สภา กทม.เห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 4.6 พันล้านบาท แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พร้อมตั้งคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาให้เสร็จใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 2) ประจำปี 2551 โดยมี นายธวัชชัย ปิยนนทยา ประธานสภา กทม.เป็นประธานการประชุม และมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.คณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการ กทม.
ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ ได้ยื่นญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม.จ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานครและญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 (ฉบับที่...) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนระหว่างปีงบประมาณปี 2551 ตามยุทธศาสตร์การพัฒนา กทม.หลายประการ โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2551 หรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ เช่น การปรับปรุงถนน การก่อสร้างทางเดินและทางรถจักรยาน การก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. การเช่ารถเก็บขนมูลฝอย การจัดหารถกวาดดูดฝุ่น เงินเพิ่มค่าครองชีพของข้าราชการและลูกจ้าง เป็นต้น
ดังนั้น กทม.จึงได้ขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 4,621,2478,890 ล้านบาท จำแนกเป็น สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ค่าก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสายสุขุมวิทตอนที่ 1 1 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท สำนักการโยธา (สนย.) ค่าก่อสร้างอาคารศาลาว่าการ กทม. 2 เขตดินแดง และถนน 12 โครงการ รวมมูลค่า 1,132.35 ล้านบาท สำนักสิ่งแวดล้อม(สสล.) 16 โครงการ อาทิ จ้างเหมาเอกชน เก็บขนมูลฝอย โครงการจัดหารถกวาด-ดูดฝุ่นฯลฯ มูลค่า 1,230.21 ล้านบาท สำนักการระบายน้ำ (สนน.) 13 โครงการ อาทิ การจัดสร้างเขื่อน ค.ส.ล.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม ค่าจ้างเหมาเดินระบบของสถานีสูบน้ำ รวมมูลค่า 858,683,490 บาท และงบกลางรายการเงินสำรอง สำหรับเงินเพิ่มค่าครองชีพตามมติ ครม. และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 1,000 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายเดือนละ 200 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2551
ทั้งนี้ ที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบและรับร่างข้อบัญญัติดังกล่าว โดยตั้งคณะกรรมการวิสามัญ จำนวน 21 คน เพื่อพิจารณากลั่นกรอง และกำหนดแล้วเสร็จภายใน 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ในการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 (ครั้งที่ 2) ประจำปี 2551 โดยมี นายธวัชชัย ปิยนนทยา ประธานสภา กทม.เป็นประธานการประชุม และมี นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.คณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการ กทม.
ทั้งนี้ นายอภิรักษ์ ได้ยื่นญัตติขอความเห็นชอบให้ กทม.จ่ายขาดเงินสะสมกรุงเทพมหานครและญัตติร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2551 (ฉบับที่...) เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนระหว่างปีงบประมาณปี 2551 ตามยุทธศาสตร์การพัฒนา กทม.หลายประการ โดยเฉพาะภารกิจที่จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณไว้ในข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2551 หรือได้รับการจัดสรรแต่ไม่เพียงพอ เช่น การปรับปรุงถนน การก่อสร้างทางเดินและทางรถจักรยาน การก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. การเช่ารถเก็บขนมูลฝอย การจัดหารถกวาดดูดฝุ่น เงินเพิ่มค่าครองชีพของข้าราชการและลูกจ้าง เป็นต้น
ดังนั้น กทม.จึงได้ขอความเห็นชอบจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 4,621,2478,890 ล้านบาท จำแนกเป็น สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ค่าก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนสายสุขุมวิทตอนที่ 1 1 โครงการ มูลค่า 400 ล้านบาท สำนักการโยธา (สนย.) ค่าก่อสร้างอาคารศาลาว่าการ กทม. 2 เขตดินแดง และถนน 12 โครงการ รวมมูลค่า 1,132.35 ล้านบาท สำนักสิ่งแวดล้อม(สสล.) 16 โครงการ อาทิ จ้างเหมาเอกชน เก็บขนมูลฝอย โครงการจัดหารถกวาด-ดูดฝุ่นฯลฯ มูลค่า 1,230.21 ล้านบาท สำนักการระบายน้ำ (สนน.) 13 โครงการ อาทิ การจัดสร้างเขื่อน ค.ส.ล.โครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม ค่าจ้างเหมาเดินระบบของสถานีสูบน้ำ รวมมูลค่า 858,683,490 บาท และงบกลางรายการเงินสำรอง สำหรับเงินเพิ่มค่าครองชีพตามมติ ครม. และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร 1,000 ล้านบาท โดยเบิกจ่ายเดือนละ 200 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2551
ทั้งนี้ ที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบและรับร่างข้อบัญญัติดังกล่าว โดยตั้งคณะกรรมการวิสามัญ จำนวน 21 คน เพื่อพิจารณากลั่นกรอง และกำหนดแล้วเสร็จภายใน 7 วัน
