สธ.ฟุ้งผลงานตามนโยบายรัฐบาลรอบ 6 เดือน ก้าวโลด สำเร็จทั้ง 34 โครงการ ทั้งการพัฒนางาน สธ.ตามแนวพระราชดำริ โครงการฟันเทียมพระราชทาน พัฒนาคุณภาพบริการโรงพยาบาล 222 แห่งในระดับ 5 ดาว ขณะที่โครงการใหญ่สร้างโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เริ่มจัดหาผู้ก่อสร้างภายใน ก.ย.นี้ พร้อมเปิดศูนย์ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย 9 แห่งในเดือน ต.ค.นี้
วันที่ 4 ส.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในช่วง 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 ว่า กระทรวงสาธารณสุขที่มี นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรมว.สาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข จนกระทั่งตนรับช่วงทำหน้าที่รักษาการรมว.สธ.นั้น มีนโยบายที่เกิดจากรัฐบาลโดยตรง ทำให้เกิดการขับเคลื่อนงานต่างๆ ทั้งหมด 5 นโยบาย ได้แก่ การพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ การพัฒนางานสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ การผลักดันกฎหมายด้านสาธารณสุข และการสนับสนุนธุรกิจบริการสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน รวมทั้งหมด 34 โครงการใหญ่ ได้แก่ การพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ โครงการฟันเทียมพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ใส่ฟันเทียมผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหารจำนวน กว่า 30,000 ราย การพัฒนาคุณภาพบริการโรงพยาบาลระดับ 5 ดาว มาตรฐานเท่าสากล บรรลุผลแล้ว 222 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 27 แห่ง การสานต่อทำซีแอลยาจากรัฐบาลชุดก่อน โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนด้วย
“หน่วยงานกรม กองต่างๆ ได้ดำเนินการสนองนโยบายรัฐบาล เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ทำให้บรรลุผลสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ยังมีผลงานโด่งดังระดับโลก 2 เรื่อง คือการส่งหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุไซโคลนนาร์กีส ประเทศพม่า นานานาชาติชื่นชมยกย่องน้ำใจในฐานะมิตรประเทศ และการได้รับรางวัลจากองค์การสหประชาชาติ สาขาปรับปรุงบริการประชาชนของโรงพยาบาลยโสธร นับเป็นครั้งแรกในประเทศ”นายวิชาญ กล่าว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับ 2 โครงการใหญ่ที่จะเริ่มดำเนินการใน 2 เดือนนี้ ได้แก่ การก่อสร้างโรงงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ขององค์การเภสัชกรรมในระดับอุตสาหกรรม งบประมาณ 1,411 ล้านกว่าบาท จะเริ่มดำเนินการหาผู้ก่อสร้างในระบบอี-อ็อกชัน (e-auction) ภายในเดือนกันยายน และโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย 9 แห่ง เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ รายได้ ชื่อเสียง ได้แก่ สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทยและอาโรคยาศาลเฉลิมพระเกียรติ ยศเส เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพมหานคร จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี จ.หนองคาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จ.ภูเก็ต ที่ อ.ป่าตอง จ.สุราษฎร์ธานี ที่เกาะสมุย และที่จ.นนทบุรีที่สถาบันการแพทย์แผนไทย จะเปิดบริการประมาณเดือนตุลาคม 2551 โดยในปีนี้จะวิจัยและพัฒนายาจากสมุนไพร บรรจุเข้าเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ อีก 5 ชนิด ได้แก่ เพชรสังฆาต บัวบก เถาวัลย์เปรียง มะระขี้นก และสหัศธารา เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ซึ่งทุกปีมีมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนเรื่องอื่นๆ ได้จัดตั้งกองทุนสำหรับการคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ มีเงินกองทุนจำนวน 3 ล้านบาท ได้ช่วยเหลือไปแล้ว 1 รายเป็นเงิน 700,000 บาท ล่าสุดได้ปรับปรุงการใช้โทรฉุกเฉิน 1669 ให้เป็นสายด่วนรับแจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยแพทย์กู้ชีพ และความเดือดร้อนจากบริการด้านการแพทย์และอาหารและยา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาการบริการประชาชนให้ดีขึ้น
วันที่ 4 ส.ค.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการดำเนินงานที่สำคัญตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีในช่วง 6 เดือนตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2551 ว่า กระทรวงสาธารณสุขที่มี นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นรมว.สาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข จนกระทั่งตนรับช่วงทำหน้าที่รักษาการรมว.สธ.นั้น มีนโยบายที่เกิดจากรัฐบาลโดยตรง ทำให้เกิดการขับเคลื่อนงานต่างๆ ทั้งหมด 5 นโยบาย ได้แก่ การพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ การพัฒนางานสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสุขภาพ การผลักดันกฎหมายด้านสาธารณสุข และการสนับสนุนธุรกิจบริการสุขภาพด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน รวมทั้งหมด 34 โครงการใหญ่ ได้แก่ การพัฒนางานสาธารณสุขตามแนวพระราชดำริ โครงการฟันเทียมพระราชทาน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ใส่ฟันเทียมผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเคี้ยวอาหารจำนวน กว่า 30,000 ราย การพัฒนาคุณภาพบริการโรงพยาบาลระดับ 5 ดาว มาตรฐานเท่าสากล บรรลุผลแล้ว 222 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปี 2550 จำนวน 27 แห่ง การสานต่อทำซีแอลยาจากรัฐบาลชุดก่อน โดยนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อพัฒนาการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพอย่างยั่งยืนด้วย
“หน่วยงานกรม กองต่างๆ ได้ดำเนินการสนองนโยบายรัฐบาล เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ทำให้บรรลุผลสำเร็จด้วยดี นอกจากนี้ยังมีผลงานโด่งดังระดับโลก 2 เรื่อง คือการส่งหน่วยแพทย์พระราชทานเคลื่อนที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุไซโคลนนาร์กีส ประเทศพม่า นานานาชาติชื่นชมยกย่องน้ำใจในฐานะมิตรประเทศ และการได้รับรางวัลจากองค์การสหประชาชาติ สาขาปรับปรุงบริการประชาชนของโรงพยาบาลยโสธร นับเป็นครั้งแรกในประเทศ”นายวิชาญ กล่าว
นายวิชาญ กล่าวต่อว่า สำหรับ 2 โครงการใหญ่ที่จะเริ่มดำเนินการใน 2 เดือนนี้ ได้แก่ การก่อสร้างโรงงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก ขององค์การเภสัชกรรมในระดับอุตสาหกรรม งบประมาณ 1,411 ล้านกว่าบาท จะเริ่มดำเนินการหาผู้ก่อสร้างในระบบอี-อ็อกชัน (e-auction) ภายในเดือนกันยายน และโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพด้วยการแพทย์แผนไทย 9 แห่ง เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ รายได้ ชื่อเสียง ได้แก่ สถาบันวิจัยการแพทย์แผนไทยและอาโรคยาศาลเฉลิมพระเกียรติ ยศเส เขตป้อมปราบฯ กรุงเทพมหานคร จ.เชียงราย จ.เชียงใหม่ จ.อุบลราชธานี จ.หนองคาย เมืองพัทยา จ.ชลบุรี จ.ภูเก็ต ที่ อ.ป่าตอง จ.สุราษฎร์ธานี ที่เกาะสมุย และที่จ.นนทบุรีที่สถาบันการแพทย์แผนไทย จะเปิดบริการประมาณเดือนตุลาคม 2551 โดยในปีนี้จะวิจัยและพัฒนายาจากสมุนไพร บรรจุเข้าเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ อีก 5 ชนิด ได้แก่ เพชรสังฆาต บัวบก เถาวัลย์เปรียง มะระขี้นก และสหัศธารา เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ ซึ่งทุกปีมีมูลค่าเกือบ 4 หมื่นล้านบาท
ส่วนเรื่องอื่นๆ ได้จัดตั้งกองทุนสำหรับการคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางการแพทย์ มีเงินกองทุนจำนวน 3 ล้านบาท ได้ช่วยเหลือไปแล้ว 1 รายเป็นเงิน 700,000 บาท ล่าสุดได้ปรับปรุงการใช้โทรฉุกเฉิน 1669 ให้เป็นสายด่วนรับแจ้งขอความช่วยเหลือหน่วยแพทย์กู้ชีพ และความเดือดร้อนจากบริการด้านการแพทย์และอาหารและยา ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาการบริการประชาชนให้ดีขึ้น