xs
xsm
sm
md
lg

“น้องคุกกี้” ลูกสาว “เจนกิจ” น้ำตานอง เชื่อฝีมือ รบ.ลั่นขอดูแลแม่-น้อง ต่อสู้เพื่อพ่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ญาติ “เจนกิจ” วีรชนพันธมิตรฯ อาลัยน้ำตานอง รับศพจาก รพ.รามาธิบดี แล้ว “น้องคุกกี้” ลูกสาว 11 ขวบ เชื่อบึ้มทำเนียบฝีมือรัฐบาล เรียกร้องความเป็นธรรมหน้า บช.น.ย้ำให้พันธมิตรฯ สู้ต่อไป จะตั้งใจทำดี ไม่ดื้อไม่ซน ดูแลแม่และน้อง ต่อสู้เพื่อพ่อ ขณะที่ศพวีรชนคนกล้าบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 3 วัดมกุฏกษัตริยาราม ในเวลา 17.00 น.วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น.แกนนำกองทัพธรรม ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อรับศพ นายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีการทำพิธีทางศาสนาก่อนนำศพบรรจุในโรงไม้สีดำ หลังจากนั้น เคลื่อนย้ายศพไปยังรถตู้เลขทะเบียน ร 1325 นนทบุรี โดยมี ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร บุตรสาวผู้เสียชีวิต เป็นผู้ถือกระถางธูปนำหน้าศพก่อนเคลื่อนออกไปท่ามกลางน้ำตานองหน้าและบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

ทั้งนี้ ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร (น้องคุกกี้) อายุ 11 ปี บุตรสาวนายเจนกิจ กลัดสาคร ให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะรับศพออกจากโรงพยาบาล ว่า ได้ทราบข่าวการเสียชีวิตของพ่อเมื่อเวลา 07.00 น.โดยแม่โทรศัพท์มาหา แต่ไม่ได้บอกอะไรมากเพียงแค่ให้เตรียมเสื้อไปให้พ่อ และบอกว่าพ่อไปสบายแล้ว จึงถามแม่ว่าพ่อตายหรือ แม่ตอบกลับมาว่าใช่ หลังจากนั้น ก็วางสายและหันไปบอกยาย ยายร้องไห้ เสียใจ และบอกว่า สงสารตนเองและน้องที่ต้องสูญเสียพ่อไป หนูก็เสียใจแต่ก็ไปเตรียมเสื้อผ้าให้พ่อ โดยเป็นชุดคาวบอย เพราะว่าชอบเรื่องเกี่ยวกับคาวบอยมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ พ่อย้ำเสมอว่าหากเสียชีวิตให้นำชุดคาวบอยมาใส่ให้ อีกทั้งให้สังเกตโทรทัศน์ที่บ้านซึ่งปกติเปิดดูรายการอยู่เสมอ แต่หากไม่สามารถเปิดชมได้ตามปกติแสดงว่าพ่อมาหาให้จุดธูปและนำข้าวมาให้พ่อด้วย

“เสียใจและรู้สึกใจหายกับเรื่องนี้แต่ก็ไม่เคยกลัว และจะสู้เพื่อพ่อต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตั้งใจจะทำความดี ไม่ดื้อ ไม่ซน และช่วยดูแลครอบครัวแทนพ่อตามที่แม่เคยบอก จึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายที่ทำแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งหนูคิดว่ารัฐบาลเป็นคนทำ เพราะที่ผ่านมามีการยิงแก๊สน้ำตา วางระเบิด และแม่เล่าให้ฟัง ว่า วันที่เกิดเหตุเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบางรายแสดงสีหน้าสมน้ำหน้า ต่อจากนี้อยากให้พันธมิตรฯ สู้ต่อไป แต่หนูคงจะไม่ไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ได้เพราะเป็นเด็ก และเพราะพ่อบอกไม่ให้ไป เพราะเป็นห่วงความปลอดภัย มีแต่ความลำบาก ซึ่งหนูเคยขอจะไปด้วยหลายครั้ง เพราะปกติพ่อและแม่จะมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ กับเพื่อนๆ แต่พ่อก็จะไม่อนุญาตให้มาด้วย” ด.ญ.ลิปิการ์ กล่าว

ด.ญ.ลิปิการ์ กล่าวด้วยว่า อยากให้คนดีๆ มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่เป็นคนไม่ดี เพราะได้เห็นคลิปที่นายกฯ พาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูด และพาไปซื้อตู้เย็น ซึ่งผู้นำที่ดีจะต้องไม่เอาเปรียบ ไม่เห็นแก่เงิน ไม่ขายชาติ ทั้งนี้ เวลา 15.00 น.จะนำศพพ่อออกจากโรงพยาบาล และจะเคลื่อนศพไปหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังจากนั้น จะไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ศาลา 3 วัดมกุฏกษัตริยารามในเวลา 17.00 น. ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ ได้ติดต่อให้ความช่วยเหลือมาเป็นระยะ และจะจัดการเกี่ยวกับพิธีบำเพ็ญกุศลทั้งหมด โดยให้กองทัพธรรมเป็นผู้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด

ขณะที่ นายเด่น แผ่นศิลา อายุ 37 ปี เพื่อนนายเจนกิจ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่า ตนกับนายเจนกิจมาจากสัตหีบกับกลุ่มเพื่อนเพื่อร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ หลายครั้ง ซึ่งขณะเกิดเหตุนายเจนกิจนอนอยู่ จากนั้นได้ยินเสียงระเบิด เมื่อหันมาก็เห็น นายเจนกิจ มีบาดแผลที่บริเวณคอ นางปิญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยา นายเจนกิจ และตนจึงช่วยกันห้ามเลือด โดย นายเจนกิจ ยังมีสติดีอยู่ และกล่าวว่า “ทำกันอย่างนี้เลย เล่นแรงจริงๆ” จากนั้นก็นำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด

นายเด่น กล่าวด้วยว่า บริเวณจุดที่มีการระเบิดห่างจากจุดที่ นายเจนกิจ นอนอยู่ราว 5 เมตรกว่า ถ้าตนนอนอยู่ก็คงถูกสะเก็ดระเบิดด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะนี้คงระบุเจาะจงไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ ตนไม่คาดหวังกับกระบวนการสอบสวน เพราะเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ผลการสอบสวนก็ยังไม่ปรากฏ จนถึงวันนี้ก็มีผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 3 แล้ว ก็ไม่รู้ว่าผลสอบสวนจะเป็นอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น