xs
xsm
sm
md
lg

“ไชยา” กัด สปสช.แก้ปัญหาป้องโรคไม่ตรงจุด พ้อให้ใจทำงานกลับโดนตั้งโต๊ะถอดถอน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไชยา สะสมทรัพย์
“ไชยา” เปิดใจกลางวงแพทย์ เหน็บ สปสช.เบี้ยประชุมเยอะ เงินเดือนผู้บริหารสูง แก้ไขปัญหาป้องกันควบคุมโรคไม่ตรงจุด แต่ทำอะไรไม่ได้ หาว่าไม่รู้เรื่อง อวดรวย เตรียมแก้ไขปรับปรุงการทำงานร่วมกันกับ สปสช.ใหม่ จวก อภ.ยับบังคับขายยากับภาครัฐ จบ ป.6 ก็ทำได้ ตัดพ้อให้ใจทำงาน แต่ลับหลังตั้งโต๊ะถอดถอน ประกาศไม่กลัว ตั้งใจทุ่มเททำงานต่อไป

วันนี้ (26 พ.ค.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในการตรวจเยี่ยมกรมการแพทย์ พร้อมมอบนโยบายว่า รู้สึกสบายใจที่วันนี้กรมการแพทย์ ซึ่งมีแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางด้านต่างๆ ได้รับการชมเชยว่าถึงแม้จะเป็นโรงพยาบาลในสังกัดภาครัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ถือเป็นการแพทย์เฉพาะทางที่ดีที่สุด แต่ทุกวันนี้เป็นอะไรที่น่าสงสาร เพราะกระทรวงสาธารณสุข เหลือเพียงรอยยิ้มกับความเหน็ดเหนื่อย เปรียบเหมือนขุนพล ที่กองทัพต้องเดินด้วยท้องแต่แทบจะไม่มีอะไรเลย ขณะที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เป็นผู้ซื้อบริการ แต่วันนี้ สปสช.ไม่ได้เป็นผู้ซื้อบริการอยู่หน้าเคานเตอร์อย่างเดียว แต่เข้าไปเปิดถึงลิ้นชัก ตั้งผู้ตรวจ สปสช.ตรวจสอบการทำงาน ทั้งๆ ที่ สธ.ก็มีผู้ตรวจอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ในระยะยาวคงจะต้องแก้ไขปรับปรุงการทำงานร่วมกันใหม่

“สิ่งที่ผมทำผมไม่กลัว เพราะถ้ากลัวคงไม่ทำ อย่างตอนที่ไป สปสช.ใหม่ๆ ผมก็เสนอให้มีการลดเบี้ยประชุม จาก15,000 บาทเหลือ 3,000 บาท เพราะคิดว่ามันเยอะไป แต่กลับมีแต่คนคัดค้าน บอร์ด สปสช.บอกลดไม่ได้ เพราะกฎหมายกำหนดไว้แล้ว และไม่มีประโยชน์ให้ทำอย่างอื่นดีกว่า แล้วก็ซุบซิบกันหาว่าผมอวดรวย แล้วบอกว่ารักชาติรักแผ่นดินทุกคน แต่รักชาติ รักแผ่นดินใครๆ ก็พูดได้ ขณะที่พอปี 2551 งบประมาณด้านการบริหารจาก 800 ล้านบาท ขยับไปเป็น 1,300 ล้านบาท มีแต่พูดถึงงบขาขึ้น แต่ไม่มีขาลง ปัญหาทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นการให้บริการไม่ดี รวมถึงเรื่องใน สปสช.ไม่พ้นรัฐมนตรีที่ต้องตอบกระทู้ในสภา” นายไชยา กล่าว

นายไชยา กล่าวต่อว่า ตนเคยให้นโยบายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาป้องกันและควบคุมรักษาโรคในแต่ละภาค เพราะแต่ละพื้นที่มีปัญหาไม่เหมือนกัน เช่น ภาคใต้ ก็มีโรคเท้าช้าง ที่ภาคอื่นอาจจะไม่มีโรคนี้แล้ว ดังนั้น ให้แต่ละพื้นที่ทำโครงการแล้วเสนอขึ้นมาของบประมาณสนับสนุน แต่ สปสช.กลับใช้วิธีการเหมือนกันทั่วประเทศ คือ อยากให้เตะบอลก็ให้เตะเหมือนกันมั่วประเทศ ทั้งๆ ที่บางพื้นที่อาจจะไม่มีสนามฟุตบอลแต่มีสนามบาสเกตบอล เสนอไปก็หาว่า ตนทำงานไม่รู้เรื่อง ยังมีอีกหลายเรื่อง อีกทั้งผู้ที่เป็นเลขาฯ สปสช.ก็มีเงินเดือนสูง เดือนละกว่า 2 แสนบาท ใหญ่ในกระทรวงไม่ได้ ก็ไปใหญ่นอกกระทรวง

“ส่วนเรื่องคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ที่มีกรรมการบางท่านลาออกไป ทั้งๆ ที่ผมลืมเรื่องการแต่งตั้งไปแล้ว แต่เพราะสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม ยกป้ายหาเรื่องผม มาเตือนผม หลังการประชุมที่ อภ.นักข่าวก็ถามถึงเรื่องบอร์ด อภ.ผมก็บอกว่าตั้งใหม่แน่ไม่ต้องเป็นห่วง ซึ่งผมตัดสินใจเปลี่ยนยกบอร์ดล้างบาง เสร็จแล้วก็มาตำหนิผมอีก ออกมาให้ข่าวสารพัด หาว่าพูดว่าบอร์ดทำงานดี แล้วมาปลดทำไม อภ.มีผลประกอบการขายกับภาคเอกชนน้อย มีแต่บังคับภาครัฐซื้ออย่างเดียว อย่างนี้ จบแค่ ป.6 ก็ทำได้” นายไชยากล่าว

นายไชยา กล่าวด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็น สปสช.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) หรือ อภ. ทุกที่ตั้งโต๊ะจะถอดถอนตนเองออกจากตำแหน่งทั้งนั้น นึกว่าไม่รู้หรืออย่างไร แต่ก็ไม่มีผล ตนไม่กลัว เพียงแต่รู้สึกเสียใจที่ตนให้ใจไป มีความรู้สึกนึกคิด มีจิตใจ เพราะถ้าเป็นความไม่ชอบธรรมก็พูดกันไป แต่ที่ผ่านมาทำอะไรน่าเกลียดกัน ตนไม่เคยพูด นักการเมืองพร้อมที่จะไป หรือจะอยู่ที่ใดก็ได้ ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีถามว่าจะเปลี่ยนไปอยู่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือไม่ ตนก็ไม่ไปเพราะเคยนั่งมาแล้ว ให้ท่านชวรัตน์ ชาญวีรกูล ไป พอนักข่าวมาถามว่ารู้สึกอย่างไร ตนในฐานะหัวหน้าชั้น ส่งรองหัวหน้าไปได้เลื่อนขั้น ก็ได้หน้า ถือว่าสำเร็จ และให้ทุกคนสบายใจได้ ว่าการทำงานจะให้อย่างทุ่มเท ส่วนเรื่องการดำเนินการก่อสร้างเพื่อขยับขยายโรงพยาบาลต่างๆ หากไม่พอเพียง หรือติดขัดก็ให้รายงานที่ปลัด สธ.หรืออธิบดีได้ โดยจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น