“อภิรักษ์” ยื่นหนังสือด่วนถึง กกต.ทถ.กทม.เพื่อขอทราบความชัดเจนในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพราะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทำหาเสียงลำบาก พร้อมประกาศงดปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง 5 ก.ย.นี้ไปก่อน ยืนยันให้จัดเลือกตั้ง 5 ต.ค.ตามเดิม ขณะที่ ปธ.กกต.ทถ.กทม.ส่งเรื่องด่วนสุดถึง กกต.กทม.พิจารณาต่อไป แนะผู้สมัคร หากไม่แน่ใจควรยกเลิกไปก่อน ชี้เรื่องการเมืองต้องการเมืองแก้ไข
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.)นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 5 พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยื่นหนังสือต่อ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทมหานคร (ปธ.กกต.ทถ.กทม.) เพื่อขอทราบแนวทางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในระหว่างที่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยเฉพาะมาตรา 9 วงเล็บ 1 ที่ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งข้อห้ามดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความไม่ชัดเจนต่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมืองที่จะต้องออกออกไปชี้แจงนโยบายต่อประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้การรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองตลอดจนการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยชอบด้วยกฎหมาย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการทราบความชัดเจนในข้อกำหนดต่างๆ และหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และจากพระราชกำหนดดังกล่าว ตนจึงของดการปราศรัยหาเสียงที่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 5 ก.ย.จะจัดปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้ตนจะงดการลงพื้นที่หาเสียงก่อน
ส่วนกำหนดการเลือกตั้ง 5 ต.ค.นั้น ตนอยากให้ยืนยันตามกำหนดเดิมเพื่อจะได้มีผู้ว่าฯ กทม.มาปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งระหว่างนี้เปรียบเสมือนสุญญากาศในการบริหารราชการ กทม.เพราะถึงแม้ปลัด กทม.จะทำหน้าที่รักษาการโดยตำแหน่งก็ไม่เหมือนมีผู้ว่าฯ กทม.โดยตรง
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ในภาวะการเช่นนี้จะไม่มีผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะอยู่ที่การรับรู้ของประชาชนมากกว่า ส่วนโพลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนนั้น ขณะนี้จะยังไม่มีการจัดทำต้องมีการสรุปที่แน่นอนก่อนมีผู้สมัครเป็นใครและนโยบายอย่างไร รวมถึงจะเปิดทีมผู้บริหารหลังจากนี้เช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ซึ่งหากตนได้รับเลือกส่วนการบริหารงานของคณะผู้บริหารก็จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ว่าในช่วงนั้นต้องการผลักดันวาระอะไรเป็นสำคัญ ซึ่งจะแบ่งเป็นเฟสในการบริหารงานเพื่อให้ผู้ที่โดนสับเปลี่ยนจะไม่รู้สึกว่าถูกปลด รวมถึงจะให้ที่ปรึกษามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย ส่วนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า จะมาปิดล้อมศาลาว่าการกทม.แห่งตนได้รับเลือกนั้น ก็ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นอะไรที่จะนำมาร้องเรียนซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า
พลเรือโท ณรงค์ กล่าวภายหลังรับหนังสือจาก นายอภิรักษ์ ว่า เรื่องการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีความชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินการต่อไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแนวทางการหาเสียงในขณะที่มีประกาศภาวะฉุกเฉินจากการหารือยังให้ดำเนินการต่อไปได้แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดต่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนกรณีที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นหนังสือเสนอมานั้น ตนจะทำหนังสือด่วนที่สุดวันนี้ (4 ก.ย.) ถึง กกต.กทม.เพื่อส่งเรื่องต่อไปยัง กกต.