รองปลัดกทม.นัดประชุมผู้สื่อข่าวประจำ กทม.ถึงเรื่องการรับสมัครเลือกตั้ง และการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ย้ำให้สื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น พร้อมระบุการเลือกผู้ว่าฯกทม.สำคัญต่อชาวกทม.ตั้งแต่เกิดไปจนตาย
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัดกทม. เป็นประธานในการประชุมสื่อมวลชนเพื่อรับทราบข้อมูลการรับสมัครและเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่าระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 2551 เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. ในส่วนของการรับสมัครนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้งฯลงทะเบียน เพื่อแสดงความประสงค์ในการลงสมัคร เมื่อถึงเวลาในสมัครให้ตกลงว่าใครจะเป็นผู้สมัครก่อน-หลัง ถ้าตกลงกันไม่ได้ใช้วิธีการจับสลาก โดยใช้วิธีการจับ 2 ครั้ง ครั้ง 1 เจ้าหน้าที่รับสมัครฯ เขียนชื่อผู้สมัครลงในภาชนะ และให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งฯเป็นผู้จับสลาก ว่าผู้สมัครผู้ใดมีสิทธิจับสลากก่อน-หลัง ในการจับสลากครั้งที่ 2 เมื่อจับสลากครั้งที่ 2 เจ้าหน้าที่จะเขียนหมายเลขเท่าจำนวนผู้สมัคร ลงในภาชนะ แล้วเชิญผู้สมัครตามลำดับที่จับสลากได้ในครั้งแรก ขึ้นจับสลากในครั้งที่ 2 ผลของการจับสลากเป็นลำดับในการยื่นใบสมัคร เมื่อทราบผลของการสมัครลำดับต่อไปเป็นขั้นตอนต่างๆในการสมัคร
สำหรับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งที่แล้วมีจำนวน 4,245,147 คน แต่ในครั้งนี้(11 ม.ค.52) จะเพิ่มมากกว่า 80,000 คน นอกจากนี้ยังได้ระบุถึงผลการเลือกตั้งฯว่าจะทราบอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 11 ม.ค. ในเวลา 02.00 น.
รองปลัดกทม. กล่าวภายหลังจาการประชุม ว่า อยากวิงวอนให้พี่น้องประชนออกมาใช้สิทธิเพื่อกทม.จะมีผู้บริหารที่มีคุณธรรม โปร่งใส และเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะคะแนนเสียงที่ได้รับนั้นเป็นพันธะ ผูกพันที่ผู้ว่าฯต้องมาทำหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนดไว้
"สำหรับการประชาสัมพันธ์นั้นขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบถึงความสำคัญของการเลือกตั้งฯผู้ว่าฯกทม. เพราะตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิตและการย้ายที่อยู่อาศัยนั้นต้องเกี่ยวกับผู้ว่าฯกทม. ทั้งสิ้น ในส่วนของงบประมาณการเลือกตั้งนั้นทางกทม.ได้จัดไว้เท่าเดิมคือ ไม่เกิน39ล้านบาท แต่อุปกรณ์จำพวกไม้กระดานจะใช้ของเดิม แต่จะใช้งบในประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเพื่อให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมากขึ้น"
รองปลัดกทม.กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ ทางกทม.ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด มีการเตรียมความพร้อมทุกอย่าง 100 % ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ โรงพยาบาล พยาบาล ยา กรุ๊ปเลือด และถ้าหากมีการปฏิวัติขั้นก็ขึ้นอยู่กับคณะปฏิวัติจะว่าอย่างไร แต่คิดว่าว่าไม่น่าจะมีการปฏิวัติเกิดขั้นเพราะผบ.เหล่าทัพก็ได้ออกมายืนยัน
