xs
xsm
sm
md
lg

เด็กไทยยังมึนระบบแอดมิชชัน วิ่งสอบ GAT, PAT วุ่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็กไทยยังไม่เข้าใจการสอบ GAT, PAT ติผู้ใหญ่เปลี่ยนระบบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยไม่เคยถามเด็ก “อุทุมพร” เผย แจกซีดีหวังให้ครูอธิบายให้เด็กฟัง สุดท้ายถูกเมินเก็บเข้าลิ้นชัก ย้ำสอบความถนัดไม่ต้องกวดวิชา ด้าน เลขา สพฐ. เชิญ สทศ.ทำความเข้าใจการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ในการประชุม ผอ.ร.ร.ยอดฮิต 3 ธ.ค.นี้

วันนี้ (1 ธ.ค.) ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย จัดเสวนาเรื่องการศึกษาไทย “ของใคร โดยใคร เพื่อใคร” โดยมีคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) รศ.ดร.พฤทธิ์ ศิริบรรณพิทักษ์ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากร

ทั้งนี้ ในการเสวนาได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความเปลี่ยนแปลงของวงการศึกษาไทยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นระบบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระบบอุดมศึกษา (แอดมิชชัน) ประจำปี 2552 และ 2553 ซึ่งได้เพิ่มความถนัดทั่วไป (GAT : General Aptitude Test) และความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT :Professional and Academic Aptitude Test) เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบการแอดมิชชัน ปี 2553 ซึ่งเปลี่ยนแปลงการรับเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาบ่อย ทำให้หลายคนยังไม่เข้าใจ

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า ระบบเอนทรานซ์แบบเก่าเด็กจะต้องเลือกคณะที่อยากเรียนก่อนรู้คะแนนสอบ แต่ระบบแอดมิชชันนั้น ใช้คะแนนเลือกคณะ ซึ่งต่างประเทศเวลาเลือกเข้ามหาวิทยาลัยใช้ความถนัดเฉพาะทางเป็นหลัก แต่ของบ้านเราใช้ผลการเรียน ตรงนี้สวนทางกับความต้องการ เพราะคนที่เข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เพื่อต้องการออกไปประกอบวิชาชีพ ดังนั้น การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยจึงควรมีเป้าหมายว่า ออกไปแล้วจะทำอะไร เพื่อให้เรียนได้ตรงตามความถนัด และสามารถใช้ได้จริง

ศ.ดร.อุทุมพร กล่าวว่า สทศ.ประชาสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่องว่าการรับสมัครสอบ GAT, PAT ไม่จำเป็นต้องสอบทุกครั้ง ทุกวิชา ให้เลือกสอบครั้งที่มั่นใจที่สุดจะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าสมัคร เราเจอพฤติกรรมการสมัครของเด็กจำนวน 29 คน สมัครสอบทุกครั้ง ทุกวิชา สอบถามนักเรียนตอบว่าการสอบครั้งแรก อยากดูข้อสอบ ทั้งๆ ที่ผ่านมา สทศ.ได้มอบซีดี แนะนำการสอบ GAT, PAT ให้กับโรงเรียนจำนวน 3,000 แผ่น ถ้าหากโรงเรียนอยู่ใน กทม.ไม่น่ามีปัญหา เพราะ สทศ.ส่งเอกสารให้กับทุกโรง แต่กลับพบว่าผู้บริหารหลายแห่งไม่ให้ความสำคัญ เก็บซีดีไว้ไม่ยอมนำออกมาอธิบายให้ครูหรือเด็กฟัง ส่งผลให้การประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร

คุณหญิงกษมา แสดงความเห็นว่า การศึกษาต้องเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพสังคมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มีการพัฒนาหลักสูตร เพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ของแต่ละโรงเรียน ส่วนที่หลายฝ่ายถามว่า GAT, PAT จะเป็นการเพิ่มภาระในการสอบมากขึ้นหรือไม่ ตนกลับมองว่า เป็นสิ่งที่เด็กตกผลึก ไม่ผูกพันกับเนื้อหา เด็กจึงไม่จำเป็นต้องติว หรือไปเรียนกวดวิชา อย่างไรก็ตาม ในการประชุมผู้บริหารโรงเรียนจะจัดระหว่างวันที่ 3 -4 ธ.ค.นี้ สพฐ.จะเชิญ ศ.ดร.อุทุมพร มาคุยกับ ผอ.ร.ร.ยอดนิยม เพื่อทำความเข้าใจกับผู้บริหารและครูแนะแนว ว่าการสอบ GAT, PAT คืออะไร

ขณะที่ นายเศรษฐวิทย์ ศรียาบ ประธานนักเรียน ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัย กล่าวว่า นักเรียนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ต้องเปลี่ยนระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อเปลี่ยนแล้วจะช่วยให้เด็กเลิกกวดวิชา และวิ่งรอกสอบได้จริงเหรอ ต้องบอกว่าระบบการศึกษาเปลี่ยนไป ไม่หยุดนิ่ง จนเด็กไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง เรียนอะไร รู้แค่ว่าต้องสอบตามระบบไปเรื่อยๆ จนบางคนต้องวิ่งเรียนกวดวิชา เพราะอยากสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง หรือคณะที่ตนเองต้องการ ที่สำคัญทุกคนเชื่อว่าการเรียนกวดวิชาเป็นการเพิ่มเติมความรู้ ทำให้ได้เปรียบเพื่อนคนอื่น

น.ส.นฤมล ทิพย์รักษ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร.ร.ศึกษานารี กล่าวว่า เด็กเข้าใจเรื่องแอดมิชชัน GAT PAT น้อยมาก รับรู้ว่า ต้องสอบมากกว่า แต่ไม่เข้าใจว่าสอบไปเพื่ออะไร สอบทำไม และทุกครั้งที่มีการจัดเสวนาเป็นการสอบถามความคิดเห็นของเด็กหลังจากที่ผู้ใหญ่ตัดสินใจไปแล้ว อีกทั้งเมื่อรับฟังความคิดเห็นของเด็กก็ไม่เคยนำไปปฏิบัติ หรือนำไปเปลี่ยนแปลงอะไรให้ดีขึ้นมา ซึ่งการปรับเปลี่ยนระบบการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนั้น ผู้ใหญ่ต้องการให้เป็นระบบที่คัดเลือกเด็กที่มีคุณภาพ และเพื่อประโยชน์ของเด็กจริงๆ แต่ผู้ใหญ่ไม่เคยถามเด็กสักครั้งว่าระบบการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงนั้น เด็กต้องการหรือไม่

กำลังโหลดความคิดเห็น