กลาง เป็นผู้พิจารณาและสอบถามต่อไปยังผู้รับผิดชอบในการแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป ซึ่งจะเป็นการดำเนินการตามลำดับชั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความชัดเจนเรื่องการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง เพื่อไม่ให้ขัดต่อประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น ตนเห็นควรใช้วิธีหาเสียงทางอื่นไปก่อนในช่วงนี้ หากไม่แน่ใจอะไรก็ควรงดเว้นไปก่อน ส่วนจำเป็นจะต้องเสนอให้มีการออกเป็นข้อยกเว้นสำหรับให้การหาเสียงดำเนินการได้อย่างชัดเจนและปกติหรือไม่นั้น ยืนยันว่า กกต.ทถ.กทม.ไม่มีอำนาจในการเป็นผู้เสนอ คงต้องให้เป็นดุลยพินิจของ กกต.กทม.และ กกต.กลาง ก่อนที่จะไปหารือกับผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
พลเรือโท ณรงค์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ กกต.กลาง ได้นัดประชุมผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพื่อหารือในหัวข้อ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แบบสมานฉันท์ ซึ่งตนคาดว่า ความชัดเจนน่าจะมีขึ้นในวันนั้น ขณะเดียวกัน การประกาศภาวะฉุกเฉินก็คงไม่น่าจะนานนัก ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่กังวล คงไม่กระทบกับการเลือกตั้งอะไร เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ เรามีหน้าที่จัดการเลือกตั้งก็ต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรออกมา ส่วนปัญหาการเมืองก็ให้ฝ่ายการเมืองเขาแก้กันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.เป็นวันที่ 4 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนกระทั่งปิดรับสมัครเมื่อเวลา 16.30 น.ปรากฏว่า ยังไม่มีผู้สมัครรายใดมาสมัครเพิ่ม แต่ได้มี นายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 สังกัดอิสระ ได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติมถึงรายชื่อทีมงานคณะทำงานผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มี 4 คน ประกอบด้วย 1.นายจีราวัฒน์ (กุณฑล) ไชยเศรษฐ คณะบดีคณะศิลปะศาสตร์ วิทยาลัยรัชต์ภาคย์ 2.นายชนินทร์ วิชชุลตา คณะบดีคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยรัชต์ภาคย์ 3.นายวิเศษ แสงกาญนวนิช อาจารย์ประจำหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และ 4.นายวิบูลย์ แสงกาญจนวนิช อาจารย์ประจำหลักสูตร สาขาปรัชญาและจริยศาสตร์ ปริญญาเอกมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
วันนี้ (4 ก.ย.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.)นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.หมายเลข 5 พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ผู้อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยื่นหนังสือต่อ พลเรือโทณรงค์ ชโลธร ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทมหานคร (ปธ.กกต.ทถ.กทม.) เพื่อขอทราบแนวทางการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในระหว่างที่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยเฉพาะมาตรา 9 วงเล็บ 1 ที่ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ซึ่งข้อห้ามดังกล่าวอาจก่อให้เกิดความไม่ชัดเจนต่อการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมืองที่จะต้องออกออกไปชี้แจงนโยบายต่อประชาชน ทั้งนี้ เพื่อให้การรณรงค์หาเสียงของผู้สมัครและพรรคการเมืองตลอดจนการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยชอบด้วยกฎหมาย
นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการทราบความชัดเจนในข้อกำหนดต่างๆ และหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง และจากพระราชกำหนดดังกล่าว ตนจึงของดการปราศรัยหาเสียงที่เดิมกำหนดไว้ในวันที่ 5 ก.ย.จะจัดปราศรัยใหญ่ที่บริเวณลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการ กทม.ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้ตนจะงดการลงพื้นที่หาเสียงก่อน
ส่วนกำหนดการเลือกตั้ง 5 ต.ค.นั้น ตนอยากให้ยืนยันตามกำหนดเดิมเพื่อจะได้มีผู้ว่าฯ กทม.มาปฏิบัติหน้าที่โดยเร็วที่สุด ซึ่งระหว่างนี้เปรียบเสมือนสุญญากาศในการบริหารราชการ กทม.เพราะถึงแม้ปลัด กทม.จะทำหน้าที่รักษาการโดยตำแหน่งก็ไม่เหมือนมีผู้ว่าฯ กทม.โดยตรง
