คกก.ชุด “หมอบรรลุ” ตอกกลับกรมการแพทย์ ไม่ได้กลั่นแกล้ง ไม่อคติ แต่สรุปไปตามเอกสารที่ได้ แฉส่งเอกสารงบไทยเข้มแข้ง 3 ครั้ง ตัวเลขไม่ตรงกันสักครั้ง ยอมรับคำนวณตัวเลขพลาดแต่แค่รายการเดียว
จากกรณีนพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดแถลงข่าวตอบโต้ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็งของกระทรวงสาธารณสุข ที่มีนพ.บรรลุ ศิริพานิช เป็นประธาน โดยระบุว่า คณะกรรมการฯ บกพร่องต่อหน้าที่ ตรวจสอบตัวเลขผิด-ข้อมูลไม่ครบถ้วน โดยอาจมีเจตนากลั่นแกล้งนั้น
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการตรวจสอบฯ ให้สัมภาษณ์ ว่า ยืนยันว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ไม่ใช่ข้อกล่าวหาแต่อย่างใด แต่เป็นสิ่งตรวจพบ และข้อสังเกตเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ใช่คำตัดสินว่าใครถูก หรือผิด เพราะคณะกรรมการไม่มีหน้าที่ตัดสินลงโทษใคร มีหน้าที่เพียงตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกระบุอยู่ในผลตรวจสอบ ควรจะรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อชี้แจงต่อคณะกรรมการชุดอื่นที่มีหน้าที่ตรวจสอบหาคนผิดจะเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังไม่มีการหารือร่วมกันถึงข้อชี้แจงของกรมการแพทย์ แต่คงจะไม่มีการแถลงข่าวตอบโต้กัน เพราะไม่อยากให้เป็นการโต้เถียงกันและคณะกรรมการฯ ก็หมดหน้าที่ลงแล้วด้วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า สำหรับข้อชี้แจงของกรมการแพทย์ ที่ระบุว่า คณะกรรมการบกพร่อง ดูตัวเลขสิ่งก่อสร้างของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีผิด จาก อาคาร พื้นที่ 39,480 ตร.ม. เป็น 34,480 ตร.ม. ทำให้คำนวณราคาก่อสร้างผิดทำให้ดูแพงขึ้น เป็นราคา ตร.ม.ละ 24,045 บาท ทั้งที่จริงเพียง ตร.ม.ละ 21,000 บาทนั้น ขอชี้แจงว่า ในการตรวจสอบเรื่องนี้ คณะกรรมการฯ ได้เปรียบเทียบราคาก่อสร้างต่อตร.ม. ทั้งระหว่างบริษัทเอกชน และกองแบบแผน ของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) ที่มีหน้าที่กำหนดราคาก่อสร้างในสังกัด สธ. ก็ยังพบว่า มีราคาแตกต่างกัน คำนวณราคาไม่ตรงกัน คณะกรรมการฯ ก็ต้องสรุปผลสอบไปตามข้อเท็จจริงที่ได้
"ยอมรับว่าผลการตรวจสอบของกรมการแพทย์ อาจมีความผิดพลาดเรื่องคำนวณตัวเลขของโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี แต่หากผิดก็คงจะผิดแค่รายการเดียว ส่วนอีกกว่า 10 รายการที่เหลือ คงจะไม่ผิดด้วยอย่างแน่นอน หากอ่านรายงานสรุปผลตรวจสอบให้ดีก็จะทราบว่าคณะกรรมการ มีเหตุผลอะไรในการตัดสินใจ และยืนยันว่าทุกการตัดสินใจไม่มีอคติ ไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 12 รายการของกรมการแพทย์ ผลตรวจสอบของคณะกรรมการฯ ชุดนื้ไม่ได้ระบุแค่เพียงมีราคาแพงเกินจริงเท่านั้น แต่ได้ระบุชัดเจนว่า อาจมีความไม่เหมาะสม มีการจัดซื้อซ้ำซ้อนกันภายในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน แต่มีโรงพยาบาลคนละสังกัด เช่น จ.อุดร จ.ลำปาง มีโรงพยาบาลศูนย์ และศูนย์มะเร็ง อยู่ภายในจังหวัด แต่สถานพยาบาลทั้ง 2 แห่ง กลับซื้อเครื่องมือแพทย์ชนิดเดียวกัน ชื่อเดียวกัน คณะกรรมการฯ จึงระบุให้พิจารณาถึงความจำเป็น และความเหมาะสม
“ในช่วงการตรวจสอบเรื่องนี้ คณะกรรมการฯ ได้ขอเอกสารการเสนอของบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งของกรมการแพทย์ ไปหลายครั้ง ซึ่งกรมการแพทย์ ได้ส่งเอกสารมาให้ถึง 3 ครั้ง แต่เอกสารที่ส่งมาแต่ละครั้งมีตัวเลขไม่ตรงกันเลยสักครั้ง คณะกรรมการฯ ก็สรุปผลสอบไปตามข้อเท็จจริงที่ได้มา การเสนอของบประมาณจะจัดซื้ออะไร ต้องระบุรายการให้ชัดเจน เช่น จะซื้อรถยนต์ ก็ต้องระบุ กี่แรงม้า และงบประมาร จะบอกแค่ว่าซื้อรถยนต์ อย่างเดียวคงจะไม่ถูกต้องนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องระบุยี่ห้อด้วย” แหล่งข่าวกล่าว