แพทย์จุฬาฯ ผ่าตัดสมอง "รุ่งทิวา" ใช้เวลา กว่า 7 ชม. อาการยังวิกฤต ติดตามใกล้ชิดวันต่อวัน ห่วงติดเชื้อ ปอดบวม ขณะที่รามาฯ เผยอาการ "ตี๋" ศิลปินอิสระพันธมิตรฯ ยังน่าห่วง เหยื่อขาขาดที่วชิระพยาบาล ผ่าตัด 2 ครั้ง ยังไม่ได้สติ
วันที่ 11 ตุลาคม รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รักษาการผอ.รพ.จุฬาฯ กล่าวถึงการผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ว่า ทีมแพทย์ได้นำคนไข้เข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม โดยทำการผ่าตัดเสร็จเมื่อเวลา 6.30 น. ใช้เวลาผ่าตัด 7.30 ชั่วโมง ซึ่งผลการผ่าตัดเป็นที่พอใจ โดยแพทย์ทำการผ่าตัดเนื้อสมองที่บวมช้ำออกและตกแต่งบาดแผลบริเวณท้ายทอย ขณะนี้อาการคนไข้อยู่ในขั้นวิกฤติแต่ดีกว่าที่ได้ทำการประเมินไว้
“ขณะนี้ได้นำคนเข้าพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดวันต่อวัน อย่างน้อย 7 วันว่าจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 5 หรือไม่ ซึ่งแพทย์ยังมีความกังวลเรื่องการติดเชื้อ ปอดบวม เนื่องจากคนไข้มีอาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ”รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าว
รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ยังคงพักรักษาตัวใน รพ.จุฬาฯ อีก 2 คน ทั้งสองคนอาการดีขึ้นไม่น่าห่วง สามารถพูดคุยได้ปกติ แพทย์รักษาตามอาการ
อนึ่ง นางรุ่งทิวาได้ถูกนำตัวส่งต่อจากโรงพยาบาลราชวิถีมายังโรงพยาบาลจุฬาตั้งแต่ 19.00 น.วันที่ (9 ต.ค.) โดยมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะบริเวณซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ ได้มีการผ่าตัดไปแล้ว 3 ครั้ง ที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยเป็นการผ่าตัดซ่อมแซมในส่วนของบริเวณสมอง กะโหลก, ตกแต่งบริเวณใบหน้าเพราะตาด้านซ้ายหลุด, ผ่าตัดเพื่อนำเลือดที่คั่งอยู่ออก จนกระทั่งมีการผ่าตัดอีกครั้งที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นครั้งที่4
ด้านนพ.ธันย์ สุภัทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยถึงยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 8 ราย สำหรับอาการผู้บาดเจ็บที่น่าเป็นห่วง คือนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระ ที่ได้รับบาดเจ็บแขนขวาขาด หลอดลมฉีกขาดไม่สามารถหายใจได้ปกติ ต้องเจาะคอช่วยหายใจต้องพักรักษาตัวที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. อย่างไรก็ตาม คนไข้มีสติดี ตอบสนองความรู้สึกกับแพทย์ได้
“ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่น จะต้องพักรักษาตัวต่อเนื่อง คาดว่าใช้เวลาเป็นเดือน มีอาการกระดูกหัก 2 ราย ที่เหลือมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการล้างแผลทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ต้องรักษาให้มีอาการดีขึ้นก่อนที่จะอนุญาตให้กลับบ้านได้”นพ.ธันย์กล่าว
ขณะที่ นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้ มี 3 ราย ที่อาการยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะนายธัญญา กุลแก้ว อายุ 50 ปี ขาขาดตั้งแต่วันแรก แพทย์ทำการผ่าตัดช่วยเหลือแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว พักรักษาในห้อง ไอ.ซี.ยู. น.ส.นาฏยา ธิญา อายุ 37 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย รักษาตัวห้อง ไอ.ซี.ยู. สำหรับผู้ป่วยมีบาดแผลไฟไหม้หรือเบิร์นยูนิต และ ส.ต.อ.จักรา ขันธชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกยิงบริเวณคอด้านขวา ยังรักษาตัวที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. ส่วนนายปิตินนท์ แก่นสาร ผู้สื่อข่าว จส.100 ขณะนี้ขอย้ายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.กรุงเทพแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่น วันนี้คาดว่าแพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 2-3 คน
