รพ.จุฬาฯ เผย “รุ่งทิวา” ยังไม่รู้สึกตัว - รามาฯ ระบุ “ตี๋” ยังไม่พ้นวิกฤต

วีรสตรีคนกล้า เหยื่อโหดตำรวจสุดชั่ว “รุ่งทิวา” อาการยังน่าห่วง รพ.จุฬาฯ เผยอาการล่าสุดยังคงไร้การตอบสนอง ไม่รู้สึกตัว สภาพคงเดิมเหมือนเมื่อวาน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้าน “ตี๋-ศิลปินนักสู้” ไข้เริ่มลด หมอวางแผนเอาสายระบายเลือดในปอดออก แต่ยังไม่พ้นวิกฤต ย้ำห้ามเยี่ยมเกรงติดเชื้อ

สำหรับความคืบหน้าการบาดเจ็บของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม หญิงผู้ได้รับบาดเจ็บจากการไล่ฆ่าประชาชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจโฉด เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยอาการบาดเจ็บที่ศีรษะบริเวณซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ บริเวณใบหน้าได้รับความเสียหายหนัก ดวงตาด้านซ้ายหลุด ที่ก่อนหน้านี้ทาง รพ.ราชวิถี รับเอาไว้และทำการผ่าตัดแล้ว 3 ครั้ง ก่อนจะส่งมาผ่าตัดที่ รพ.จุฬาฯ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยใช้เวลาผ่าตัดครั้งที่ 4 นี้กว่า 7 ชั่วโมงนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันนี้(12 ตุลาคม) นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รักษาการ ผอ.รพ.จุฬาฯ เปิดเผยอาการล่าสุดของเธอว่า ขณะนี้อาการของนางรุ่งทิวายังคงที่ ไม่มีการตอบสนอง ไม่รู้สึกตัว สภาพคงเดิมเหมือนเมื่อวาน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ส่วนที่โรงพยาบาลรามาธิบดี นพ.ธันต์ สุภัทร์พันธุ์ ผอ.รพ.รามาธิบดี เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังมีผู้บาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในรพ.รามาฯอีก 10 ราย มี 7 รายที่เป็นคนไข้อาการสาหัส คือจำเป็นต้องรักษาตัวอีกประมาณ 3 สัปดาห์ ส่วนอาการของ “ศิลปินนักสู้” ตี๋-ชิงชัย อุดมเจริญกิจ ล่าสุดยังคงอยู่ในห้องไอซียู และจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่อาการไข้เริ่มลด คณะแพทย์วางแผนเตรียมถอดสายระบายโลหิตในปอด คนไข้รู้สึกตัวดี สื่อสารได้ และไม่มีอาการติดเชื้อ

“อาการเริ่มดีขึ้น แต่ยังไม่พ้นวิกฤตครับ เรากลัวคนไข้ติดเชื้อ ดังนั้นฝากประชาสัมพันธ์ให้ด้วยว่าห้ามเยี่ยมนะครับ เพราะผู้มีเยี่ยมอาจจะทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อได้ครับ” ผอ.รพ.รามาฯ กล่าว

**ผู้บาดเจ็บรักษาตัวเพิ่มที่วชิระฯ
ช่วงเช้า ตั้งแต่เวลาประมาณ 9 .00 น.หน่วยพยาบาลพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณหน้ารัฐสภา และหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เข้ารับการรักษาตัวเพิ่มเติมที่ รพ.วชิระพยาบาลอีก 6 คน ซึ่งผู้ป่วยที่มารักษานั้น มีอาการบาดเจ็บที่ขาซ้าย เนื่องจากระโดดหลบแก๊สน้ำตา 1 คน โดนสะเก็ดระเบิดบริเวณแขน และขา 3 คน และแก้วหูฉีกขาด 1 คน และได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาด้านซ้ายอีก 1 คน ซึ่งในเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่พยาบาลจากกองทัพธรรมได้นำผู้บาดเจ็บทั้งหมด กลับไปที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากวันนี้(12 ตุลาคม) แพทย์ไม่อยุ่ และไม่สามารถออกใบรับรองแพทย์ได้ทั้งหมด จึงนัดให้ผู้รับบาดเจ็บแก้วหูฉีกขาดมาตรวจเพิ่มเติมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(13 ตุลาคม)