“เหลิม” เกรงใจจีน ชี้ควรลดกระแสเสนอข่าว “นมเมลามีน” หวั่นกระทบความสัมพันธ์

“เป็ดเหลิม” นัดกินข้าวกับฑูตจีนเป็นการส่วนตัว หารือแก้ปัญหาเมลามีนในนมจากจีน ชี้ไทยควรลดกระพือข่าวเกรงกระทบความสัมพันธ์ไทย-จีน เหตุจีนเป็นมหาอำนาจไทยต้องพึ่งพา แต่ยันไม่ลดเลิกมาตรการตรวจสอบ ส่วนประกาศกระทรวงคุมเมลามี รมว.สาธารณสุข ยังไม่เซ็น ขอรัฐบาลแถลงนโยบายกับสภาก่อน พร้อมสั่งการบ้านอย.5 ข้อ อธิบายว่า เมลามีนคืออะไร อยู่ที่ไหน โทษอย่างไร ปริมาณแค่ไหนเกิดโทษ และป้องกันอย่างไร

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยนายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางตรวจเยี่ยมการทำงานของอย. เป็นหน่วยงานแรกภายหลังจากรับตำแหน่ง พร้อมกับได้มอบนโยบายให้กับ อย.ด้วย

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า มาตรการควบคุมสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ และทำการค้ากับไทยมานาน ซึ่งไทยจำเป็นต้องพึ่งพาจีน ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศจีนถือว่ามีขนาดสูสีกับสหรัฐอเมริกา และในอนาคตอาจมีอิทธิพลมากกว่า ทำให้ไทยต้องเกาะติดจีนให้มาก แต่ไม่ใช่ว่า ลด ละ เลิก มาตรการป้องกันการตรวจสอบ ซึ่งการตั้งโต๊ะแถลงข่าวประณาม อาจทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นจีนยอมรับผิดไปแล้วแต่ความรู้สึกที่มีต่อการถูกประณามอาจส่งผลกระทบรุนแรง ได้

“เราอย่าไปกระพือข่าวกันครึกโครมเพราะจะทำให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ในฐานะนักการเมืองทางแก้ปัญหาอาจจะต้องนัดพบทูตจีน เพื่อทำความเข้าใจกันหรือไม่ ซึ่งผมรู้จักกับนายกสมาคมแต้จิ๋ว นายกสมาคมไหหลำเป็นเพื่อนกันมานานหลายสิบปี จึงจะนัดทานข้าวเป็นการส่วนตัว แต่จะเชิญเลขาธิการ อย. และสธ. ไปด้วย” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า วานนี้ 30 ก.ย.มีหนังสือมาถึงให้ตนเซ็นลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาควบคุมสารเมลามีนในอาหารแต่ตนยังไม่เซ็น เพราะต้องรอให้รัฐบาลแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาในระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคมนี้ก่อน ตนจึงจะยอมเซ็นลงนามในประกาศดังกล่าว โดยจะเซ็นลงนามภายในคืนวันที่ 8 ตุลาคมนี้ทันทีและจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ตุลาคมนี้

“คำสั่งประกาศกระทรวง ถือว่าเป็นคำสั่งปกครอง ที่อาจกระทบกับผู้ประกอบการสินค้า ซึ่งหากมีผู้ร้องเรียน หรือยื่นฟ้องตนต่อศาลปกครองหรือมีคนยื่นฟ้องผมต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ว่าไม่มีอำนาจออกคำสั่ง เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายของรัฐบาล อาจทำให้สธ. หรือผมเสียหายได้ ไมได้เกรงกลัว แต่ต้องระมัดระวัง” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ยังไม่ทราบรายละเอียดของปัญหาการพบสารปนเปื้อนในนมที่นำเข้าจากประเทศจีนที่สังคมให้ความสนใจอยู่ เพราะเป็นเรื่องเฉพาะทาง จึงให้การบ้านอย. จัดทำข้อมูลรายงานมายังตน 5 ข้อ คือ 1.เมลามีนคืออะไร 2.อยู่ที่ไหน 3.มีโทษอย่างไร 4.ปริมาณที่พบต้องมากเท่าใดจึงจะมีโทษ และ5.มาตรการป้องกันเป็นอย่างไร เพื่อจะได้เข้าใจสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร และจะได้ตอบคำถามในสภาผู้แทนราษฎรได้ถูกต้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายจะตรวจสอบเครื่องดื่มผสมคาเฟอีน จะยังดูแลต่อหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว ไม่ต้องห่วงมีแน่ ไม่ลืมแต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะขณะนี้กำลังศึกษาโครงสร้างกฎหมายเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา เพื่อจะเอามาตรวจสอบกับของไทย

ด้านนพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ขณะนี้ผลการตรวจสารเมลามีน ในนมผงจากจีน ที่กำลังจะนำเข้าจำนวน 60 ตัน ของบริษัท ดัชมิลล์ ยังไม่ทราบผลการตรวจวิเคราะห์ คาดว่าจะทราบในสัปดาห์นี้ รวมถึง ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเดียวกันอีก 22 ตัน ก็ยังต้องรอคิวการตรวจในห้องปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม ตามนโยบายของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ไม่ต้องการให้ข่าวออกมาในทางเป็นการโจมตีสินค้าจากจีนนั้น อย. รับทราบ แต่จะทำการตรวจสอบสินค้าต่อไป โดยจะแจ้งให้ผู้สื่อข่าวทราบเป็นระยะๆ