ปลัด กทม.ส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยราชการในสังกัดกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ วางตัวในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พร้อมให้งดจัดกิจกรรมวลชนตั้งแต่ 29 มิ.ย.จนเลือกตั้งเสร็จ เผยกฎหมายเลือกตั้งใหม่ห้ามผู้สมัครฯบริจาคเงิน ช่วยซองงานต่างๆ ฝ่าฝืนถือผิดกฎหมายเลือกตั้ง ขณะที่ 4 ก.ค.นี้ทีมกฎหมายจาก กกต.บุก กทม.ชี้แจงข้อกฎหมายให้ ผอ.ทั้ง 50 เขต
นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551 ตนเองได้ทำหนังสือเวียนส่งถึงทุกหน่วยงานในสังกัด กทม.เพื่อให้งดการจัดโครงการเกี่ยวกับมวลชน และวางตัวเป็นกลางทางการเมืองในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.โดยให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 7 ที่บัญญัติให้คณะกรรมการการเลือกตั้งจัดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ภายใน 45 วัน นับแต่วันครบวาระซึ่งจะต้องจัดการเลือกตั้งภายในวันที่ 12 ตุลาคม หลังจากที่ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบันครบวาระในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ รวมถึงมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวประกอบกับประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง วิธีการหรือลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2551 ข้อ 6 บัญญัติว่าเมื่อมีการประกาศให้มีการเลือกตั้งอันเนื่องมาจากการครบวาระ ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการหรืออาศัยผู้ใดกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นหารลงคะแนนเลือกตั้งแก่ผู้สมัครใดภายใน 60 วันก่อนวันครบวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้งด้วยวิธีการดังนี้ คือ จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด เช่น งานวันเกิด งานบวช งานแต่งงาน งานศพ งานบุญ เป็นต้น รวมถึงการให้ทางตรงหรือทางอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด มัสยิด สุเหร่า ศาลเจ้า โรงเจ โบสถ์คริสต์ โบสถ์พราหมณ์ สำนักปฏิบัติธรรม สถาบันการศึกษา สถานสงเคราะห์ ชุมนุม ชมรม หรือสถาบันอื่นใดที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศ เช่น การบริจาคเงิน การประมูลทรัพย์สิน หรือสิ่งของในงานกุศลต่างๆ เป็นต้น
ปลัด กทม.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ข้อบัญญัติดังกล่าวยังห้ามโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ รวมทั้งการแสดง และการละเล่นอื่นๆ ตลอดจนการเลี้ยงหรือรับจัดเลี้ยงผู้ใด และการหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิด เช่น การปราศรัยด้วยข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง และที่สำคัญเพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นการป้องกันมิให้ข้าราชการและลูกจ้างของกทม.ถูกกล่าวหาว่าเสียความเป็นกลางทางการเมือง จึงขอให้หน่วยงานและส่วนราชากรของ กทม.ถือปฏิบัติดังนี้คือ ให้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ใช้ความระมัดระวังในการเข้าร่วมกิจกรรมมวลชน ตลอดจนระมัดระวังการใช้ตำแหน่งหน้าที่กระทำการใดๆ อันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นการกระทำตามหน้าที่ ส่วนการจัดโครงการเกี่ยวกับการประชุม อบรม สัมมนา ทัศนศึกษาดูงาน ตลอดจนจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับมวลชนซึ่งมีการกำหนดไว้ในแผนงานประจำปีจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 มิถุนายน หากไม่สามารถดำเนินการ หรือเป็นกรณีเร่งด่วนที่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการซึ่งถ้าไม่ดำเนินการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการให้พิจารณาได้ตามความเหมาะสมโดยให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงาน และให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานควบคุมดูแลระมัดระวังอย่าให้มีการหาเสียงทางการเมือง รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องวางตัวเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด และให้งดการประชุม อบรม สัมมนา ดูงาน ตลอดจนการจัดกิจกรรมมวลชนต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน เป็นต้นไปจนเสร็จสิ้นการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
ด้าน นายรัฐพล มีธนาถาวร รองปลัด กทม.กล่าวว่า ในวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม นี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.จะมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในข้อกฎหมาย ข้อควรปฏิบัติในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ให้กับผู้อำนวยการเขตทั้ง 50 เขตเพื่อให้เกิดความเข้าใจและไม่กระทำตนผิดกฎหมายเลือกตั้ง และวางตัวไม่เป็นกลางโดยจะมีทีมกฎหมายจากกกต.มาชี้แจงข้อกฎหมายโดยเฉพาะ รวมถึงการประเมินหน่วยเลือกตั้งในแต่ละพื้นที่เขต การจัดเตรียมอุปกรณ์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการตอบหนังสือจากกกต.ในประเด็นการปฏิบัติหน้าที่ บทบาทของผู้ว่าฯ กทม.ขณะนี้ทาง กกต.ยังไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด