xs
xsm
sm
md
lg

ผนึกกำลัง 4 สถาบันแก้ปัญหาเบาหวาน-ยา-รพ.แออัด ยึดต้นแบบศิริราช

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผนึกกำลัง 4 สถาบันพัฒนาระบบการวิจัย เอางานรูทีนมาต่อยอด แก้ปัญหาระบบสาธารณสุข 3 เรื่อง คือ เบาหวาน การใช้ยา ลดความแออัดในโรงพยาบาล ศิริราชต้นแบบทำสำเร็จ

นพ.พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข ผู้อำนวยการสถานบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) กล่าวภายหลังลงนามความร่วมมือร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบสุขภาพ ด้วยการพัฒนางานประจำด้วยงานวิจัย หรือ Routine to Research (R2R) ว่า ปัจจุบันการพัฒนางาน R2R มีประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพบริการสู่ประชาชน ซึ่งควรสนับสนุนให้มีการสร้างเครื่องข่ายนักวิจัยและคณะทำงาน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน เพื่อทำให้งานวิจัยจากงานประจำมีความน่าเชื่อถือสามารถปรับปรุงนำมาใช้ในสถานการณ์จริงได้ ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนางานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.พัฒนาระบบบริการผู้ป่วยเบาหวาน และความดันโลหิตสูง 2.ส่งเสริมการใช้ยาที่เหมาะสม 3.การพัฒนาบริการผู้ป่วยนอก หรือ การลดความแออัดในโรงพยาบาล

นพ.พงษ์พิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า การสำรวจสุขภาพคนไทยครั้งล่าสุด พบว่า มีผู้ป่วยเบาหวาน 3 ล้านคน และโรคความดันโลหิตสูง 10 ล้านคน โดยมีผู้ป่วยเบาหวาน แต่ไม่ได้รับการวินิจฉัยร้อยละ 56.6 ได้รับการวินิจฉัยแต่ไม่ดด้รักษาร้อยละ 1.8 ได้รับการรักษาแต่ไม่สามารถควบคุมได้ร้อยละ 29.4 และได้รับการรักษาและควบคุมได้ร้อยละ 12.2 และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานเป็นเงิน 3.5-8.4 หมื่นล้านบาท ส่วนผู้ป่วยความดันโลหิตสูง 10 ล้านคน ไม่ได้รับการวินิจฉัยร้อยละ 71.4 ได้รับการวินิจฉัย แต่ไม่ได้รับการรักษา 5 รักษาแต่ความคุมไม่ได้ 15 ได้รับการรักษาและควบคุมได้ร้อยละ 8.6 นอกจากนี้ ผู้ป่วยเหล้านี้ยังมีภาวะแทรกซ้อนเช่น ไตเสื่อม ร้อยละ 43.9 ต้อกระจก ร้อยละ 42.8 จอประสาทตาเสื่อม ร้อยละ 30.7 ซึ่งทำให้สูญเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น

“การใช้ยาฟุ่มเฟือยโดยข้อมูลเมื่อปี 2548 พบว่า ค่าใช้จ่ายเรื่องยาของคนไทยอยู่ที่ 1.86 แสนล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 42.8 ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งหมด ถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่มีค่าใช้จ่ายด้านยาเพียงร้อยละ 10-20 โดยกลุ่มยาที่ใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ คือ ยาฆ่าเชื้อหรือยาปฏิชีวะนะ ปีละประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท เกือบ 1 ใน 4 ของมูลค่ายาทั้งหมด ส่วนปัญหาความแออัดในโรงพยาบาลเฉพาะในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ละปีมีผู้ป่วยนอกมาใช้บริการมากกว่า 120 ล้านครั้ง ผู้ป่วยนิยมใช้บริการที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความแออัดส่งผลกระทบต่อคุณภาพบริการ” นพ.พงษ์พิสุทธิ์ กล่าว

นพ.วินัย สวัสดิวร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2552 จะเป็นครั้งแรกในการนำระบบ R2R มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประเมินประสิทธิภาพของหน่วยบริการ เพื่อนำเป็นตัวชี้วัดการจัดสรรงบประมาณ นอกจากนี้ได้นำ R2R มาใช้ในการดูแลการบริการ ลดความแอดอัด นอกจากนี้ สปสช.ได้นำเรื่องการวิจัยมาประยุกต์ใช้ เช่น การวิจัยถึงประสิทธิภาพการผสมผสานการทำงานของ 3 กองทุน อาทิ การดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่ง 3 ระบบนี้ ควรจะมีการเชื่อมโยงกัน เพราะสุดท้ายแล้วคนไทยทุกคนต้องกลับเข้ามาใช้สิทธิของหลักประกันสุขภาพ จึงควรมีการเชื่อมโยงเพื่อให้มีการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้นำเสนองานวิจัยแบบ R2R ที่ประสบความสำเร็จแล้ว คือ การดูแลผู้ป่วยเบาหวานในเด็กและวัยรุ่น และการผ่าตัดผนังผังผืดลิ้นในเด็กทารก ซึ่งทำให้ลดอัตราการป่วยแทรกซ้อน และทำให้เด็กสามารถดูดนมแม่ได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น