอกว่าหากสนับสนุน นพ.สุรพงษ์ ขึ้นมาเป็นนายกฯในอนาคตอาจมีผลกระทบทางคดีตามมา โดยเฉพาะคดีหวยบนดินนั้น อยากถามว่าหากนายสมชาย ขึ้นมานางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภรรยานายสมชาย ก็ถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบหลายเรื่อง เช่นการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ ในการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใกล้ชิดนางเยาวภา ซึ่งเรื่องนี้อาจส่งผลเกี่ยวพันมายังนายสมชายได้
”วันนี้คนอีสานไม่พอใจอย่างมาก คนอีสานยังรักนายสมัคร แต่เมื่อมีการฆ่านายสมัครตกเก้าอี้เขารู้ว่าเป็นเพราะอะไร เพื่อเอานายสมชายขึ้นมา เขารู้กันหมด ที่บอกว่า นพ.สุรพงษ์ ขึ้นมานั้นเป็นนอมินีให้พ.ต.ท.ทักษิณหรือกลุ่มเพื่อนเนวิน แล้วอยากถามว่าแล้วนายสมชาย ไม่ใช่นอมินี แต่เป็นบุคคลใน แฟมมิลี่ เลย จะบอกเขาว่าอย่างไร”
มีรายงานข่าวว่ากลุ่มอีสานพัฒนาเสนอต่อ นายสมชาย หากเป็นนายกฯจริง ให้ทบทวนเก้าอี้รัฐมนตรีในส่วนของกลุ่มเพื่อนเนวิน เพื่อให้นำมาพิจารณาใหม่และกระจายไปตามความเหมาะสมกลุ่มต่างๆในพรรคพลังประชาชน
**มติที่ประชุม เสนอสมชาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมส.ส.พรรค เวลา 17.35 น. นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรค แถลงว่า ตามข้อบังคับพรรคได้มอบหมายให้ กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้คัดเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อกรรมการบริหารพรรค เลือกนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยเสียงเอกฉันฑ์แล้ว ก็ได้แจ้งมติให้ที่ประชุม ส.ส.ทราบ
ส่วนที่มีส.ส.จำนวน 72 คนที่ได้ลงชื่อเสนอแนวทางการสรรหาบุคคลที่ควรได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกรรมการบริหารพรรคเองก็ได้ตอบรับและชี้แจงให้รับทราบ โดยในวันที่ 16 ก.ย.จะมีการประชุมร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้การลงมติเลือกนายกฯจะใช้วิธีขานชื่อ และลงมติโดยเปิดเผย ที่สำคัญในเงื่อนไขบางข้อเช่นเรื่องการนิรโทษกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและพันธมิตรฯ ที่ประชุมได้ชี้แจงแล้วว่าเป็นเพียงความเห็นของคนๆ เดียว พรรคไม่เคยมีมติให้เสนอนิรโทษกรรมไม่ว่าจะเป็นใครทั้งนั้น
**ตกลงไม่ได้ อาจยุบสภา
เมื่อเวลา19.30น. พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ได้แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคฯมีมติเอกฉันท์ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯคนที่ 26 ต่อไป โดยในที่ประชุมไม่มีการเสนอชื่อแข่งขันทั้งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แต่มี ส..ส.บางส่วนเห็นว่าอยากเสนอผู้อื่นอยู่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ยังแบ่งกันสองฝั่งอยู่อย่างนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีการประกาศยุบสภาก่อนเที่ยงพรุ่งนี้ เพราะถ้าอุดมการณ์ไม่ตรงกันแล้ว อาจทำให้ไม่สามารถประชุมสภาได้
**อนุพงษ์ปัดหนุนคนพปช.นั่งนายกฯ
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวสนับสนุนคนในพรรคพลังประชาชนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยให้การสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง ในพรรคพลังประชาชน อย่างที่บางคนนำไปกล่าวอ้าง เพราะการเลือกสรรตัวนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง ทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่าย ทางการเมือง
ส่วนนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น เห็นว่าจะต้องเป็นบุคคลที่มีความเหมาะสมและต้องเป็นคนที่สามารถคลี่คลายปัญหา ลดความขัดแย้งสามารถยุติปัญหาในบ้านเมือง และทำให้สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้นได้
