พันธมิตรฯ จับโกหก ตร.ใส่ร้ายผู้ชุมนุม-ย้ำจุดยืนไล่ “น้องเชยทรราช” ต่อ

พันธมิตรฯ นำหลักฐานแถลงจับโกหกตำรวจ ป้ายสีผู้ชุมนุม ยันภาพชายแขนขาดกำระเบิดในมือ คือ ศิลปินในกลุ่ม “วสันต์ สิทธิเขตต์” ที่แท้กำลังถือพวงกุญแจหนัง ยันศาลยกเลิกข้อหากบฏ-ห้ามใช้กำลังสลายการชุมนุม ไม่ใช่เงื่อนไขให้พันธมิตรฯ หยุด ย้ำจุดยืนไล่รัฐบาลนอมินีต่อ เตรียมจัดงานสวดศพ “พันตำรวจโทเมธี” แนวร่วมผู้กล้า วัดโสมฯ

ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ (9 ต.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วย นายกิตติชัย ใสสะอาด และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ 2 หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ ร่วมกันแถลงถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน อ้างว่า การสลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.เป็นไปตามหลักสากลและยืนยันว่าตำรวจไม่มีการใช้อาวุธ

นายสุริยะใส ได้แถลงและนำหลักฐานพร้อมทั้งรูปถ่ายแถลงยืนยันต่อสื่อมวลชน ว่า ภาพถ่ายทั้งหมดนี้มาจากกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถ่ายไว้ โดยกล้องมือถือและกล้องวิดีโอ ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานใหม่ที่จะตอกย้ำว่าการปราบปรามผู้ชุมนุมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นั้นตำรวจได้ใช้อาวุธที่รุนแรงเข้าทำการสลาย

หนึ่งในภาพถ่ายนั้นเป็นของ นายชิงชัย เจริญอุดมกิจ ซึ่งเป็นเครือข่ายศิลปินอยู่ในกลุ่มนายวสันต์ สิทธิเขตต์ อยู่ในสภาพถูกระเบิดแขนขวาเละ มีเลือดเปรอะไปทั่วร่างกาย โดยในมือซ้ายนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า นายชิงชัย กำลังถือระเบิด นายสุริยะใส กล่าวว่า บุคคลคนนี้เป็นคนที่สมถะ ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งโดยนิสัยดังกล่าวคงไม่น่าจะมาทำแบบนี้ แต่สิ่งที่จะยืนยัน ก็คือ มือด้านซ้ายที่เจ้าหน้าที่กล่าวหาเป็นวัตถุระเบิด ความจริงเป็นเพียงพวงกุญแจเท่านั้น โดยทางแพทย์ รพ.บางคล้า สามารถที่จะยืนยันและเป็นพยานในชั้นศาลได้ หากมีการร้องขอมา เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ได้เข้าไปทำการรักษา นายชิงชัย ซึ่งหลักฐานทั้งหมดได้ถูกเก็บไว้ที่ รพ.รามาธิบดี

ส่วนกรณีที่ตำรวจแถลงยืนยันว่า ตำรวจใช้เพียงแค่แก๊สน้ำตา เพื่อสลายผู้ชุมนุมเท่านั้น นายสุริยะใส กล่าวย้ำว่า พันธมิตรฯมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายที่บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ตลอด อาทิ ภาพตำรวจนั่งในท่าเตรียมพร้อมยิงอาวุธปืนสั้นรีวอลเวอร์ แต่เมื่อมีการบันทึกภาพทีมเพื่อนที่อยู่ข้างหลังได้มาสะกิดและรีบเก็บปืนทันที ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ทราบว่าได้มีการยิงไปแล้วกี่นัด

นอกจากนี้ นายสุริยะใส ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลอุทธรณ์ได้ยกเลิกการตั้งข้อหากบฏกับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ รวมถึงศาลปกครองได้มีมาตรการคุ้มครองห้ามเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรฯ ว่า ตรงนี้ไม่ใช่เงื่อนไขที่พันธมิตรฯ จะยุติการชุมนุม แต่เรามีเป้าหมายที่จะขับไล่รัฐบาลนอมินีที่ไม่มีความชอบธรรมให้พ้นออกไป สำหรับมาตรการของการชุมนุมในครั้งต่อไปจะยกระดับความเข้มข้นขึ้นหรือไม่ คงต้องมีการประชุมหารือร่วมกัน อย่างไรก็ตามการจะมอบตัวสู้คดีของแกนนำที่เหลือคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา หากมีเพียงการตั้งข้อหามั่วสุมหรือบุกรุก ก็จะไปมอบตัวแต่เรื่องนี้คงต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง

สำหรับมติของ ครม.ที่เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลักการแล้วเห็นด้วย และเป็นสิ่งที่ดี แต่ทางพันธมิตรฯ จะต้องดูรายละเอียด หรือคำสั่งก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะมีการหมกเม็ดอะไรหรือไม่

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) ทางพันธมิตรฯจะเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ผู้เสียชีวิตรถระเบิดหน้าพรรคชาติไทยในเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่วัดโสมนัสวราราม โดยในเวลา 10.00 น.จะมีพิธีรดน้ำศพ