“พล.อ.สุรยุทธ์” ชี้ศาสนาช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติได้ เชื่อผู้เผยแผ่ศาสนาของแต่ละศาสนาช่วยคลี่คลายปัญหาโดยใช้หลักของแต่ละศาสนานำประชาชน แนะหันหน้าพูดคุยกันสร้างสันติ
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดการประชุมรวมพลังทางศาสนาเสริมสร้างความสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดย พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ บรรยายพิเศษ เรื่อง “พลังศาสนิกสัมพันธ์ สร้างสังคมสันติสุข” ว่า การสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในส่วนของประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั้งโลกจำเป็นจะต้องมีศาสนสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ในทุกสังคมถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีคนบางกลุ่มที่มองโลกในแง่ร้าย เป็นเพราะคนเหล่านั้นอยู่ในข่ายของผู้ที่ไม่ประพฤติดี ซึ่งต้องยอมรับว่าคนกลุ่มนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันในส่วนนี้ และเชื่อว่าในส่วนศาสนาจะเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยนำความคิดของผู้ที่มีความเชื่อในศาสนานั้นๆ ไปแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกอย่างมีความสุข
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความวุ่นวายในบ้านเมืองของเราเอง ทุกศาสนาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เราคงจะต้องช่วยกัน ตนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ หรือผู้นำศาสนาอื่นๆ ก็ตาม ก็จะต้องร่วมมือชักจูงและทำความเข้าใจให้แก่ผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง โดยเฉพาะสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศาสนาก็มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยแก้ไขให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งระหว่างคนในชาติ ควรจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง และความสมานสามัคคีของคนในชาติได้ โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากเรามองแต่ในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียว ก็มีโอกาสน้อยที่จะเกิดความสามัคคีกัน ดังนั้น เราควรจะต้องมองด้วยใจที่มุ่งต่อการสร้างความสามัคคีขึ้นในสังคมของเรา
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างในเรื่องศาสนานั้นไม่ได้นำมาซึ่งความแตกแยก เพราะทุกคนเป็นคนไทย อยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินไทย ดังนั้น คนไทยจะต้องมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน เพื่อนำมาสู่ความสงบสุขของประเทศ
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา(ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดการประชุมรวมพลังทางศาสนาเสริมสร้างความสมานฉันท์ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดย พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ บรรยายพิเศษ เรื่อง “พลังศาสนิกสัมพันธ์ สร้างสังคมสันติสุข” ว่า การสร้างความสมานฉันท์ในสังคมไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในส่วนของประเทศไทยเท่านั้น แต่ทั้งโลกจำเป็นจะต้องมีศาสนสัมพันธ์ที่ดี นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ในทุกสังคมถึงแม้ว่าขณะนี้จะมีคนบางกลุ่มที่มองโลกในแง่ร้าย เป็นเพราะคนเหล่านั้นอยู่ในข่ายของผู้ที่ไม่ประพฤติดี ซึ่งต้องยอมรับว่าคนกลุ่มนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องช่วยกันในส่วนนี้ และเชื่อว่าในส่วนศาสนาจะเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถช่วยนำความคิดของผู้ที่มีความเชื่อในศาสนานั้นๆ ไปแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกอย่างมีความสุข
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับความวุ่นวายในบ้านเมืองของเราเอง ทุกศาสนาก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เราคงจะต้องช่วยกัน ตนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ผู้ทำหน้าที่เผยแพร่ศาสนา ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ หรือผู้นำศาสนาอื่นๆ ก็ตาม ก็จะต้องร่วมมือชักจูงและทำความเข้าใจให้แก่ผู้ที่นับถือศาสนานั้นๆ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง โดยเฉพาะสถานการณ์ ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ศาสนาก็มีส่วนสำคัญ ที่จะช่วยแก้ไขให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความขัดแย้งระหว่างคนในชาติ ควรจะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจกัน เพื่อนำไปสู่ความปรองดอง และความสมานสามัคคีของคนในชาติได้ โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หากเรามองแต่ในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียว ก็มีโอกาสน้อยที่จะเกิดความสามัคคีกัน ดังนั้น เราควรจะต้องมองด้วยใจที่มุ่งต่อการสร้างความสามัคคีขึ้นในสังคมของเรา
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า จากการประชุมครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างในเรื่องศาสนานั้นไม่ได้นำมาซึ่งความแตกแยก เพราะทุกคนเป็นคนไทย อยู่ร่วมกันบนผืนแผ่นดินไทย ดังนั้น คนไทยจะต้องมีความสามัคคีซึ่งกันและกัน เพื่อนำมาสู่ความสงบสุขของประเทศ