**เทพเทือกชี้รบ.ยังงัดข้อ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการเสนอชื่อ ผู้จะดำรงตำแหน่งนายกฯในวันที่ 17 ก.ย.นี้ พรรคร่วมรัฐบาลคงจะยังมีปัญหาอยู่ เพราะยังมีความเห็นแตกต่างในตัวบุคคล ส่วนที่ระบุว่าหากเสนอชื่อนายสมชาย จะเป็นที่ยอมรับเพราะเป็นคนใต้สามารถ ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้นั้นไม่เป็นความจริง
เรื่องของคนภาคใต้ คนใต้มีเหตุผลทางการเมืองใช่ว่า เขาเป็นภาคใต้แล้ว ต้องสนับสนุน ดูนายวีระ (มุสิกพงษ์) วันนี้สิ คนภาคใต้รู้สึกอย่างไรกับนายวีระ เพราะฉะนั้นกรณีของคุณสมชาย เพียงสื่อมวลชนมาถามผมให้วิจารณ์ว่า ในสามคนเป็นอย่างไร ผมก็วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้าที่เห็น ตามความรู้สึกของประชาชนทั้งหลาย เท่าที่ผมได้สัมผัสไม่ได้หมายความว่าผมไปสนับสนุนคุณสมชาย
**พธม.ย้ำรัฐบาลประชาภิวัฒน์
วันเดียวกันที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว ชี้แจงข้อเสนอของพันธมิตรในการจัดตั้งรัฐบาลประชาภิวัฒน์ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดรายระเอียดรูปแบบที่ชัดเจนเพียงแต่เราชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายของพันธมิตรฯ หลักการจะต้องเป็นรัฐบาลที่มีผู้บริหารที่ไม่ทุจริตจะต้องมีประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วม ตรวจสอบและถอดถอนได้ง่ายไม่ใช่มีลักษณะแบบเก่าๆ ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ไม่มีการถ่วงดุลและซึ่งถือเป็นเผด็จการไม่ใช่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
ทุกวันนี้สภาและนักการเมืองแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มมีอิทธิพลและกลุ่มทุนที่เข้ามายึดครองสภาแต่กลับไม่มีตัวแทนภาคประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ นักวิชาการ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวเสริมว่า ผู้ที่จะมาเป็นนักการเมือง ส.ส. ,ส.ว. ต้องมาจากหลายกลุ่มอาชีพไม่ใช่เลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็น ส่วนการกำหนดสัดส่วนจะเป็นเท่าไหร่นั้นจะต้องรอฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายซึ่งทุกคนเห็นตรงกันว่า หากให้มีการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็นก็จะเกิดการครอบงำในสภาทั้งหมดได้ง่าย โดยเป็นไปตามคำสั่งของนายทุนทำให้ประเทศชาติเสียหายสำหรับสัดส่วน 70/30 ที่พันธมิตรเคยเสนอไว้เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้นเพื่อให้รู้ว่าไม่ต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซ็น
พล.ต.จำลอง กล่าวว่า พรรคพลังประชาชนยืนยันที่จะแก้รัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือพวกพ้องทั้งมาตรา 309 ม.237 และม.190 ที่รัฐบาลพรรคพลังประชาชนได้ทำผิดทางกฎหมายไว้
**รับไม่ได้สมชายนั่งนายกฯ
ส่วนที่พรรคพลังประชาชนเสนอให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า การเมืองแบบนี้อยู่กับคนที่สั่งว่าเป็นใคร แต่ตรงนี้กลับกลายเป็นว่า นำคนครอบครัวเดียวกันมาเป็นนายกฯ มองได้ว่าไม่ใช่เพียงแค่เป็นนอมินี แต่เป็นเจ้าภาพแห่งการโกงเข้ามาโกงต่อ นายสมัครก็เข้ามาเป็นนอมินีอยู่ในบริษัท สื่อมวลชนก็เสนอข่าวว่านายสมชายเป็นสามีของเจ๊แดง ( นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์) อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณกับเมีย กับคุณหญิงอ้อ (พจมาน ชินวัตร) ลูกหลานครอบครัวทำมาหากินด้วยกัน ทำไมบ้านเมืองถึงอับจนขนาดนี้ เราไม่ต้องดูพฤติกรรมเขาแล้ว คนที่เคยทำชั่วมาแล้ว คนที่เคยปล้นมาแล้ว เช่น ยกมือใน ครม. ในกรณี ปราสาทเขาพระวิหาร ดังนั้น พฤติกรรมหรือกรรมนั้นมันแสดงเจตนา เขาถึงบอกกันว่า กรรมดี คนดีเขาเห็น แต่นี่กรรมชั่ว เราจะไปดูพฤติกรรมอะไร
**โต้พวกแนะให้พธม.ตั้งพรรค
ส่วนที่นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสนอให้พันธมิตรฯตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาต่อสู้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า นักวิชาการคนนี้ไม่ต้องมาท้า ตนเคยตั้งพรรคการเมืองมาแล้ว พรรคการเมืองนั้นเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่เราเป็นภาคประชาชน อย่ามาชวนเสียให้ยาก ตนยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะไม่พัฒนาการไปเป็นพรรคการเมือง
นายสมศักดิ์ เสริมว่า นักวิชาการที่เสนอควรไปตั้งพรรคการเมืองเอง เพราะเรื่องนี้เป็นการเมืองแบบเก่า นักวิชาการพวกนี้จะต่างอะไรกับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีสมองนิดเดียว ที่ไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับประเทศไทย รู้เพียงแค่ว่าการเมืองจะต้องมีพรรคการเมือง แต่พรรคการเมืองปัจจุบันกลับกลายเป็นแก๊งค์เป็นก๊วน พวกนี้ก็รู้กันถือเป็นพวกน้ำเน่าทางการเมือง
**พธม.ปรับพื้นที่ฆ่าเชื้อโรค
สำหรับบรรยากาศการชุมนุมของพันธมิตรฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ายังคงดำเนิน ไปอย่างปกติ มีแกนนำและแนวร่วมพันธมิตรฯ สลับกันขึ้นเวทีปราศรัยและการแสดงดนตรี ส่วนผู้ชุมนุมต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรประจำวันและในช่วงสายพันธมิตรฯได้มีการปรับปรุงพื้นที่ด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งเป็นดินโคลนและส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลมาตลอดระยะเวลาในการชุมนุม โดยผู้ชุมนุมต่างช่วยกันยกพาเหรดไม้ที่ใช้เป็นทางเดินและที่นั่งออก จากนั้นโรยปูนขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคเสร็จ แล้วนำรถกำจัดน้ำเสียและกลิ่นนขไขมัน มาดูดน้ำที่ท่วมขังออก จากนั้นได้นำทรายประมาณ 100 ถุงมาเทกลบดินโคลน
ทั้งนี้ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ได้รับการสนับสนุนจากวิศวกรผู้หนึ่งที่ไม่ประสงค์ออกนามมาช่วยออกแบบและออกเงินให้พับพันธมิตรฯ เพื่อช่วยเหลือในการปรับปรุงพื้นที่การชุมนุม เพราะเห็นว่าผู้ชุมนุมนั่งนอนกันลำบาก ซึ่งอาจทำให้เกิดเจ็บป่วยได้
****สนธิเฉ่งพัชรวาท
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งคำถามไปถึง พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่ายังเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อยู่หรือเปล่า หรือยังมีความเป็นธรรมในหัวใจอยู่หรือเปล่า หรือเป็นแค่รับใช้นักการเมืองเท่านั้น
นายสนธิ กล่าวว่า การตั้งข้อหา 9 แกนนำพันธมิตรฯในข้อหากบฏ ถือว่าไม่สมเหตุสมผล โดยยกตัวอย่างรัฐธรรมนูญมาตรา 163 ที่ฝ่ายรัฐบาลมีเจตนาล้มล้างรัฐธรรมนูญ มีการออกมติคณะรัฐมนตรีขายอธิปไตยกรณีปราสาทพระวิหาร ใครกันแน่ที่เป็นกบฎ พร้อมทั้งเปรียบเทียบกรณีของ นายขวัญชัย ไพรพนา ที่นำม็อบคนอุดรฯ มีการปลุกระดมให้มาฆ่าคน มีหลักฐานชัดเจน แต่ทำไมยังปล่อยให้มีการเคลื่อนไหวอย่างลอยนวล
นายสนธิ ยังได้ยกตัวอย่างกรณีกลุ่ม นปก.ที่ถือมีด ไม้ อาวุธอื่นๆมาทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ โดยมี ส.ส. รัฐมนตรีเข้าร่วมมาก่อจลาจล ทำไมตำรวจไม่ดำเนินคดีกับคนพวกนี้
"ผมอยากเตือน พล.ต.อ.พัชรวาท ว่าถ้าแตะต้อง 9 แกนนำแม้แต่คนเดียวแผ่นดินลุกเป็นไฟแน่นอน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง หรือใช้กรณีบุกเอ็นบีทีมาอ้าง ทั้งที่พวกเราไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยใช้ศาลเป็นเครื่องมือมากลั่นแกล้งกับคนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง" นายสนธิ ระบุ
นายสนธิ ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม่ตำรวจและอัยการของญี่ปุ่นถึงได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาจับแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ส่วนตำรวจไทยท้าให้สำรวจความเห็นของประชาชน เชื่อว่าผลจะออกมาว่าทำตัวเหมือนโจร พร้อมเตือนให้ระวังเมื่อสังคมเปลี่ยนแปลง โดยให้ดู นายกฯหอกหักเป็นตัวอย่าง
“ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตำรวจครั้งใหญ่ ภายใต้การเมืองใหม่ โดยตำรวจจะต้องถูกรื้อครั้งใหญ่ ยกตัวอย่างให้ตำรวจนครบาลไปขึ้นกับกรุงเทพมหานคร ส่วนตำรวจภูธรให้ไปขึ้นกับจังหวัดหรือท้องถิ่น ส่วนตำรวจส่วนกลางให้ตั้งเป็นกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยผู้บังคับบัญชาสูงสุดต้องได้รับเลือกจากสภาด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 เพื่อป้องกันการวิ่งเต้นและรับใช้นักการเมือง
