สมศ.เสนอ “โอบามาร์ค” ตั้งสถาบันพัฒนาครู หวังยกคุณภาพการศึกษาที่แท้จริง เผย นายกฯ มีไอเดียนำงานวิจัยของ สมศ.ใช้จัดงบลงโรงเรียน โดยต้องดูผลประเมินของ สมศ.ก่อน เพื่อเป็นการประกันคุณภาพทางการศึกษา เรียนฟรีอย่างมีคุณภาพตามนโยบายของรัฐบาล
ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ผอ.สมศ.) กล่าวว่า เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งนายกฯได้ย้ำเรื่องนโยบายเรียนฟรี ต้องฟรีจริง เพราะเป็นนโยบายหลักของพรรค อย่างไรก็ตาม การเรียนฟรีต้องมีคุณภาพด้วย โดยเฉพาะโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล และโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ไม่ผ่านการประเมินของ สมศ.จำนวน 4,566 โรง จะดูแลโรงเรียนเหล่านี้อย่างไร เช่น อาจให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลโรงเรียนเหล่านี้
สำหรับการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ในประเด็นหลักๆ คือ การขับเคลื่อนเรื่องที่ยังไม่ได้ดำเนินการในการปฏิรูปรอบแรก เช่น หมวด 7 เรื่องการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ งานวิจัยได้บอกไว้ชัดเจนว่าหากไม่พัฒนาครูและบุคลากร คุณภาพการศึกษาก็จะไม่เกิด และไม่ก้าวหน้า
ฉะนั้น สิ่งที่ต้องเร่งผลักดันคือสถาบันผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ได้คนดี คนเก่ง มาเป็นครู จุดนี้จะทำให้เด็กมีคุณภาพขึ้น ซึ่งการจัดตั้งสถาบันฯ มีร่างพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านการตรวจจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วใช้เวลาเพียง 1-2 เดือน ก็ทำได้ ถ้าทำ 2 อย่างนี้การปฏิรูปการศึกษาจะเห็นหน้าเห็นหลังภายใน 3-5 ปี
ผอ.สมศ.กล่าวถึงสถาบันที่จะผลิตและพัฒนาครู ว่า ได้มีคณะอนุกรรมการที่ทำร่วมกันระหว่าง สมศ.และสำนักงานสภาการศึกษา (สกศ.) จะขอพระราชทานนามสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านที่ทรงทุ่มเทพระวรกายด้านการศึกษาอย่างมาก มาเป็นชื่อสถาบันแห่งชาติ ว่า ด้วยการผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา องค์การมหาชน โดยสถาบันนี้จะผลิตครู 6 ปี เทียบคือจบระดับปริญญาโท เนื่องจากผู้ที่จะมาเป็นครู จบปริญญาตรีไม่พอแล้ว
“นายกฯ บอกว่า จะนำงานวิจัยที่ สมศ.ทำไว้ไปสู่การปฏิบัติจริง และได้สั่งการการจัดสรรงบประมาณลงสู่โรงเรียนต่างๆ โดยจะดูผลการประเมินของ สมศ.เป็นหลัก ให้สอดคล้องกับนโยบายการเรียนฟรีนั้นต้องฟรีอย่างมีคุณภาพ และหากโรงเรียนไหนไม่ผ่านการประเมิน จะต้องช่วยให้ผ่านระดับมาตรฐานขั้นต่ำให้ได้”
ผอ.สมศ.กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นนักการเมืองมืออาชีพ ใกล้ชิดนายกฯและจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเอง มั่นใจว่าจะช่วยให้งานการศึกษาเดินหน้ารวดเร็วขึ้น ตนจะไปพบ รมว.ศธ.เพื่อรายงานเรื่องนี้วันที่ 24 ธันวาคม
ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (ผอ.สมศ.) กล่าวว่า เข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ซึ่งนายกฯได้ย้ำเรื่องนโยบายเรียนฟรี ต้องฟรีจริง เพราะเป็นนโยบายหลักของพรรค อย่างไรก็ตาม การเรียนฟรีต้องมีคุณภาพด้วย โดยเฉพาะโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร ห่างไกล และโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ไม่ผ่านการประเมินของ สมศ.จำนวน 4,566 โรง จะดูแลโรงเรียนเหล่านี้อย่างไร เช่น อาจให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลโรงเรียนเหล่านี้
สำหรับการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 ในประเด็นหลักๆ คือ การขับเคลื่อนเรื่องที่ยังไม่ได้ดำเนินการในการปฏิรูปรอบแรก เช่น หมวด 7 เรื่องการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ งานวิจัยได้บอกไว้ชัดเจนว่าหากไม่พัฒนาครูและบุคลากร คุณภาพการศึกษาก็จะไม่เกิด และไม่ก้าวหน้า
ฉะนั้น สิ่งที่ต้องเร่งผลักดันคือสถาบันผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ได้คนดี คนเก่ง มาเป็นครู จุดนี้จะทำให้เด็กมีคุณภาพขึ้น ซึ่งการจัดตั้งสถาบันฯ มีร่างพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านการตรวจจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้วใช้เวลาเพียง 1-2 เดือน ก็ทำได้ ถ้าทำ 2 อย่างนี้การปฏิรูปการศึกษาจะเห็นหน้าเห็นหลังภายใน 3-5 ปี
ผอ.สมศ.กล่าวถึงสถาบันที่จะผลิตและพัฒนาครู ว่า ได้มีคณะอนุกรรมการที่ทำร่วมกันระหว่าง สมศ.และสำนักงานสภาการศึกษา (สกศ.) จะขอพระราชทานนามสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านที่ทรงทุ่มเทพระวรกายด้านการศึกษาอย่างมาก มาเป็นชื่อสถาบันแห่งชาติ ว่า ด้วยการผลิตและพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา องค์การมหาชน โดยสถาบันนี้จะผลิตครู 6 ปี เทียบคือจบระดับปริญญาโท เนื่องจากผู้ที่จะมาเป็นครู จบปริญญาตรีไม่พอแล้ว
“นายกฯ บอกว่า จะนำงานวิจัยที่ สมศ.ทำไว้ไปสู่การปฏิบัติจริง และได้สั่งการการจัดสรรงบประมาณลงสู่โรงเรียนต่างๆ โดยจะดูผลการประเมินของ สมศ.เป็นหลัก ให้สอดคล้องกับนโยบายการเรียนฟรีนั้นต้องฟรีอย่างมีคุณภาพ และหากโรงเรียนไหนไม่ผ่านการประเมิน จะต้องช่วยให้ผ่านระดับมาตรฐานขั้นต่ำให้ได้”
ผอ.สมศ.กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นนักการเมืองมืออาชีพ ใกล้ชิดนายกฯและจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเอง มั่นใจว่าจะช่วยให้งานการศึกษาเดินหน้ารวดเร็วขึ้น ตนจะไปพบ รมว.ศธ.เพื่อรายงานเรื่องนี้วันที่ 24 ธันวาคม