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า ในภาวะการเช่นนี้จะไม่มีผลต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง เพราะอยู่ที่การรับรู้ของประชาชนมากกว่า ส่วนโพลสำรวจความพึงพอใจของประชาชนนั้น ขณะนี้จะยังไม่มีการจัดทำต้องมีการสรุปที่แน่นอนก่อนมีผู้สมัครเป็นใครและนโยบายอย่างไร รวมถึงจะเปิดทีมผู้บริหารหลังจากนี้เช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ซึ่งหากตนได้รับเลือกส่วนการบริหารงานของคณะผู้บริหารก็จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ว่าในช่วงนั้นต้องการผลักดันวาระอะไรเป็นสำคัญ ซึ่งจะแบ่งเป็นเฟสในการบริหารงานเพื่อให้ผู้ที่โดนสับเปลี่ยนจะไม่รู้สึกว่าถูกปลด รวมถึงจะให้ที่ปรึกษามีบทบาทในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย ส่วนที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า จะมาปิดล้อมศาลาว่าการกทม.แห่งตนได้รับเลือกนั้น ก็ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นอะไรที่จะนำมาร้องเรียนซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้ามากกว่า
พลเรือโท ณรงค์ กล่าวภายหลังรับหนังสือจาก นายอภิรักษ์ ว่า เรื่องการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.มีความชัดเจนแล้วว่าจะดำเนินการต่อไปไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนแนวทางการหาเสียงในขณะที่มีประกาศภาวะฉุกเฉินจากการหารือยังให้ดำเนินการต่อไปได้แต่ต้องระมัดระวังไม่ให้ขัดต่อประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ส่วนกรณีที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ยื่นหนังสือเสนอมานั้น ตนจะทำหนังสือด่วนที่สุดวันนี้ (4 ก.ย.) ถึง กกต.กทม.เพื่อส่งเรื่องต่อไปยัง กกต.กลาง เป็นผู้พิจารณาและสอบถามต่อไปยังผู้รับผิดชอบในการแก้ไขในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป ซึ่งจะเป็นการดำเนินการตามลำดับชั้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความชัดเจนเรื่องการขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง เพื่อไม่ให้ขัดต่อประกาศภาวะฉุกเฉินนั้น ตนเห็นควรใช้วิธีหาเสียงทางอื่นไปก่อนในช่วงนี้ หากไม่แน่ใจอะไรก็ควรงดเว้นไปก่อน ส่วนจำเป็นจะต้องเสนอให้มีการออกเป็นข้อยกเว้นสำหรับให้การหาเสียงดำเนินการได้อย่างชัดเจนและปกติหรือไม่นั้น ยืนยันว่า กกต.ทถ.กทม.ไม่มีอำนาจในการเป็นผู้เสนอ คงต้องให้เป็นดุลยพินิจของ กกต.กทม.และ กกต.กลาง ก่อนที่จะไปหารือกับผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
พลเรือโท ณรงค์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ กกต.กลาง ได้นัดประชุมผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เพื่อหารือในหัวข้อ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.แบบสมานฉันท์ ซึ่งตนคาดว่า ความชัดเจนน่าจะมีขึ้นในวันนั้น ขณะเดียวกัน การประกาศภาวะฉุกเฉินก็คงไม่น่าจะนานนัก ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่กังวล คงไม่กระทบกับการเลือกตั้งอะไร เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ เรามีหน้าที่จัดการเลือกตั้งก็ต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรออกมา ส่วนปัญหาการเมืองก็ให้ฝ่ายการเมืองเขาแก้กันไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการรับสมัครผู้ว่าฯ กทม.เป็นวันที่ 4 ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาจนกระทั่งปิดรับสมัครเมื่อเวลา 16.30 น.ปรากฏว่า ยังไม่มีผู้สมัครรายใดมาสมัครเพิ่ม แต่ได้มี นายกิตติศักดิ์ ถิรวิศิษฎ์ ผู้สมัครหมายเลข 1 สังกัดอิสระ ได้มายื่นเอกสารเพิ่มเติมถึงรายชื่อทีมงานคณะทำงานผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.มี 4 คน ประกอบด้วย 1.นายจีราวัฒน์ (กุณฑล) ไชยเศรษฐ คณะบดีคณะศิลปะศาสตร์ วิทยาลัยรัชต์ภาคย์ 2.นายชนินทร์ วิชชุลตา คณะบดีคณะบริหารธุรกิจ วิทยาลัยรัชต์ภาคย์ 3.นายวิเศษ แสงกาญนวนิช อาจารย์ประจำหลักสูตร ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และ 4.นายวิบูลย์ แสงกาญจนวนิช อาจารย์ประจำหลักสูตร สาขาปรัชญาและจริยศาสตร์ ปริญญาเอกมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
