ยอดผู้ติดเชื้อหวัด 2009 ขยับเพิ่มอีก 69 ราย รวมยอดป่วยแล้ว 774 ราย อึ้ง! หญิงวัย 57 ปี ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ปอดทะลุเหตุจากส่องกล้องหาความรุนแรงโรค อาการยังน่าห่วง อยู่ไอซียู ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ชี้อาการผู้ป่วยไม่ได้เกิดจากความรุนแรงของโรค ระดมแพทย์เชี่ยวชาญติดตามอาการใกล้ชิด
วันนี้ (22 มิ.ย.) นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการตรวจเยี่ยมโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี และพบปะนักเรียนที่หน้าเสาธง ว่า วันนี้ (22 มิ.ย.) มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทั้งสิ้น 69 ราย ทำให้มียอดสะสมเป็น 774 ราย โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้น 69 ราย ในจำนวนนี้เป็นนักเรียน 60 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่ 8 ราย และเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ 1 ราย โรงเรียนจึงเป็นสถานที่ที่น่าเป็นห่วงของการแพร่ระบาด จึงฝากให้นักเรียนยึดหลักในการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด กินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ ซึ่งจะช่วยลดการติดเชื้อหวัดทุกชนิดได้ถึงร้อยละ 90
นายวิทยากล่าวต่อว่า ไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 พบครั้งแรกที่เม็กซิโก ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ข้อมูลในครั้งแรกว่า ในผู้ป่วย 100 ราย เสียชีวิต 6 ราย จึงเกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลก แต่เมื่อเชื้อดังกล่าวเข้ามาสหรัฐฯ ทำให้ทราบว่าข้อมูลครั้งแรกไม่ถูกต้อง โรคนี้ส่วนใหญ่หายได้เอง อัตราการเสียชีวิตจึงอยู่ที่ร้อยละ 0.2-0.4 เท่านั้น ซึ่งใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ธรรมดา ปีที่ผ่านมา มีผู้ป้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ธรรมดาในไทย ถึง 900,000 คน เสียชีวิต 302 คน อย่างไรก็ตาม แม้ไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 จะไม่รุนแรงแต่ก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ จึงต้องฝากให้นักเรียนรักษาความสะอาด เพื่อป้องกันโรค
“แม้มีบางโรงเรียนประกาศหยุดเรียนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อหวัดใหญ่ฯ 2009 แต่จะพบว่ามีการแพร่ระบาดจากโรงเรียนในเมืองไปยังโรงเรียนย่านปากน้ำ จ.สมุทรปราการ เมื่อกระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบ พบว่าเป็นการแพร่ระบาดจากโรงเรียนกวดวิชาแทน สำหรับมาตรการต่างๆ ที่ สธ.รณรงค์ให้ความรู้ทำความเข้าใจประชาชน ได้รับการตอบรับดีและเข้าใจว่าไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 ไม่ใช่หวัดมฤตยู” รมว.สธ.กล่าว
นายวิทยา กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ. ติดตามอาการผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างใกล้ชิด และรายงานเป็นระยะ โดยเฉพาะผู้ป่วยหญิง อายุ 57 ปี ที่มีอาการหนักมีโรคแทรกซ้อนเป็นปอดบวม อาการยังคงน่าห่วง โดยผู้ป่วยเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งมานาน 3 วันแล้ว โดยติดจากลูก ซึ่งล่าสุด ลูกและบุคคลใกล้ชิดที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังของผู้ป่วยรายนี้หายเป็นปกติดีแล้ว
สาวใหญ่ป่วยหวัด 2009 ปอดทะลุ อาการยังน่าห่วง
นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงอาการของหญิงวัย 50 ปี ผู้ป่วยยืนยันป่วยเป็นโรคไข้หวัดหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ที่มีอาการหนักป่วยว่า ขณะนี้ผู้ป่วยยังคงรับการรักษาอยู่ที่ห้องไอซียูโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ด้าน อาทิ วิสัญญีแพทย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคติดเชื้อ ปอด จากโรงพยาบาลศิริราชแลโรงพยาบาลเอกชน เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามผู้ป่วยไม่สามารถหายใจได้เองโดยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีอาการทรงตัว และมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าอาการปลอดภัยแล้วหรือไม่
“ผู้ป่วยมีโรคแทรกซ้อนเป็นโรคปอดบวม แพทย์ที่ทำการรักษาจึงส่องกล้องเพื่อตรวจว่าโรคมีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน ทำให้เกิดอาการปอดทะลุ ซึ่งการทำหัตถการทุกประเภทถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดผลที่ไม่พึ่งประสงค์ แต่พบได้น้อยมาก ดังนั้น อาการของผู้ป่วยรายนี้จึงไม่ได้เกิดจากความรุนแรงของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นเพราะตัวโรคส่วนหนึ่งและการส่องกล้องที่ปอดเพื่อหาสาเหตุด้วยส่วนหนึ่ง”นพ.ไพจิตร์กล่าว
นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า โดยปกติโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้อยู่แล้ว ประมาณ 300 รายต่อปี ส่วนใหญ่เนื่องจากมีโรคประจำตัว และเกิดโรคแทรกซ้อนแต่ไม่ได้รับความสนใจทำให้ไม่เป็นประเด็นเพราะถือเป็นธรรมชาติของโรค ในผู้ป่วยรายนี้ก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีโรคแทรกซ้อนอาการก็ไม่น่าเป็นห่วงเช่นนี้
ประสาน รพ.เอกชนขอรายละเอียดการรักษา
นพ.เรวัติ วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงอาการของผู้ป่วยหญิงที่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 1 ราย ซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งใน กทม.ว่า อาการล่าสุดอยู่ในกลุ่มที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จำกัด ความว่า “เป็นผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและต้องเฝ้าติดตามอย่างดี” ซึ่งกรมการแพทย์ และ สธ.เป็นห่วงมาก แต่เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้รักษาตัวที่ รพ.เอกชน การเข้าไปดูข้อมูลการรักษา จึงไม่ได้รับความสะดวก รวมทั้งกระทรวงฯ ไม่สามารถส่งทีมแพทย์เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดได้ เพราะไม่มีระเบียบกฎหมายใดทำได้ จึงอยู่ระหว่างประสานผู้บริหาร รพ.เอกชนดังกล่าวเพื่อขอความร่วมมือ
ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 กรมการแพทย์ ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยแพทย์ จัดทำรายละเอียดวิธีการรักษาผู้ป่วย ให้ทุกโรงพยาบาลปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน ดังนั้น ผู้ป่วยรายนี้ ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ทั้งหมด ต้องได้ข้อมูลการรักษาและการวินิจฉัยว่ามีการตรวจอย่างไรบ้าง พบความผิดปกติที่ปอดวันใด และให้ยารักษาวันไหน ทั้งนี้ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อจากลูก ซึ่งเป็นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 เช่นกัน แต่ไม่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าลูกติดเชื้อมาอย่างไร แต่ขณะนี้ลูกหายดีแล้ว
สธ.ออกให้ความรู้หวัด 2009
นพ.ม.ล.สมชาย จักร์พันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นำเจ้าหน้าที่มาแจกเจลล้างมือ หน้ากากอนามัยและแผ่นพับ คู่มือให้ความรู้ในการป้องกันตันเองจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พบผู้ป่วยในสถานศึกษามากที่สุดกว่า 100 คน และปิดเรียนไปก่อนหน้านี้ 7 วัน เปิดเรียนวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับวันนี้เป็นวันที่สองแล้ว จากการสังเกตพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหน้ากากอนามัย แต่ก็มีผู้ปกครองบางรายเตรียมหน้ากากอนามัย N95 โดยบอกว่าเพื่อความสบายใจให้ลูกได้มีไว้ใช้ในโรงเรียน
“เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้ปกครองและนักเรียนพบว่ามีความรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ ดีมาก ทั้งการป้องกันตนเองและการดูแลเพื่อนร่วมห้อง โดยผู้ปกครองให้ความร่วมมือและไม่ตื่นตระหนก อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมโรคยังต้องคงมาตรการป้องกันต่อไปในช่วงนี้ สำหรับผู้ปกครองที่นำเด็กไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงเพื่อความสบายใจและถือว่าป้องกันไข้หวัดปกติได้ด้วย” นพ.ม.ล.สมชายกล่าว
กำชับรพ.ดูแลนร.กลุ่มเสี่ยงใกล้ชิด
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยม โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเปิดเรียนวันแรก หลังประกาศหยุดการเรียนการสอน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพบนักเรียนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยภายหลังจากการแจกคู่มือรู้เท่าทันเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือ พร้อมกล่าวว่า วันนี้กระทรวงฯ ได้กระจายทีมลงพื้นที่ตามโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ฯและเร่งรณรงค์ทำความเข้าใจให้นักเรียนดูแลรักษาสุขอนามัยของตนเอง สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่มีอาการรุนแรง มีโรคแทรกซ้อน อยู่ในข่ายเฝ้าระวังนั้น ได้ให้คณะแพทย์ดูแลใกล้ชิดแล้ว ซึ่งไข้หวัดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลหรือไข้หวัดใหญ่ 2009 หากมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
นอกจากนี้ ได้กำชับโรงพยาบาลในสังกัด สธ.ให้ดูแลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้มีโรคเรื้อรัง
