xs
xsm
sm
md
lg

อัด ‘หมัก’ บ้าอำนาจสร้างเงื่อนไขประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน - 14 จังหวัดใต้ระดมพลกดดันทุกรูปแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – นักวิชาการใต้อัดสมัครบ้าอำนาจสร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงเพื่ออ้างเหตุประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ชี้ทางออกไม่ลาออกก็ยุบสภา ขณะที่พันธมิตรฯ 14 จังหวัดภาคใต้ระดมพลเคลื่อนไหวกดดันทุกรูปแบบทั้งปิดสนามบินและปิดล้อมศาลากลางจังหวัด

นายจรูญ หยูทอง นักวิชาการในเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมภาคใต้ กล่าวถึงประเด็นที่เกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการ หรือ นปก.ได้เคลื่อนขบวนเข้าไปยั่วยุจนเกิดการปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่ฝ่ายรัฐบาลได้ปลุกระดมกลุ่ม นปก.ให้มาปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่ออาศัยเหตุผลดังกล่าวในการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะรัฐบาลคิดว่าจะสามารถสร้างความชอบธรรมในการจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เนื่องจาก พ.ร.ก.ทุกข้อที่รัฐบาลได้ประกาศล้วนมุ่งเป้าไปที่การจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ คือ

1.ทำให้การชุมนุมเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย 2.เพื่อปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน กรณีที่มีความพยายามในการปิดสถานีข่าว ASTV ซึ่งเป็นสื่อหลักในการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และ 3.การระบุว่าห้ามมีการชุมนุมในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นความพยายามที่จะจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งสิ้น

“หลังจากที่รัฐบาลได้ใช้กลไกของรัฐสภาเพื่อแก้วิกฤตที่เกิดขึ้นแต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล จนสุดท้ายต้องถูกประณามจากหลากหลายวงการรวมทั้งบนเวทีพันธมิตรฯ และหลายฝ่ายได้เสนอให้นายสมัคร ลาออกหรือยุบสภาเพื่อเป็นการแก้ปัญหาแต่นายสมัครก็กลับปฏิเสธ และตอบโต้อย่างไม่มีเหตุมีผล จนสุดท้ายก็ต้องมีการสร้างเงื่อนไขประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อหวังควบคุมสถานการณ์ให้ได้”

นายจรูญ กล่าวต่ออีกว่า การที่รัฐบาลปลุกระดมประชาชนให้มาเผชิญหน้าและปะทะกัน เมื่อมีการยิงกันขึ้นก็พยายามสร้างข่าวว่ากลุ่มพันธมิตรฯ มีอาวุธปืน ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิด เพราะทางพันธมิตรฯ เองก็ยืนยันว่าชุมนุมอย่างสันติโดยไม่มีอาวุธ เรื่องนี้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่ามีความพยายามที่จะสร้างเงื่อนไขเพื่อนำไปสู่การต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ

“ความพยายามของรัฐบาลนอกจากจะไม่เป็นผลแล้วยังทำให้มวลชนของกลุ่มพันธมิตรฯ ยิ่งเกิดความไม่พอใจและน่าจะมีการร่วมกันต่อต้านรัฐบาลเป็นจำนวนมากเหมือนเมื่อครั้งที่มีการใช้กำลังสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งสิ่งนี้เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลเริ่มมีอายุในการปฏิบัติหน้าที่ลดน้อยลงทุกที การสลายการชุมนุมไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ทางออกที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภา ต้องสู้กันด้วยเหตุและผลไม่ใช่มุ่งแต่ใช้อำนาจซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับบ้านเมืองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว” นายจรูญ กล่าวและว่า

ด้าน นายโอสถ สุวรรณเศวต กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่าภายหลังจากที่มีการประกาศภาวะฉุกเฉิน พันธมิตรฯ ในภาคใต้ทั้งหมดยิ่งมีความตื่นตัวมากขึ้น และมีมาตรการในการกดดันรัฐบาลตามลำดับตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงมาจนถึงจังหวัดสตูล

มาตรการที่จะดำเนินการคือที่ จ.ชุมพร จะปิดถนนลงสู่ภาคใต้ที่ อ.มาบอัมฤทธิ์ ช่วงเขากระต่าย จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จะรวมตัวกันปิดสนามบิน จ.นครศรีธรรมราช จะรวมตัวกันที่หน้าศาลาประดู่หกและจะมีมาตรการกำหนดกันภายในอีกครั้ง ส่วน จ.ระนอง จ.พัทลุง จะมีมาตรการการเข้าไปปิดศาลากลาง ขณะที่ จ.ภูเก็ต จะมีมาตรการปิดสนามบินภูเก็ตหรือศาลากลาง จ.พังงา จะร่วมกับภูเก็ตปิดสนามบินภูเก็ต จ.สงขลาและสตูล จะร่วมกันปิดสนามบินหาดใหญ่ ซึ่งเป็นมาตรการเบื้องต้นในวันนี้และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุการณ์

นายโอสถ กล่าวด้วยว่า มาถึงวันนี้ยืนยันว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ภาคใต้ยังยืนยันต่อสู้ในจุดเดิม คือ ปฏิเสธรัฐบาล และแม้ว่าจะมีความรุนแรงกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ขอยืนยันว่าจะต่อสู้อย่างถึงที่สุดด้วยมือเปล่าแม้บาดเจ็บหรือล้มตายอย่างไรถือว่าเป็นการสละเพื่อกำจัดระบอบทักษิณ ฟื้นความมีคุณธรรม ศีลธรรม จริยธรรม ให้กลับมาสู่การเมืองไทยหลังจากถูกระบอบทักษิณครอบงำมาหลายปี
กำลังโหลดความคิดเห็น