ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มบุคลากร มอ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เรื่องการขอคัดค้าน และไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา
บ่ายวันนี้ (16 ก.ค.) กลุ่มบุคลากร มอ.จัดแถลงข่าว โดย อาจารย์รัชนี กัลยาณคุณาวุฒิ รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ ว่า ตามที่ กลุ่มบุคลากร มอ.ร่วมกับนักศึกษา คณาจารย์ และประชาชนได้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลและความรู้ และจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารและเรื่องอื่นๆ มาโดยตลอดนั้น
“จากกรณีที่ศาลโลกตัดสินให้ตัวปราสาทพระวิหาร เป็นของประเทศกัมพูชา มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 การเผยแพร่ภาพตำรวจตะเวนชายแดน ทำพิธีเชิญเสาธงทั้งต้นลงมาจากยอดเขาพระวิหารโดยไม่ลดธงจากยอดเสา เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2505 นั้น”
แสดงถึงการไม่ยอมรับคำตัดสินที่ไม่ยุติธรรม ทำให้ผู้รับทราบข้อมูลที่แท้จริงเกิดความสงสัยต่อรัฐบาลที่มี นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ทำไมรัฐบาลจึงรีบร้อนในการยอมรับให้ประเทศกัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว การที่ประชาชนจำนวนมากไปทักท้วง และไม่ยินยอม และประกอบกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านได้นำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วน และในส่วนของรัฐบาลก็มีข้อมูลจากนักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ มากมาย แต่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กลับไม่สนใจปล่อยให้ นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไปดำเนินการจนประเทสกัมพูชานำปราสาทพระวิหารไปขึ้นเป็นมรดกโลกได้สำเร็จ
“พวกเราในฐานะประชาชนชาวไทยจึงขอคัดค้าน และไม่ยอมรับการขึ้นทะเบียนปราสาทพระหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา”
นอกจากนี้ กลุ่มบุคลากร มอ.ยังได้จัดทำป้ายขนาดใหญ่ที่เขียนข้อความว่า “ประชาชนไม่ยอมรับการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา” ติดไว้ตรงทางแยกในตัวเมือง อ.หาดใหญ่ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เห็นถึงพลังประชาชน
อาจารย์รัชนี กล่าวต่ออีกว่า จริงๆ แล้วในส่วนของเรื่องการหมิ่นพระบรมราชานุภาพนั้น ในส่วนของบุคลกร มอ. ไม่ได้นิ่งเฉยแต่เนื่องจากขณะนี้นักศึกษากำลังอยู่ในช่วงสอบแต่ก็ได้เตรียมการเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ไว้แล้ว เพราะนักศึกษาทุกคนก็เป็นลูกพระบิดาที่ต้องแสดงศักยภาพปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ด้าน อาจารย์สมบูรณ์ พรพิเนตรพงษ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัญหาการทะเลาะกันระหว่างประเทศกัมพูชากับประเทศไทยขณะนี้นั้น ไม่ได้เกิดจากประชาชนของทั้งสองประเทศ แต่เกิดจากผู้นำของเขมรและผู้นำของไทยที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่
นอกจากนี้ นักศึกษา มอ.ส่วนหนึ่งได้ร่วมลงชื่อ เพื่อคัดค้านในกรณีปราสาทพระวิหารโดยจะนำรายชื่อดังกล่าวไปยื่นที่ ไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย และยังคงมีกิจกรรมต่างๆ เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
