อย.เรียก “เอสแอนด์พี” แก้โฆษณา ลั่นรับรอง “เมลามีน” เฉพาะล็อต อย่าเหมารวม

เครือข่ายผู้บริโภคชี้ต้องสร้างกลไกเฝ้าระวังด้านอาหารหลังเกิดกรณีเมลามีน พร้อมประสานเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภาครัฐและเครือข่ายภาคประชาชน แนะ สธ.ประกาศทุกๆ วันศุกร์ให้ประชาชนทราบความคืบหน้า นักวิชาการชี้ควรมองวิกฤตเมลามีนเป็นโอกาส สำหรับกรณี เอสแอนด์พี ลงประกาศความปลอดภัยในสื่อสิ่งพิมพ์ อย.ยันไม่รับรองตลอดไป รับรองเป็นล็อตๆ เกรงผู้บริโภครับข้อมูลผิดพลาด

วันนี้ (24 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการจัดการเสวนาเรื่อง “บทเรียนเมลามีนกับกลไกการเฝ้าระวังความปลอดภัยทางอาหาร” ที่จัดขึ้นโดยวารสารฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค โดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์เรื่องเมลามีนจำเป็นจะต้องเกิดกลไกในการเฝ้าระวังอาหารขึ้น เช่นเดียวกับที่ในประเทศยุโรปที่มีการประสานงานเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเครือข่ายผู้บริโภค หน่วยงานของภาครัฐ และนักวิชาการให้เป็นเครือข่ายเตือนภัยความปลอดภัยอาหารผ่านทางเว็บไซด์ และประกาศให้สาธารณชนทราบทุกๆ วันศุกร์ของสัปดาห์ให้ประชาชนทราบ ซึ่งถือว่าเป็นการยกระดับสินค้า อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเตือนความรับผิดชอบของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่ายว่าจะรับผิดชอบกับความไม่ปลอดภัยของอาหารเหล่านั้นอย่างไร

“เครือข่ายความปลอดภัยด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบผ่านทางเว็บไซต์ http://ec.europa.eu/consumers/dyna/rapex/rapex_archives_en.cfm ที่เป็นของประเทศเครือข่าย ร่วมมือกันในการช่วยยกระดับคุณภาพของอาหารให้ดีขึ้น และยังเป็นการคอยตรวจสอบอาหารที่เป็นอันตรายได้ แทนที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตร หรือกระทรวงพาณิชย์จะเป็นฝ่ายที่จะประกาศเรื่องความปลอดภัยของอาหารเพียงฝ่ายเดียว ถือว่าเป็นการเพิ่มช่องทางในการประกาศให้สาธารณชนทราบเพื่อเกิดการพัฒนา ซึ่งไม่จำเป็นต้องกลัวฟ้องร้อง เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นผลวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทั้งสิ้น” น.ส.สารี กล่าว

ภก.วิทยา กุลสมบูรณ์ ผู้จัดการแผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.) กล่าวว่า ควรมองเรื่องเมลามีนให้เป็นโอกาส โดยในส่วนของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคควรมีการจัดเป็นสภาผู้บริโภคด้านอาหาร เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้จัดเรื่องสภาพผู้บริโภค ที่มีผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากสินค้าต่างๆ ตั้งแต่ยกทรงไปจนถึงรถยนต์ที่เข้ามาร่วมแชร์ประสบการณ์ รวมถึงมีนักวิชาการด้านกฎหมาย เข้ามาให้แนวทางว่าจะทำอย่างไรที่จะให้มีการออกมาตรการทางกฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสังคมไทย

ด้าน น.ส.ทิพย์วรรณ ปริญญาศิริ ผู้อำนวยการกองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่คุกกี้เอสแอนด์พีลงโฆษณายืนยันความปลอดภัยในสื่อสิ่งพิมพ์ว่า ภายในสัปดาห์หน้า อย.จะทำหนังสือไปยังบริษัท เอสแอนด์พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เพื่อให้แก้ไขปรับปรุงเนื้อหาที่ลงโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ โดยเนื้อหาระบุว่า คุกกี้เอสแอนด์พีปลอดภัย อย.ยืนยันว่า “คุกกี้เอสแอนด์พี ปลอดภัยต่อผู้บริโภค” ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า อย.รับรองว่าคุกกี้เอสแอนด์พีทุกชนิดปลอดภัย ซึ่งบริษัทฯ คงนำข้อมูลจากหนังสือรับรองที่ อย.ออกให้มา ใช้ในการโฆษณา ซึ่งหนังสือดังกล่าวเป็นการรับรองเฉพาะล็อตการผลิตที่ระบุไว้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการรับรองตลอดไป ซึ่งจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบและแก้ไขโฆษณาดังกล่าว

“นอกจากนี้ บริษัทผู้ผลิตทั้งหลายได้สอบถามมายัง อย.ว่า หากจะมีการระบุในฉลากว่าสินค้านี้ไม่ได้ผลิตจากจีนเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคนั้น ทาง อย.ได้ขอรับไว้พิจารณาว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมอาหารในเร็วๆ นี้” น.ส.ทิพย์วรรณ กล่าว

น.ส.ดารณี หมู่ขจรพันธุ์ นักวิชาการด้านอาหารและยา 9 ชช.กล่าวว่า หนังสือรับรองของ อย.เป็นการรับรองเฉพาะล็อตเท่านั้น ไม่ได้รับรองว่าสินค้าจากบริษัทนี้จะปลอดภัยทั้งหมด หากจะโฆษณาจำเป็นต้องระบุให้ชัดว่า ปลอดภัยรุ่นไหน ล็อตใด ไม่ใช่เขียนคำโฆษณาคลุมเครือเช่นนี้ จนอาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่า สินค้าทุกอย่างปลอดภัยหมด ซึ่งก็ไม่ถูกต้อง