xs
xsm
sm
md
lg

คนกรุงเครียดหนักเรื่องงาน แพทย์แนะหลักปรับ 4 เติม 3 แก้จิตตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมสุขภาพจิต เพิ่มคู่สายให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตเพิ่ม 9 คู่สาย เป็น 26 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับวิกฤตซ้อนวิกฤต เศรษฐกิจรุม การเมืองเร้า พร้อมเปิดรับอาสาสมัครมีใจอยากช่วยเหลือ ให้บริการปรึกษาปัญหา นำร่อง 50 คน ขณะที่ “วิชาญ” ชี้ วิกฤตการเมืองทำให้คนเครียด แนะอย่ายึดติด ทุ่มเทเกินไป ให้หยุดดูหยุดอ่าน ระบายอารมณ์ด้วยการดูหนัง ช่วยได้

วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่กรมสุขภาพจิต นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ปี 2551 “พลังสุขภาพจิตเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส” ว่า ปัจจุบันคนไทยกำลังเผชิญกับ 3 วิกฤตใหญ่ คือ วิกฤตการเมือง วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตชีวิตครอบครัว ทั้งความขัดแย้งด้านความคิดทางการเมือง เศรษฐกิจถดถอย อัตราการว่างงานสูง ชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัวมีปัญหา ส่งผลกระทบต่อจิตใจซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตตามมาได้ โดยจะมีวิธีแก้ปัญหาหลักๆ 3 วิธีคือ 1.เกิดการเรียนรู้และปรับตัว มีความเข้มแข็งทางจิตใจมากขึ้น ทำให้มีความสามารถในการจัดการชีวิตเพิ่มมากขึ้น 2.สามารถปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วกลับเข้าสู่ภาวะเดิม และ 3.ปรับตัวไม่ได้ทำให้ชีวิตตกต่ำลงกว่าเดิมหรือเกิดปัญหาเรื้อรัง

"ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองขณะนี้ยังไม่สิ้นสุด ทำให้ผู้ที่ติดตามข่าวสารทางการเมืองเป็นประจำเกิดความเครียดได้ จึงขอแนะนำให้หยุดรับข่าวสารสักระยะ อย่าไปยึดติดหรือทุ่มเทมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตาม เพราะไม่ดีต่อสุขภาพจิตของตัวเอง และควรหาทางระบายความเครียดซึ่งการชมภาพยนตร์ก็เป็นการแก้ปัญหาอีกวิธีที่ดีอีกทางหนึ่ง เพราะสุดท้ายแล้วมีจุดเกิดปัญหาได้ ก็ต้องมีจุดดับปัญหาได้เอง"นายวิชาญ กล่าว

ด้าน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า กรมสุขภาพจิตได้ลงนามร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในการเพิ่มขยายคู่สายการให้บริการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพจิต สายด่วนสุขภาพจิต 1323 จาก 17 คู่สาย เป็น 26 คู่สาย ซึ่งปัจจุบันในกรุงเทพและปริมณฑล มี 6 คู่สาย เป็น 15 คู่สาย ให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 9 คู่สาย ขณะที่ในต่างจังหวัดมี 11 คู่สาย เพื่อรองรับวิกฤตการของชาติ ซึ่งอาจเกิดวิกฤตซ้อนวิกฤต จากปัญหาสภาพเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา หรือ แฮมเบอร์เกอร์ ที่ได้ลุกลามทั่วโลกและเข้าสู่ประเทศไทย ขณะเดียวกันไทยก็กำลังประสบปัญหาความขัดแย้งทางสังคม การเมือง ปัญหาต่างๆ ในอนาคตจึงอาจเพิ่มมากขึ้น

"นอกจากนี้ทีโอทียังได้ปรับปรุงพัฒนาระบบให้สามารถต่อสายไปยังโทรศัพท์ที่ว่าง 15 คู่สาย และหากไม่มีสายใดว่างเลยก็สามารถฝากข้อความอัตโนมัติ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อกลับไปทันที โดยที่ผู้ใช้บริการจะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังสามารถโทรศัพท์ปรึกษาปัญหาได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีการจัดเวรวันละ 3 เวร เวรละ 8 ชั่วโมง ขณะนี้ได้จัดเตรียมบุคลากรจำนวน 45 คน ในการให้บริการรองรับการให้คำปรึกษาซึ่งจากการทดลองระบบเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า โทรติดต่อได้ตลอดเวลาไม่มีปัญหา"นพ.วชิระกล่าว

นพ.วชิระ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม บุคลากรที่ให้บริการอาจไม่พอเพียง จึงได้ดำเนินโครงการรับสมัครอาสาสมัคร ผู้ให้คำปรึกษามาเป็นผู้รับโทรศัพท์ ช่วยเหลือผู้ที่มีความเครียด โดยคุณสมบัติที่สำคัญคือต้องมีใจอยากช่วยเหลือ ซึ่งอาจต้องมีการอบรมทักษะการให้คำปรึกษาก่อน โดยรับสมัครอาสาสมัครในโครงการนำร่อง 50 คน คาดว่าภายใน 2 เดือน จะสามารถอบรมทักษะการให้คำปรึกษาและเริ่มปฏิบัติได้ ทั้งนี้ จากการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต พบว่า ส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน ปัญหาเศรษฐกิจ ส่งผลประทบต่อความเป็นอยู่ของคนเองและครอบครัว และปัญหาทางเพศ เช่น ชีวิตคู่ เพศสัมพันธ์ เป็นต้น ขณะที่ปัญหาเครียดจากการเมือง มีผู้ขอคำปรึกษาเรื่องนี้น้อยมาก เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่เปิดเผยความคิดทางด้านนี้มากนัก และคนที่ขอคำปรึกษาเรื่องนี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวว่าเป็นใคร และไม่เปิดเผยว่าชอบ หรือไม่ชอบฝ่ายไหน

นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า มีหลักในการแก้ปัญหาขณะที่เกิดวิกฤตในชีวิตคือ “ปรับ 4 เติม 3 วิธีสร้างพลังสุขภาพจิตเพื่อการผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ การเมือง และวิกฤตชีวิตครอบครัว” ซึ่งหมายถึง การปรับตัว (ปรับ 4) และการใช้ต้นทุนเดิมที่มีอยู่ (เติม 3) ปรับ 4 ได้แก่ 1.ปรับอารมณ์ มีสติ ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา 2.ปรับความคิด คิดเชิงบวก มองเห็นด้านดีของเหตุการณ์ 3.ปรับการกระทำ เราทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นได้แม้สิ่งที่ทำจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ 4.ปรับเป้าหมายชีวิต รู้จักยืดหยุ่นตามสถานการณ์

"ส่วนการเติม 3 นั้น คือ การใช้ต้นทุนเดิมที่มีอยู่แล้วเติม 1.การเติมศรัทธา เชื่อว่าชีวิตมีคุณค่าและมีความหวัง ซึ่งอาจจะถูกทดสอบจากวิกฤตบ้าง แต่จะช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้น 2.การเติมมิตร ในสังคมมีคนที่พร้อมจะรับฟังและช่วยเหลือเรา 3.การเติมจิตใจให้กว้าง เข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่าย”นพ.ชาตรีกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น