“วิทยา”สั่งสำนักระบาดวิทยาจับตาคุมเข้มหวัดใหญ่ 2009 เตรียมพิจารณา ประเมินผลกระทบปิดประเทศ ยุติหวัดระบาด เชื่อเป็นโรคประจำโลก ขู่รพ.เอกชน ไม่ให้ความร่วมมือ ยอมลดค่ารักษาพยาบาล เตรียมทบทวนใบอนุญาต วอนพท.อย่าเอาการเมืองบีบหมอ – พยาบาล แขวะเสื้อแดงเปรียบเป็นก๊อดอามี่บุกโรงพยาบาล สงครามโลกยังไม่ทำ
วันนี้(8 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข และในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่ภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตราการในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สาพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ตนได้ให้นโยบายกับโรงพยาบาลของรัฐบาล โดยผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัดดังกล่าวจะมีช่องทางพิเศษ เพราะว่าคนที่เป็นไข้หวัดดังกล่าวจะไม่รู้ว่าเป็นหวัดสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ซึ่งตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีโรงพยาบาลกว่า 10 แห่งได้อำนวยความสะดวกต่อเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้สำหรับประชาชน 47 ล้านคนในโรงพยาบาลของรัฐที่ไม่มีสิทธิ์ในข้าราชการและประกันสังคม สามารถรักษาและตรวจฟรี
สำหรับโรงพยาบาลเอกชนในวันที่ 9 ก.ค. นี้ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชิญโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯมาหารือ เพราะที่ผ่านมาค่ารักษาต่อโรคดังกล่าวมีราคาแพง ซึ่งเป็นการซ้ำเติมประชาชน ดังนั้นคงเป็นการขอความร่วมมือในการคิดค่ารักษาบริการให้ถูกลง ซึ่งความรับผิดชอบทางการแพทย์จะต้องร่วมกันทั้งหมด โดยการานงานข้อมูลต่างๆทั้งผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต มาที่กระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด เพื่อการติดตาโรคดังกล่าวได้ และหากโรงพยาบาลเอกชนไม่มั่นใจว่า ผู้ป่วยเป็นโรคดังกล่าวหรือไม่ กรมการแพทย์พร้อมจะส่งแพทย์เข้าไปร่วมให้คำแนะนำ
“หากโรงพยาบาลเอกชนไม่ร่วมมือ ก็จะให้เปิดกฎหมายดูว่า จะมีความร่วมมือทางด้านกฎหมายอย่างไรบ้าง ซึ่งตนได้มอบหมายให้อธิบดีกรมสนับสนุนการบริการ ซึ่งมีหน้าที่ออกใบอนุญาตโรงพยาบาลทั้งหมด หากไม่ให้ความร่วมมือก็จะต้องดูถึงความร้ายแรงขนาดไหน ว่าจะปิดโรงพยาบาลที่ไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่”นายวิทยากล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยออกมาเรียกร้องให้รับผิดชอบต่อกรณีผู้เสียชีวิต นายวิทยา กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาเล่านการเมือง และตนขอปฏิเสธที่จะเอากระทรวงสาธารณสุขมาเล่นการเมืองด้วย หากมีบัญชีอะไรที่คิดกับตนก็มาคิดได้เลย แต่อย่าไปกดดันบุคคลากรทางการแพยทย์ ตนไม่ได้เรียกร้องให้แพทย์ห้ามมีคนตาย เพราะตนไม่ใช่แพทย์ และโฆษกพรรคเพื่อไทยก็ไม่ใช่หมอ เขาคงไม่รู้ดีทั้งหมด ทั้งนี้ตนยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดทำงานด้วยความเต็มใจและทุ่มเท เพราะฉะนั้นอย่าไปกดดันมากกว่านี้
ส่วนกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าไปในโรงพยาบาลที่จ.เชียงใหม่ เพื่อคัดค้านการลงพื้นที่นั้น นายวิทยา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่มีคนร้ายบุกเข้าไปในโรงพยาบาล และตนก็อยู่การเมืองมา 20 ปี เคยเจอครั้งแรกก็คือก๊อดอามี่ กรณีที่สองคือจ.เชียงใหม่ ตนเข้าใจว่าสงครามโลกก็ไม่มีมีใครบุกเข้าโรงพยาบาล เพราะฉะนั้นมารยาททางการเมือง ตนคิดว่าต้องพิจารณาให้รอบคอบ ใครที่อยู่เบื้องหลังโดยเฉพาะวิทยุชุมชน ที่ออกมาว่าตนและยังออกมาว่าแพทย์ที่ประจำอยู่ที่โรงพยาบาล และคิดว่ากลุ่มที่ต่อต้านต้องทบทวนตัวเองว่าชีวิตนี้จะไม่เจอหมอหรืออย่างไร ทั้งนี้ตนคิดว่าจะไม่เรื่องแบบนี้กับพื้นที่อื่นต่อไป เพราะเป็นกรณีที่ไม่เคยเกิด และยืนยันว่าตนจะไม่หยุดทำหน้าที่
เมื่อถามว่า จะมีการปิดประเทศอย่างที่แพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาฯ ออกมาแนะนำหรือไม่ นั้น นายวิทยา กล่าวว่า ได้มีการหารือกับวิชาการของกระทรวงที่ทำเรื่องนี้กับองค์การอนามัยโลก เพราะการปิดประเทศหมายถึงการหยุดกิจกรรมทุกอย่างในประเทศ ซึ่งการปิดประเทศก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่ได้ไหลออกไปข้างนอก แต่มันไหลเข้ามาแล้ว
"การหยุดทุกอย่างในประเทศอยู่ที่รัฐบาลว่าจะกล้าหรือไม่ เช่นการหยุดเรียน หยุดทำงาน หยุดเปิดร้านอาหาร ให้ทุกคนอยู่ที่บ้านเพื่อตัดวงจร ซึ่งที่ผ่านมาประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของสังคมโลก ส่วนจะมีการหยุดทุกอย่างในประเทศหรือไม่ ขณะนี้ก็ได้มอบหมายให้สำนักระบาดวิทยาประเมินทุกวัน เพราะตนประเมินไม่ได้ แต่ทางฝ่ายการเมืองก็ต้องประเมินว่ามีผลกระทบมากน้อยขนาดไหน เพราะขณะนี้มีประเทศแม็กซิโกประเทศเดียวเท่านั้นที่ปิดซึ่งก็ยังมีผู้ป่วยอยู่ แต่ประเทศเขาเริ่มชินเพราะเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งไม่มีใครยืนยันว่าประเทศแม็กซิโกจะไม่มีผู้ป่วย ซึ่งทั้งโลกจะกลายเป็นโรคประจำไป ทั้งหมด 135 ประเทศ ไม่ใช่ประเทศไทยเพียงประเทศเดียว" รมว.สธ.กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยได้มีการเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน นายวิทยา กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ดี และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณา