สธ.เผยทั่วโลกโรคเอดส์แพร่ระบาดเพิ่มขึ้น พบป่วยเพิ่มขึ้นนาทีละ 5 คน คาดแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกที่ทั่วโลก ส่วนไทยคาดปีนี้ มีผู้ใหญ่ติดเชื้อรายใหม่ 12,787 คน สาเหตุหลักจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่ที่น่าห่วงสุดคือกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี พบว่าหญิงป่วยมากกว่าชายเท่าตัว สาเหตุจากสื่อลามกยั่วยุ ชักนำ ขณะที่นร.ชาย-หญิงกว่าร้อยละ 60 ดูหนัง-วิดีโอโป๊ และ 1ใน 3 ท่องเว็บลามก พร้อมเร่งรณรงค์ป้องกันในสถานศึกษา
วานนี้(24พ.ย.)ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุญวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นางมนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พญ.พัชรา ศิริวงศ์รังสรรค์ ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และศิลปินร่วมกันแถลงข่าวการจัดการรณรงค์วัดเอดส์โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี
ในปีนี้องค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ได้กำหนดคำขวัญในการรณรงค์โรคเอดส์ว่า “เอดส์หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา” (Stop AIDS. Keep the Promise) ให้ผู้นำแต่ละประเทศเร่งขยายเป้าหมายการป้องกัน และให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงการดูแลรักษา และการหนุนเสริมอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง ภายในปีพ.ศ.2553 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคเอดส์ในภาพรวมทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดปี 2550 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประมาณ 33.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 93 เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 30.8 ล้านคน ที่เหลืออีก 2 ล้านกว่าคนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2.1 ล้านคน คาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ2.5ล้านคน เฉลี่ยวันละมากกว่า 6,800 คนหรือนาทีละ 5 คน โดยมากกว่าร้อยละ 40 เป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในทวีปแอฟริกาประมาณ 25 ล้านคน รองลงมาอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ล้านคน
จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ พ.ศ.2527ถึงปัจจุบัน คาดว่ามีผู้ใหญ่ติดเชื้อเอชไอวีประมาณ1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วประมาณ 585,830 คนยังเหลือผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่มีชีวิตประมาณ 532,522 คน และมีผู้ใหญ่ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 12,787 คน สำหรับประเทศไทยในปี 2551 จากรายงานผู้ป่วยเอดส์ที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพบว่าสาเหตุหลักร้อยละ 84 มาจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่น่าห่วงคือในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15–19 ปี แนวโน้มการติดเชื้ออาจขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากมีสื่อลามกยั่วยุและเข้าถึงได้ง่าย มีผลให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น โดยพบว่าวัยรุ่นดูหนังหรือวิดีโอโป๊เฉลี่ยร้อยละ 60 วัยรุ่นชายดูร้อยละ 82 วัยรุ่นหญิงดูร้อยละ 48 และเปิดเว็บลามกดูเฉลี่ยร้อยละ 35 หรือประมาณ 1 ใน 3 ของวัยรุ่น และมีอัตราการป้องกันการติดเชื้อเมื่อมีเพศสัมพันธ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยผู้หญิงมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 39 ทำให้อัตราวัยรุ่นหญิงป่วยเป็นโรคเอดส์สูงกว่าชาย 2 เท่าตัว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ได้ขยายบริการยาต้านไวรัสเข้าสู่โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ผู้ป่วยทุกรายเข้าถึงยาต้านไวรัสตั้งแต่พ.ศ.2548 ในปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลได้จัดงบรักษาผ่านทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2,983 ล้านกว่าบาท ขณะเดียวกันได้ขยายการป้องกันปัญหาเอดส์ในวัยรุ่น เยาวชน วัยเรียน โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำเยาวชน ป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในสถาบันการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี 2549 จนถึงขณะนี้ มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการแล้ว 73 แห่ง ใน 22 จังหวัด สร้างแกนนำเยาวชนแล้ว 20,356 คน ตั้งเป้าหมายดำเนินการต่อในปี 2552-2554 ใน 43 จังหวัด จำนวน 146 แห่ง
ด้าน นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุดในปัจจุบัน คือปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง และกลุ่มที่มีรายได้น้อยที่ยิ่งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้จัดให้มีสถานบริการรักษาโรคเอดส์แล้ว 900 กว่าแห่งทั่วประเทศ และตั้งแต่ปี2549ถึงปี2551 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการได้ให้สถานศึกษาจัดกิจกรรม คำแนะนำสำหรับวัยรุ่น วัยเรียนให้เข้าใจปัญหาและร่วมกันป้องกันการมีเพศสัมพันธ์
สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2551 นี้ จะจัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยในส่วนกลางกำหนดจัดในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา 12.00 – 19.00 น. ที่ลานการ์เด้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีการเดินขบวนพาเหรด, การแปลอักษร, มินิคอนเสิร์ตจากวง C Quint และน้องมัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย, อัลคาซ่า โชว์, ปอม ปอม เชียร์, B Boy นิทรรศการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์เน้นในกลุ่มแกนนำวัยรุ่นและชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย และลานกีฬา ซึ่งมุ่งเน้นให้เยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการรณรงค์ ได้รับความรู้ ทักษะ เกิดความคิดสร้างสรรค์ ที่จะนำไปเป็นพลังขับเคลื่อนความเป็นผู้นำในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ การใช้ชีวิตร่วมกับผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์อย่างถูกต้องเหมาะ
วานนี้(24พ.ย.)ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ปราชญ์ บุญวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นางมนทิรา ทองสาริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค พญ.พัชรา ศิริวงศ์รังสรรค์ ผู้อำนวยการสำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และศิลปินร่วมกันแถลงข่าวการจัดการรณรงค์วัดเอดส์โลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี
ในปีนี้องค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ได้กำหนดคำขวัญในการรณรงค์โรคเอดส์ว่า “เอดส์หยุดได้ ร่วมใจรักษาสัญญา” (Stop AIDS. Keep the Promise) ให้ผู้นำแต่ละประเทศเร่งขยายเป้าหมายการป้องกัน และให้ผู้ป่วยโรคเอดส์เข้าถึงการดูแลรักษา และการหนุนเสริมอย่างมีประสิทธิภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง ภายในปีพ.ศ.2553 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคเอดส์ในภาพรวมทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ล่าสุดปี 2550 ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี ประมาณ 33.2 ล้านคน ในจำนวนนี้ร้อยละ 93 เป็นผู้ใหญ่ประมาณ 30.8 ล้านคน ที่เหลืออีก 2 ล้านกว่าคนเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และมีผู้เสียชีวิตประมาณ 2.1 ล้านคน คาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ2.5ล้านคน เฉลี่ยวันละมากกว่า 6,800 คนหรือนาทีละ 5 คน โดยมากกว่าร้อยละ 40 เป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 15-24 ปี พบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในทวีปแอฟริกาประมาณ 25 ล้านคน รองลงมาอยู่ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 8 ล้านคน
จากข้อมูลพบว่าตั้งแต่ พ.ศ.2527ถึงปัจจุบัน คาดว่ามีผู้ใหญ่ติดเชื้อเอชไอวีประมาณ1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้วประมาณ 585,830 คนยังเหลือผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ที่มีชีวิตประมาณ 532,522 คน และมีผู้ใหญ่ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 12,787 คน สำหรับประเทศไทยในปี 2551 จากรายงานผู้ป่วยเอดส์ที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลพบว่าสาเหตุหลักร้อยละ 84 มาจากการมีเพศสัมพันธ์ ที่น่าห่วงคือในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15–19 ปี แนวโน้มการติดเชื้ออาจขยายวงกว้างขึ้น เนื่องจากมีสื่อลามกยั่วยุและเข้าถึงได้ง่าย มีผลให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น โดยพบว่าวัยรุ่นดูหนังหรือวิดีโอโป๊เฉลี่ยร้อยละ 60 วัยรุ่นชายดูร้อยละ 82 วัยรุ่นหญิงดูร้อยละ 48 และเปิดเว็บลามกดูเฉลี่ยร้อยละ 35 หรือประมาณ 1 ใน 3 ของวัยรุ่น และมีอัตราการป้องกันการติดเชื้อเมื่อมีเพศสัมพันธ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยผู้หญิงมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเพียงร้อยละ 39 ทำให้อัตราวัยรุ่นหญิงป่วยเป็นโรคเอดส์สูงกว่าชาย 2 เท่าตัว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่างต่อเนื่องเป็นระบบ ได้ขยายบริการยาต้านไวรัสเข้าสู่โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพื่อให้ผู้ป่วยทุกรายเข้าถึงยาต้านไวรัสตั้งแต่พ.ศ.2548 ในปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลได้จัดงบรักษาผ่านทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2,983 ล้านกว่าบาท ขณะเดียวกันได้ขยายการป้องกันปัญหาเอดส์ในวัยรุ่น เยาวชน วัยเรียน โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำเยาวชน ป้องกันโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในสถาบันการศึกษา เริ่มตั้งแต่ปี 2549 จนถึงขณะนี้ มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมโครงการแล้ว 73 แห่ง ใน 22 จังหวัด สร้างแกนนำเยาวชนแล้ว 20,356 คน ตั้งเป้าหมายดำเนินการต่อในปี 2552-2554 ใน 43 จังหวัด จำนวน 146 แห่ง
ด้าน นพ.มล.สมชาย จักรพันธุ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัญหาที่น่าเป็นห่วงที่สุดในปัจจุบัน คือปัญหาโรคเอดส์ในวัยรุ่นโดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง และกลุ่มที่มีรายได้น้อยที่ยิ่งจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้จัดให้มีสถานบริการรักษาโรคเอดส์แล้ว 900 กว่าแห่งทั่วประเทศ และตั้งแต่ปี2549ถึงปี2551 ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการได้ให้สถานศึกษาจัดกิจกรรม คำแนะนำสำหรับวัยรุ่น วัยเรียนให้เข้าใจปัญหาและร่วมกันป้องกันการมีเพศสัมพันธ์
สำหรับการจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันเอดส์โลก 1 ธันวาคม 2551 นี้ จะจัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยในส่วนกลางกำหนดจัดในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 เวลา 12.00 – 19.00 น. ที่ลานการ์เด้น ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ด เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มีการเดินขบวนพาเหรด, การแปลอักษร, มินิคอนเสิร์ตจากวง C Quint และน้องมัดหมี่ พิมดาว พานิชสมัย, อัลคาซ่า โชว์, ปอม ปอม เชียร์, B Boy นิทรรศการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องโรคเอดส์เน้นในกลุ่มแกนนำวัยรุ่นและชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย และลานกีฬา ซึ่งมุ่งเน้นให้เยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของการรณรงค์ ได้รับความรู้ ทักษะ เกิดความคิดสร้างสรรค์ ที่จะนำไปเป็นพลังขับเคลื่อนความเป็นผู้นำในการถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการป้องกันโรคเอดส์ การใช้ชีวิตร่วมกับผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์อย่างถูกต้องเหมาะ
