xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เล็งแก้ กม.ประเมิน รพ.ก่อนต่อใบอนุญาต เร่งคุมมาตรฐาน รพ.เอกชน 333 แห่งทั่ว ปท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สธ.เร่งควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยโรงพยาบาลเอกชน 333 แห่งทั่วประเทศ หลังตรวจ รพ.เอกชนใน กทม.พบ 6 แห่ง เครืองมือไม่พร้อม แพทย์ไม่ครบและรับผู้ป่วยเกินที่ขออนุญาต เล็งแก้กฎหมายเสนอให้ใช้ภาคเอกชนร่วมประเมินตรวจสอบ รพ.ก่อนต่อใบอนุญาตทุก 10 ปี

วันที่ 3 พฤศจิกายน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายเร่งควบคุมมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนประเภทที่มีเตียงรับผู้ป่วยไว้พักรักษา ซึ่งทั่วประเทศมี 333 แห่ง ประมาณ 35,000 เตียง เพื่อให้ประชาชนที่เจ็บป่วยได้รับความปลอดภัย รักษาหายขาดจากโรค ไม่เกิดอาการแทรกซ้อน หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ได้ตั้งคณะทำงานติดตามนโยบายด้านการส่งเสริมมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชน 1 ชุด โดยมี นายสมพร สืบถวิลกุล เป็นประธาน

นายวิชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับในปีนี้ได้รับรายงานจากกองการประกอบโรคศิลปะ ว่า มีสถานพยาบาล 6 แห่ง ที่ไม่ได้เกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครทั้งหมด อยู่ระหว่างดำเนินการเปรียบเทียบคดี เนื่องจากฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ได้แก่ ไม่มีผู้ประกอบการวิชาชีพสาขาเภสัชกรรม สาขารังสีเทคนิค เปลี่ยนแปลงผู้ประกอบวิชาชีพโดยไม่แจ้งให้ผู้อนุญาตทราบ สถานพยาบาลไม่สามารถจัดบุคลากรปฏิบัติงานในโรงพยาบาลได้ นอกจากนี้ยังมีการรับผู้ป่วยไว้เกินกว่าที่ได้รับอนุญาต คือ 50 เตียง แต่รับผู้ป่วยไว้จริง 60 เตียง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวิชาญ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่า ขณะนี้ยังมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 เนื่องจากอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ของกองการประกอบโรคศิลปะที่ออกตรวจสอบยังไม่เพียงพอ ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ 45 คน แต่รับผิดชอบโรงพยาบาลเอกชนถึง 333 แห่ง จึงส่งผลให้ไม่สามารถที่จะควบคุมกำกับมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ที่ควรจะเป็นทุก 6 เดือน หรือทุก 1 ปี ซึ่งทุก 10 ปี โรงพยาบาลเอกชนจะต้องต่อใบขออนุญาต และจะต้องมีการตรวจสอบประเมินมาตรฐาน 5 ด้าน ก่อนทุกครั้ง ทั้งในด้านอาคารสถานที่ บุคลากร ระบบบริการ เครื่องมือแพทย์และความปลอดภัย หากไม่ได้ตามมาตรฐานกำหนดก็จะไม่ได้รับใบอนุญาต

“ในการแก้ปัญหาดังกล่าวจึงมีนโยบายจ้างภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาทำการตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนแทนเจ้าหน้าที่กองการประกอบโรคศิลปะ โดยให้โรงพยาบาลเอกชนนั้นๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่าย ครั้งละประมาณ 50,000 บาท โดยชำระที่ สธ.แล้วให้ภาคเอกชนมารับค่าจ้างที่กระทรวง ทั้งนี้ ภาคเอกชนที่จะเป็นทีมตรวจสอบจะต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น วิธีการนี้จะทำให้โรงพยาบาลเอกชนมีการพัฒนามาตรฐานทั้ง 5 ด้านอย่างต่อเนื่อง ได้มอบให้กองการประกอบโรคศิลปะ และฝ่ายกฎหมายศึกษา พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ว่า สามารถออกเป็นกฎกระทรวงหรือต้องแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับนี้หรือไม่” นายวิชาญ กล่าว

นายวิชาญ กล่าวอีกว่า จะเปิดโอกาสและกระจายอำนาจให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการติดตามมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่ในชุมชนนั้นๆ โดยให้กองการประกอบโรคศิลปะจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานของโรงพยาบาลเอกชน ให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุข เยาวชน เพื่อเป็นหูเป็นตาช่วยตรวจสอบติดตามมาตรฐานโรงพยาบาลเอกชนอีกทางหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น