วันที่ 11 ตุลาคม รศ.นพ.ธีระพงศ์ เจริญวิทย์ รักษาการผอ.รพ.จุฬาฯ กล่าวถึงการผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตของนางรุ่งทิวา ธาตุนิยม ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ว่า ทีมแพทย์ได้นำคนไข้เข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม โดยทำการผ่าตัดเสร็จเมื่อเวลา 6.30 น. ใช้เวลาผ่าตัด 7.30 ชั่วโมง ซึ่งผลการผ่าตัดเป็นที่พอใจ โดยแพทย์ทำการผ่าตัดเนื้อสมองที่บวมช้ำออกและตกแต่งบาดแผลบริเวณท้ายทอย ขณะนี้อาการคนไข้อยู่ในขั้นวิกฤติแต่ดีกว่าที่ได้ทำการประเมินไว้
“ขณะนี้ได้นำคนเข้าพักรักษาตัวที่ห้องไอซียู เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดวันต่อวัน อย่างน้อย 7 วันว่าจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเป็นครั้งที่ 5 หรือไม่ ซึ่งแพทย์ยังมีความกังวลเรื่องการติดเชื้อ ปอดบวม เนื่องจากคนไข้มีอาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ”รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าว
รศ.นพ.ธีระพงศ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่ยังคงพักรักษาตัวใน รพ.จุฬาฯ อีก 2 คน ทั้งสองคนอาการดีขึ้นไม่น่าห่วง สามารถพูดคุยได้ปกติ แพทย์รักษาตามอาการ
อนึ่ง นางรุ่งทิวาได้ถูกนำตัวส่งต่อจากโรงพยาบาลราชวิถีมายังโรงพยาบาลจุฬาตั้งแต่ 19.00 น.วันที่ (9 ต.ค.) โดยมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะบริเวณซีกซ้าย กะโหลกแตก สมองบวมช้ำ ได้มีการผ่าตัดไปแล้ว 3 ครั้ง ที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยเป็นการผ่าตัดซ่อมแซมในส่วนของบริเวณสมอง กะโหลก, ตกแต่งบริเวณใบหน้าเพราะตาด้านซ้ายหลุด, ผ่าตัดเพื่อนำเลือดที่คั่งอยู่ออก จนกระทั่งมีการผ่าตัดอีกครั้งที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นครั้งที่4
ด้านนพ.ธันย์ สุภัทร์พันธุ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยถึงยอดผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 8 ราย สำหรับอาการผู้บาดเจ็บที่น่าเป็นห่วง คือนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ศิลปินอิสระ ที่ได้รับบาดเจ็บแขนขวาขาด หลอดลมฉีกขาดไม่สามารถหายใจได้ปกติ ต้องเจาะคอช่วยหายใจต้องพักรักษาตัวที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. อย่างไรก็ตาม คนไข้มีสติดี ตอบสนองความรู้สึกกับแพทย์ได้
“ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่น จะต้องพักรักษาตัวต่อเนื่อง คาดว่าใช้เวลาเป็นเดือน มีอาการกระดูกหัก 2 ราย ที่เหลือมีบาดแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการล้างแผลทุกวัน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ต้องรักษาให้มีอาการดีขึ้นก่อนที่จะอนุญาตให้กลับบ้านได้”นพ.ธันย์กล่าว
ขณะที่ นพ.ชัยวัน เจริญโชคทวี ผู้อำนวยการวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล กล่าวว่าขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 11 ราย ในจำนวนนี้ มี 3 ราย ที่อาการยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะนายธัญญา กุลแก้ว อายุ 50 ปี ขาขาดตั้งแต่วันแรก แพทย์ทำการผ่าตัดช่วยเหลือแล้ว 2 ครั้ง ขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว พักรักษาในห้อง ไอ.ซี.ยู. น.ส.นาฏยา ธิญา อายุ 37 ปี มีบาดแผลไฟไหม้ตามร่างกาย รักษาตัวห้อง ไอ.ซี.ยู. สำหรับผู้ป่วยมีบาดแผลไฟไหม้หรือเบิร์นยูนิต และ ส.ต.อ.จักรา ขันธชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ถูกยิงบริเวณคอด้านขวา ยังรักษาตัวที่ห้อง ไอ.ซี.ยู. ส่วนนายปิตินนท์ แก่นสาร ผู้สื่อข่าว จส.100 ขณะนี้ขอย้ายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.กรุงเทพแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่น วันนี้คาดว่าแพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้อีก 2-3 คน