xs
xsm
sm
md
lg

เตือนสปา-นวดเถื่อนเกลื่อนเมือง พบกว่า 6.5 พันแห่ง ชี้ไม่ระวังถึงตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต
สธ.ออกประกาศคุมเข้มสปา-นวดสุขภาพ-นวดเสริมสวย ต้องได้รับรองมาตรฐานและต่อใบรับรองฯ ทุก 2 ปี ห้ามอยู่อาคารเดียวกันหรือใช้ชื่อเชื่อมโยงกับอาบ-อบ-นวด ห้ามโอ้อวดบำบัดโรคหายขาด เผยตรวจพบสถานบริการเถื่อนกว่า 6.5 พันแห่ง เตือนประชาชนใช้สถานบริการเถื่อนหรือเลือกผิดอันตรายถึงตาย

นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เมื่อวันที่21 ตุลาคม 2551 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย มาตรฐานของสถานที่ การบริการ ผู้ให้บริการ หลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบเพื่อการรับรองให้เป็นไปตามมาตรฐานสำหรับสถานที่เพื่อสุขภาพหรือเพื่อเสริมสวย ตามพ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 พ.ศ.2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ เน้นที่การคุมมาตรฐานของกิจการสปาเพื่อสุขภาพ กิจการนวดเพื่อสุขภาพ และกิจการนวดเพื่อเสริมสวย โดยกำหนดให้กิจการดังกล่าว ต้องได้รับใบรับรองมาตรฐานสถานประกอบการและต้องต่ออายุใบรับรองฯทุก 2 ปี รวมทั้ง สถานประกอบการต้องไม่อยู่ในอาคารเดียวกันหรือใช้ชื่อที่สามารถเชื่อมต่อกับสถานบริการอาบ อบ นวด ส่วนการระบุชื่อของกิจการแต่ละประเภทต้องตรงกับการให้บริการนั้นๆ เช่น นวดเพื่อสุขภาพ นวดเพื่อเสริมสวย เป็นต้น และต้องติดป้ายชื่อร้านและใบรับรองฯให้เห็นชัดเจน โดยต้องไม่ใช้คำโอ้อวดที่ทำให้ผู้ใช้บริการเข้าใจว่าเป็นการรักษาบำบัดโรคให้หายขาด

นพ.สมยศ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีกิจการสปาเพื่อสุขภาพที่ได้รับใบรับรองฯ จำนวน 321 แห่ง ไม่ได้รับการรับรองประมาณ 1,500 แห่ง กิจการนวดเพื่อสุขภาพที่ได้รับใบรับรองฯ จำนวน 825 แห่ง ไม่ได้รับใบรับรองฯราว 5,000 แห่ง และกิจการนวดเพื่อเสริมสวย เช่น บริการนวดหน้า ที่ได้รับใบรับรองฯ จำนวน 64 แห่ง ที่ไม่ได้รับใบรับรองฯ อีกเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถนับได้ รวมแล้วมีกิจการที่ยังไม่ได้รับใบรับรองอย่างน้อยกว่า 6,500 แห่ง อย่างไรก็ตาม กรมฯไม่มีอำนาจในการไปตรวจจับกิจการที่ไม่ดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ แต่มีสิทธิที่ไม่รับรองมาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลให้กิจการนั้นๆ เข้าข่ายสถานบริการตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย จึงต้องได้รับการตรวจสอบที่เข้มขึ้นและต้องเสียภาษี

“ที่ผ่านมาสบส.ตรวจพบมีการแอบอ้างใช้ชื่อกิจการว่าสปาทั้งที่ไม่เข้าข่ายลักษณะของกิจการสปา แต่เป็นเพียงกิจการนวดเพื่อสุขภาพ หรือนวดเพื่อเสริมสวยเป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนเข้าใจสับสน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้น ประชาชนที่จะใช้บริการกิจการทั้ง 3 ประเภท ต้องเลือกใช้บริการจากสถานที่ที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานจากสบส.และตรงตามประเภทที่จะใช้บริการ หากเลือกใช้บริการผิดประเภทหรือสถานที่เถื่อนจะมีอันตรายมาก เช่น การนวดหากกดจุดผิดอาจกดโดนจุดอันตราย หรือการใช้บริการสปาที่ให้บริการอบไอน้ำ หากไม่ได้ควบคุมมาตรฐานอาจทำให้ผู้ใช้บริการเกิดภาวะช็อคและถึงตายได้ “นพ.สมยศกล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น