xs
xsm
sm
md
lg

“นักวิชาการ” อัดเละ “รัฐ” โง่ลำเอียงเขมร ชี้ต้องเชิญยูเนสโกดู พท.จริง วอนทหารกั้นรั้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาคประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยต่างถือป้ายคัดค้าน
นักวิชาการยันออกมาเรียกร้องไม่ใช่กระแสคลั่งชาติ พร้อมต้องการกระชากหน้ากากยูเนสโก และคนในรัฐบาลชุดนี้ ที่มีใจลำเอียงไปทางฝั่งเขมร จวก “โง่” และทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง เรียกร้องทหารนำรั้วลวดหนาม ที่ได้รื้อออกกลับไปตั้งไว้ที่เดิม เชิญ คกก.ยูเนสโก มาดูเขตแดนที่ถูกต้อง จี้รัฐบาลต้องระงับแถลงการณ์ร่วมด่วนที่สุด พร้อมเร่งเจรจาผลักดันคนเขมรอพยพออกไปจากพื้นที่โดยเร็ว


วันนี้ (16 ก.ค.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) มีการสัมมนาเรื่อง “ปราสาทพระวิหาร วาระแห่งชาติ” โดยนายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์ กล่าวว่า การที่มีกลุ่มคนออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้นั้น ไม่ใช่เพื่อต้องการให้เกิดกระแสการคลั่งชาติ แต่ต้องการกระชากหน้ากากยูเนสโก และกระชากหน้ากากของใครบางคนในรัฐบาลชุดนี้ ที่มีจิตใจลำเอียงไปอยู่ในฝั่งกัมพูชา จึงอยากให้ประชาชนรู้ถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้ โดยมีบทสรุปที่สำคัญคือในเรื่องนี้ง่ายๆ คือ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องนั้นโง่ และการมีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง
ภาคประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยต่างถือป้ายคัดค้าน
นายเทพมนตรี กล่าวอีกว่า เมื่อศาลโลกตัดสินแล้ว แต่เกิดความทับซ้อนของพื้นดิน จึงควรให้ศาลโลกพิจารณาชี้ชัดอีกครั้งว่าในทางปฏิบัติกับพื้นที่ทับซ้อนควรจะเป็นแบบใด จึงอยากให้ผบ.ส.ส.เปิดเผยเอกสารการสัมมนาที่มีขึ้นที่ วปอ.เพื่อกระชากหน้ากากจากบางคนที่จิตใจลำเอียงอยู่ข้างกัมพูชา และเปิดเผยแผนที่ในปี ค.ศ.1907 แต่ทางฝรั่งเศสกลับเลือกใช้แผนที่ในปี ค.ศ.1908 มาเป็นเอกสารแนบท้ายสนธิสัญญาประกอบการพิจารณาของศาลโลก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไทยสามารถทวงคืนปราสาทพระวิหารได้ หากยึดตามแผนที่ค.ศ. 1907 ที่แนบท้ายสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส เนื่องจากมีการระบุการปักปันเขตแดนในแผนที่นี้ไว้อย่างชัดเจนแล้ว

นายเทพมนตรี ยังเปิดเผยเอกสารลับด่วนมาก ที่ 11467/2505 ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2505 เรื่อง การปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลโลก ในคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเสนอนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนหลังศาลโลกมีมติ และเอกสารด่วนมาก ที่ มท.8176/ 2505 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2505 ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตอบกลับถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น โดยแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดทำป้ายเขตแดนตามที่เสนอ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติตามที่เสนอ และให้เพิ่มทำรั้วลวดหนามด้วย ทั้งนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ทหารนำลวดหนามที่รื้อออกตรงเชิงบันได ไปปักปันไว้ที่เดิม แบบเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรีในอดีต และให้เชิญคณะกรรมการของยูเนสโก 21 ประเทศ มาชี้เขตแดนให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงในอดีต
ภาคประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยต่างถือป้ายคัดค้าน
นายเทพมนตรี เปิดเผยอีกด้วยว่า ในปี พ.ศ.2544 มีเอกสารที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น ว่า มีกัมพูชาเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตแดนประเทศไทยแล้ว ประมาณ 500 ครอบครัว แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับนิ่งเฉยต่อเรื่องนี้

“ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่า มีข้าราชการของไทยในกระทรวงต่างประเทศ ได้ทำการฉ้อฉล เพราะรู้แผนการการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารมาโดยตลอด โดยในวันที่ 6 พ.ค.2551 ที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปกัมพูชาเพื่อหาทางออกในเรื่องแผนที่ทับซ้อน และมีการตกลงร่วมกันโดยมีข้อความส่วนหนึ่งว่า “จะมีการผ่อนปรนพื้นที่บริเวณพัฒนาปราสาทบริเวณพื้นที่ร่วม” จึงนำมาซึ่งการลงนามในวันที่ 22 พ.ค.ทีผ่านมา และเป็นไปตามข้อเสนอแนะของยูเนสโก ที่เสนอให้ 7 ประเทศเข้าพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบโดยรอบปราสาทร่วมกัน” นายเทพมนตรี กล่าว
ภาคประชาชนผู้ไม่เห็นด้วยต่างถือป้ายคัดค้าน
ด้าน ศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร คณะรัฐศาสตร์ มธ.กล่าวว่า ไทยจะต้องระงับแถลงการณ์ร่วมกัมพูชา จนกว่าจะมีคำตัดสินชี้ขาดของศาลรัฐธรรมนูญ และต้องไม่ให้ผู้แทนทั้ง 7 ประเทศ เข้ามาบริหารจัดการพื้นที่มรดกโลกร่วม นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องยืนยันต่อคำตัดสินของศาลโลก ว่า ไทยยอมรับอธิปไตยเหนือปราสาทของกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบยังอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย และต้องเจรจากับกัมพูชาให้อพยพชาวกัมพูชาที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของไทยออกไป เพราะถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทย ไม่เช่นนั้นไทยก็ผลักดันออกไปแทน หรือนำทหารเข้ามาคุ้มครองเพื่อเพิ่มแรงกดดันและอำนาจต่อรองในเวทีโลก




แถลงการณ์กลุ่มนักวิชาการ อันเป็นผลมาจากการสัมมนา “ปราสาทพระวิหาร : วาระแห่งชาติ”

วันพุธที่ 16 กรกฎาคม 2551 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

1.เราไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ละเราไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนร่วมในแนวทางใดๆ ก็ตามที่ไม่คำนึงถึงมิติด้านแขตแดน

2.เราเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกแถลงการณ์ร่วมโดยเด็ดขาดและโดยเร็วที่สุด หากรัฐบาลไม่ยอมเลิกเราในฐานะภาคประชาชนจะไม่ยินยอมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการขึ้นทะเบียนมรดกโลกและจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคัดค้าน

3.เราเรียกร้องให้วุฒิสภาสอบสวน ICOMOS และคณะกรรมการมรดกโลกของไทย ในกรณีการผลประโยชน์ทับซ้อน และไม่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติ

4.นักวิชาการของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ดังรายนามข้างล่างนี้ ได้ร่วมกันเพื่อติดตามและดำเนินการใดๆ ในประเด็นปราสาทพระวิหาร เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติในนาม “คณะกรรมการติดตามประเด็นวาระแห่งชาติ เรื่องปราสาทพระวิหาร”

1.รศ.ทวีศักดิ์ สูทกวาทิน รองอธิการบดีฝ่ายวางแผน

2.ผศ.ดร.สมพจน์ กรรณนุช ผู้ช่วยอธิการบดี (ปฏิบัติงานด้านกิจการนักศึกษา)

3.รศ.ดร.พานิตชนัต ศิริพานิช ประธานสภาคณาจารย์

4.รศ.ดร.ราเชนทร์ ชินทยารังสรรค์ คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ

5.รศ.ดร.นิสดารก์ เวชยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักฝึกอบรม

6.ผศ.ดร.กัลยาณี คูณมี อาจารย์ประจำ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

7.ผศ.ดร.ณัฐฐา วินิจนัยภาค ที่ปรึกษาด้านงานนิด้าสัมพันธ์


กำลังโหลดความคิดเห็น