“อภิรักษ์” ยันสานฝันคน กทม.แก้ปัญหาจราจร-ขนส่งมวลชน

“อภิรักษ์” ยันสานต่อนโยบายจราจรเดิม ทั้งเดินหน้าส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอส โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ที พร้อมขยายเส้นทางเดินเรือสร้างท่าเรือให้ร่มรื่นสวยงาม ส่วนเลนจักรยานทำต่อแน่นอน

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) หมายเลข 5 พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมแถลงปรับโครงสร้างระบบขนส่งมวลชนใน กทม.ทั้งรถโดยสาร เรือด่วน สกายวอล์ก และบริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนจะสานต่อนโยบายเดิมทั้งส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า โครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ (บีอาร์ที) โดยส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีลมจากสะพานตากสิน-แยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร จะแล้วเสร็จเดือนเมษายน 2552 ขณะที่ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีอ่อนนุช-แบริ่ง ก็จะแล้วเสร็จในปี 2553 สำหรับส่วนต่อขยายสายอื่นๆ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายใน 2 ปี ส่วนรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีใน 6 เส้นทาง ภายใน 4 ปี ขณะเดียวกัน จะเร่งแก้ไขปัญหาการร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อตัวรถเมล์ด่วนพิเศษให้เร็วที่สุด เพื่อให้คน กทม.สามารถใช้บริการได้

นายอภิรักษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเส้นทางเรือจะมีการขยายเส้นทางและท่าเรืออีก 14 ท่า พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์รอบท่าเรือ สร้างหลังคากันแดด กันฝัน ปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นสวยงาม ตลอดจนจะเพิ่มส่วนต่อขยายสกายวอล์กของรถไฟฟ้าบีทีเอสให้เชื่อมต่อกันเป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน อาทิ สนามเป้า-สะพานควาย ชิดลม-พระราม 4 ศาลาแดง-ตากสิน นานา-พระโขนง ส่วนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่มีประชาชนใช้บริการ 3 แสนคนต่อวัน จะปรับปรุงให้มีระเบียบเส้นทางเดินรถใหม่ และบังคับใช้กฎจราจรอย่างเข้มงวด มีจุดจอดรถตู้ รถแท็กซี่ วินรถจักรยานยนต์ชัดเจน ที่สำคัญ จะขยายเนื้อที่ฟุตปาทให้ประชาชนสามารถรอรถได้อย่างสะดวกและมีปรับปรุงภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น และจะจัดระเบียบแผงค้าให้เป็นระเบียบอีกด้วย

นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเลนของรถจักรยานจะยังเดินหน้าต่อไป เนื่องจากในภาวะน้ำมันแพงโดยจะเน้นใน 2 จุด คือ ในพื้นที่ชั้นในของ กทม.และบริเวณใกล้บ้านเรือนประชาชน แต่สิ่งสำคัญ คือ วินัยจราจรและความเอื้อเฟื้อของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ต้องมีให้กับเส้นทางจักรยานด้วย ซึ่งจะขอความร่วมมือกับทางตำรวจให้ช่วยดูแลและตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายในเลนจักรยาน

ส่วนที่มีป้ายหาเสียงของตนล้มทับใส่ประชาชนก็ได้ติดต่อสอบถามกับสามีผู้เสียหายแล้ว ซึ่งจะเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย และได้แสดงความห่วงใยกับครอบครัวเรียบร้อยแล้ว