“พล.อ.เลิศรัตน์” เชื่อความขัดแย้งจนนำไปสู่การเผชิญหน้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม ชี้หากถึงเวลาการทำรัฐประหารก็ถือเป็นเรื่องจำเป็น รู้ทัน “พ่อแม้ว” โฟนอินไม่เหมาะสมหากใช้สื่อรัฐเป็นกระบอกเสียง เตือนพิธีกรแกนนำความจริงวันนี้ควบคุมมวลชนให้ดี
วันนี้ (31 ต.ค.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองว่า การก่อเหตุในวางระเบิดในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เป็นสัญญาณบอกว่ามีคนต้องการให้เกิดปัญหาขึ้นในบ้านเมืองและเกิดความรุนแรง เพราะฉะนั้น การจัดรายการความจริงวันนี้สัญจรในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) จึงจำเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวังควบคุมผู้ชุมนุมให้ได้โดยเฉพาะในช่วงที่รายการจบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคงต้องเตรียมการรับสถานการณ์อย่างดีที่สุด ทั้งนี้ หน้าที่เบื้องต้นในการดูแลความสงบเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนฝ่ายทหารเชื่อว่า ผบ.เหล่าทัพได้เตรียมความพร้อมดูแลความสงบไปหมดแล้ว
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวอีกว่า การออกมาเสนอทางออกของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ.ชวลิต คงเป็นห่วงสถานการณ์ซึ่งมีการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งคาดหมายได้ว่าความรุนแรงมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีฝ่ายที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันและไม่ยอมให้กัน อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่าทหารคงไม่ออกมาทำรัฐประหารเพียงเพราะเหตุผลเรื่องความแตกแยกและความขัดแย้งในสังคม สำหรับข้อเสนอให้ปรับคณะรัฐมนตรีเป็นข้อเสนอที่นายกรัฐมนตรีจะต้องคิด เพราะหากปรับ ครม.แล้วยังคงมี 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมคงไม่มีประโยชน์ หากจะมีการปรับเอาพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาก็เป็นเรื่องที่ต้องคิด แต่หากจะให้มีการยุบสภาตนไม่เห็นด้วย
“รัฐบาลอาจคำนึงถึงความต่อเนื่องของสถานการณ์หากมีการยุบสภา โดยหลายฝ่ายอาจคิดว่าหากยุบสภาแล้วอาจไม่มีหมากเดินต่อ ที่สุดแล้วคนที่ต้องตัดสินใจคือตัวนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้ชั่งใจเอาเอง” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นในช่วงนี้หรือไม่ พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า เชื่อว่าในช่วงนี้จนถึงเดือนธันวาคมไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงงานพระราชพิธีสำคัญ ซึ่งทุกฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพราะคงไม่มีใครอยากให้ทหารออกมาปฏิวัติหรือใช้ความรุนแรง เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่อฝ่ายใด แต่ถ้ามีความจำเป็นเพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ก็คงจำเป็นต้องทำ
เมื่อถามอีกว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทหารต้องออกมาทำรัฐประหาร พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา จะออกหรือไม่ออกทหารก็อยู่บนถนนอยู่แล้ว กำลังทหารมีอยู่ทั่วกรุงเทพฯ และพร้อมที่จะป้องกันไม่ให้พี่น้องชาวไทยต้องปะทะกัน โดยหากเกิดเหตุการณ์ปะทะจนควบคุมไม่ไหวทหารก็ต้องออกมาดูแล ตนเชื่อว่าทหารทราบดีว่าเวลาใดควรออกมายุติความรุนแรงหรือจลาจลที่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย
“แต่ถ้าถนนมันมีสีแดงมันก็หลีกเลี่ยงลำบาก เรื่องการเผชิญหน้า ผบ.เหล่าทัพได้ออกมาส่งสัญญาณแล้วว่ามันไม่ดี จะให้ผู้นำเหล่าทัพท่านพูดมากกว่านี้คงไม่ได้ ผมเชื่อว่าท่านคงเตรียมการอย่างดีอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่มีใครฟังใคร ปัญหาคือทุกคนหันหลังให้กับความคิดเห็นของผู้หลักผู้ใหญ่ไม่มีใครฟังใคร ถ้าวุฒิฯ ช่วยทำอะไรให้เกิดการแก้ปัญหาได้เราก็ยินดี โดยฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องใช้สติและหยุดใช้กำลัง ผมเชื่อว่า ผบ.เหล่าทัพทุกคนต้องเตรียมพร้อมอยู่แล้วซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมอย่างยาวนานไม่ใช่เฉพาะวันนี้ พรุ่งนี้ แต่อาจยาวต่อไป ผมเชื่อว่าเหตุการณ์มันไม่ยุติแค่นี้ ความขัดแย้งที่ไม่หันหน้าเข้าหากันมันไม่ยุติง่ายๆ” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะโฟนอินข้ามประเทศเข้ามาร่วมรายการความจริงวันนี้สัญจรนั้น ตนคิดว่าเรื่องการโฟนอินคงเลยเวลาที่จะพูดแล้ว เพราะทุกอย่างได้เตรียมการไว้หมดแล้ว หาก พ.ต.ท.ทักษิณไม่โฟนอินเข้ามาจะเท่ากับเป็นการหลอกมวลชนให้เข้ามาชุมนุม ประเด็นสำคัญ คือ ต้องไม่ให้มีการใช้สื่อของรัฐในการเผยแพร่ต่อเพราะจะเกิดความเสียหายได้ ส่วนการเดินทางมาอยู่ที่เกาะฮ่องกงของอดีตนายกรัฐมนตรีน่าจะเป็นเรื่องปกติที่อดีตนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาในประเทศแถบนี้บ่อยๆ เชื่อว่าคงไม่ใช่การมาบัญชาการอะไร
“ผมไม่เชื่อว่าจะมีการเคลื่อนมวลชนมาปะทะ ยกเว้นจะมีการระเบิดเกิดขึ้นอีกลูกสองลูก ทหารคงต้องออกมาดูแลเมื่อตำรวจขอให้ออกมาช่วย” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว
