กทม.ชวนผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารจากร้านที่ปรุงอย่างสะอาดถูกสุขลักษณะ เพื่อกระตุ้นร้านที่ละเลยความปลอดภัยของผู้บริโภคหันมาปรับปรุงคุณภาพ พร้อมเตรียมขยายพื้นที่ร่องบังคับใช้กฎหมายอาหารปลอดภัยไปอีก 12-15 เขตให้ได้ภายในพฤษภานี้ ด้านผู้บริโภคครวญเงินเดือนไม่ขึ้นแต่อาหารแพง แค่น้ำแข็ง เปล่ายังขึ้นราคา
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักษาการผู้ว่าฯ กทม.พร้อมคณะได้ลงพื้นที่บริเวณซอยอารีย์ เขตพญาไท เพื่อติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายด้านอาหารปลอดภัยโดยเขตพญาไทเป็น 1 ใน 5 เขตนำร่อง โดยนายวัลลภ กล่าวว่า การตรวจสอบในวันนี้เน้นที่ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารทั้งที่อยู่ริมฟุตปาท และร้านอาหาร ซึ่งเป็นบริเวณที่สำนักงานเขตพญาไทได้กำหนดให้มีการเตรียม ปรุง ประกอบ และจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัย โดย กทม.มีเป้าหมายดำเนินการใน 5 เขตนำร่องให้เห็นผลภายในปลายเดือน มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน จะได้ขยายเขตนำร่องเพิ่มออกไปอีก 12-15 เขต ในการนำกฎหมายด้านอาหารปลอดภัยมาบังคับใช้ เพื่อให้คน กทม.ทุกคนได้บริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะภายในเดือน พ.ค.2551 อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ผู้บริโภคทุกคนเลือกบริโภคเฉพาะร้านอาหารที่ปรุงอย่างถูกสุขลักษณะ ร้านค้าสะอาด ปลอดภัย เพราะจะทำให้ร้านอื่นที่ไม่สะอาดหันมาปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเตือนผู้ค้าได้เป็นอย่างดี ส่วนการรักษาความสะอาดโดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่บนฟุตปาทขอให้ทำความสะอาดทุกวันโดยไม่ต้องรอเฉพาะวันจันทร์
ทั้งนี้ กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กทม.จะดำเนินการตรวจประเมินคุณลักษณะและคุณภาพอาหาร พร้อมกับสำรวจความพึงพอใจและความต้องการของประชาชนที่ใช้บริการในพื้นที่ 5 เขตนำร่องทั้งพญาไท ดุสิต บางซื่อ ห้วยขวาง และเขตราษฎร์บูรณะ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-4 เม.ย.หลังจากที่ได้ดำเนินการสำรวจครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความปลอดภัยจารการบริโภคอาหารในพื้นที่ต่างๆ
เมื่อสอบถามผู้บริโภคซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเอกชนในย่านดังกล่าว กล่าวว่า ในการรับประทานอาหาร เช่น ซื้อก๋วยเตี๋ยวมารับประทาน แม้ทางร้านจะมีถั่วลิสงป่นเตรียมไว้สำหรับปรุงรสแต่ไม่รับประทาน เพราะทราบดีว่าในถั่วลิสงอาจจะมีสารอะฟราท็อกซินอยู่จึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้ปรุงรส ส่วนราคาร้านค้าส่วนใหญ่ย่านนี้จะขายที่ 30-35 บาท แต่ขณะที่ฝั่งตรงข้ามบางร้านขาย 90 บาท ก็จะไม่ไปซื้อเพราะแพงมาก ต้องดูกำลังในการซื้อ เนื่องจากเงินเดือนไม่ขึ้นแต่ราคาอาหาร สินค้าต่างๆ กลับขึ้น เพราะแม้แต่น้ำแข็งเปล่ายังขึ้นราคา
สำหรับกฎหมายที่นำมาบังคับใช้ด้านการจำหน่ายอาหารปลอดภัยนั้น ประกอบด้วย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการจำหน่ายในที่หรือทางสาธารณะ พ.ศ.2545 ระเบียบ กทม.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ พ.ศ.2546 กฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4 (2542) ว่าด้วยการตลาด ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการตลาด พ.ศ.2546 ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร คำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุขต่างๆ อาทิ ฉบับที่ 1/2546 เรื่องการใช้มาตรการทางกฎหมายสาธารณสุขเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวและความปลอดภัยของอาหาร พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) รักษาการผู้ว่าฯ กทม.พร้อมคณะได้ลงพื้นที่บริเวณซอยอารีย์ เขตพญาไท เพื่อติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายด้านอาหารปลอดภัยโดยเขตพญาไทเป็น 1 ใน 5 เขตนำร่อง โดยนายวัลลภ กล่าวว่า การตรวจสอบในวันนี้เน้นที่ผู้ประกอบการจำหน่ายอาหารทั้งที่อยู่ริมฟุตปาท และร้านอาหาร ซึ่งเป็นบริเวณที่สำนักงานเขตพญาไทได้กำหนดให้มีการเตรียม ปรุง ประกอบ และจำหน่ายอาหารที่สะอาด ปลอดภัย โดย กทม.มีเป้าหมายดำเนินการใน 5 เขตนำร่องให้เห็นผลภายในปลายเดือน มี.ค.นี้ ขณะเดียวกัน จะได้ขยายเขตนำร่องเพิ่มออกไปอีก 12-15 เขต ในการนำกฎหมายด้านอาหารปลอดภัยมาบังคับใช้ เพื่อให้คน กทม.ทุกคนได้บริโภคอาหารที่ถูกสุขลักษณะภายในเดือน พ.ค.2551 อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ผู้บริโภคทุกคนเลือกบริโภคเฉพาะร้านอาหารที่ปรุงอย่างถูกสุขลักษณะ ร้านค้าสะอาด ปลอดภัย เพราะจะทำให้ร้านอื่นที่ไม่สะอาดหันมาปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเตือนผู้ค้าได้เป็นอย่างดี ส่วนการรักษาความสะอาดโดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่บนฟุตปาทขอให้ทำความสะอาดทุกวันโดยไม่ต้องรอเฉพาะวันจันทร์
ทั้งนี้ กองสุขาภิบาลอาหาร สำนักอนามัย กทม.จะดำเนินการตรวจประเมินคุณลักษณะและคุณภาพอาหาร พร้อมกับสำรวจความพึงพอใจและความต้องการของประชาชนที่ใช้บริการในพื้นที่ 5 เขตนำร่องทั้งพญาไท ดุสิต บางซื่อ ห้วยขวาง และเขตราษฎร์บูรณะ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 1-4 เม.ย.หลังจากที่ได้ดำเนินการสำรวจครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนได้รับความปลอดภัยจารการบริโภคอาหารในพื้นที่ต่างๆ
เมื่อสอบถามผู้บริโภคซึ่งเป็นพนักงานบริษัทเอกชนในย่านดังกล่าว กล่าวว่า ในการรับประทานอาหาร เช่น ซื้อก๋วยเตี๋ยวมารับประทาน แม้ทางร้านจะมีถั่วลิสงป่นเตรียมไว้สำหรับปรุงรสแต่ไม่รับประทาน เพราะทราบดีว่าในถั่วลิสงอาจจะมีสารอะฟราท็อกซินอยู่จึงหลีกเลี่ยงที่จะใช้ปรุงรส ส่วนราคาร้านค้าส่วนใหญ่ย่านนี้จะขายที่ 30-35 บาท แต่ขณะที่ฝั่งตรงข้ามบางร้านขาย 90 บาท ก็จะไม่ไปซื้อเพราะแพงมาก ต้องดูกำลังในการซื้อ เนื่องจากเงินเดือนไม่ขึ้นแต่ราคาอาหาร สินค้าต่างๆ กลับขึ้น เพราะแม้แต่น้ำแข็งเปล่ายังขึ้นราคา
สำหรับกฎหมายที่นำมาบังคับใช้ด้านการจำหน่ายอาหารปลอดภัยนั้น ประกอบด้วย พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการจำหน่ายในที่หรือทางสาธารณะ พ.ศ.2545 ระเบียบ กทม.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการจำหน่ายสินค้าในที่หรือทางสาธารณะ พ.ศ.2546 กฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 4 (2542) ว่าด้วยการตลาด ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องการตลาด พ.ศ.2546 ข้อบัญญัติ กทม.เรื่องสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร คำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุขต่างๆ อาทิ ฉบับที่ 1/2546 เรื่องการใช้มาตรการทางกฎหมายสาธารณสุขเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีด้านการท่องเที่ยวและความปลอดภัยของอาหาร พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.พ.ศ.2528