ในตอนท้าย นายสนธิ ได้กล่าวชมเชย สุภาพสตรีที่มีความอดทนและเสียสละร่วมกันต่อสู้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและอันตรายใดๆทั้งสิ้น ซึ่งต้องขอคารวะด้วยความจริงใจ
**พธม.ตปท.หนุนการเมืองใหม่
วานนี้ (15 ก.ย.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกา-แคนาดา ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุด ฉบับที่ 6/2551 เรื่อง "ขอสนับสนุนการต่อสู้และร่วมสร้างการเมืองใหม่" ส่งไปยังประชาชนเครือข่ายพันธมิตรฯในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ประเทศไทยและสื่อมวลชน
โดยรายละเอียดแถลงการณ์ มีใจความสำคัญพอสรุปว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีมติร่วมกันสนับสนุนการต่อสู้ ดังต่อไปนี้ 1.ขอสนับสนุนนักเรียน นิสิต นักศึกษา องค์กรเยาวชนต่าง ๆ เข้าร่วมกับประชาชนในการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงและสร้างประเทศไทยใหม่ให้เจริญก้าวหน้าโดยมีศีลธรรม จริยธรรมเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ในทุกด้าน
2.สนับสนุนทุกองค์กรอย่างเต็มกำลังเพื่อขจัดรัฐบาลชั่วขายชาติ หุ่นเชิด ทรราช ทุนสามานย์ ให้พ้นจากอำนาจโดยเร็วในทุกวิถีทาง 3.สนับสนุนการสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏเป็นจริงด้วยการระดมความคิดเห็นจากพี่น้องในรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อสรุปแนวทางของการเมืองใหม่ในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม 4.พร้อมยืนหยัดต่อสู้ร่วมกับพี่น้องประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา องค์กรเยาวชนและประชาชนในทุกภาคส่วนจนกว่าจะได้ชัยชนะอย่างเด็ดขาด
**11องค์กรจี้ พปช.เสียสละเพื่อชาติ
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมศรีวิชัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี นักวิชาการพร้อมเครือ 11 เครือข่ายองค์กรเอกชนใน จ.สุราษฏร์ธานี ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันปัญหาการเมืองกำลังวิกฤตถึงทางตัน จากที่นักการเมืองขาดคุณธรรม เรียกร้องให้พรรคพลังประชาชนยุติการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้เครือข่ายประชาสังคมสุราษฎร์ธานีเสนอทางออกในการคลี่คลายปัญหาและสร้างการเมืองใหม่หลายประการโดยสรุปดังนี้คือ หันมาใช้ปัญญาในการคลี่คลายปัญหา พัฒนาการเมือง และให้พรรคพลังประชาชน เสียสละเพื่อบ้านเมือง โดยยุติบทบาทการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และให้สมาชิกรัฐสภา ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ในการใช้เอกสิทธิ์ส่วนตนเลือกบุคคลที่มีคุณธรรมเป็นที่ยอมรับของสังคมและมีทัศนคติทางการเมืองตามหลักธรรมาธิปไตย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
**จัดหน่วยฉก.จับ9 แกนนำพธม.
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบช.น.เปิดเผยหลัง ประชุมนายตำรวจระดับรอง ผบช.น., ผบก.น.1-9 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปและประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณ ทำเนียบรัฐบาล ว่า หลังมีการยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจยังคงกำลังในการดูแลความสงบเรียบร้อยไว้ 15 กองร้อย หรือ 2,250 นาย และยังมีกำลังสนับสนุนจากทหารอีกจำนวนหนึ่ง เตรียมพร้อม ณ ที่ตั้ง ซึ่งสามารถออกปฏิบัติการได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวถึง การดำเนินการจับกุม 9 แกนนำพันธมิตรฯ ว่า บุคคลที่ต้องจับตามประกาศสืบจับ ถ้ามีโอกาสจับได้ต้องจับแน่นอน คดีนี้มีอายุความ 20 ปี ถ้าหากเข้าไปจับแล้วเกิดความสูญเสีย เราก็รอได้ โดยขณะนี้มีการตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาติดตามการเคลื่อนไหวของ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ที่ถูกออกหมายจับตลอดเวลา หากออกมานอกทำเนียบเมื่อไหร่ และไม่เกิดการกระทบกระทั่งจะเข้าทำการจับกุมทันที โดยขอยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้ละเลยการบังคับใช้กฎหมายอย่างที่หลายฝ่ายจับตามองแน่นอน
*****************
