xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กแป๊ะ” คุยบริหารงาน อภ.ได้ แม้ไม่รู้เรื่องยา ย้ำ ปชช.ตรวจสอบ ทำงานไม่ได้พร้อมลาออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หมอประเวศ” เสียดาย “หมอวิชัย” ถูกปลดจากประธานบอร์ด อภ.ยกทั้งเก่งและดี หายาก ชี้ บอร์ดรัฐวิสาหกิจ ไม่ควรเปลี่ยนตามรัฐบาล เพราะทำงานไม่ต่อเนื่อง จวกคนมีอำนาจไม่ควรตั้งพวกพ้องตัวเองทำงาน ทำให้ประเทศชาติลำบาก ด้าน “ถิรชัย” ท้าให้สังคมจับตาประเมินผลงานของบอร์ด ลั่นบริหารไม่ดีก็ออก พร้อมยันปลอดบริษัทยา 100% แม้ไม่เชี่ยวชาญด้านยาแต่ก็บริหารงานได้ ไม่หวั่นเอ็นจีโอ ต่อต้าน ขณะที่สหภาพ อภ.ออกโรงพร้อมร่วมเคลื่อนไหวหากบอร์ดไร้สมรรถภาพ

นายถิรชัย วุฒิธรรม
วันนี้ (23 พ.ค.) นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวถึงกรณีมีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ใหม่ยกชุด ว่า การแต่งตั้งกรรมการบริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ จะต้องเลือกคนดี คนเก่ง มีความรู้ ความสามารถ มีความซื้อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ส่วนรวม จึงจะเหมาะสมและมีประโยชน์ต่อหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนั้นๆ แต่โดยมากผู้มีอำนาจมักจะแต่งตั้งเฉพาะคนของตนเอง หรือพวกพ้อง ให้เข้าไปเป็นบอร์ดต่างๆ ทำให้ประเทศลำบาก เพราะผู้มีอำนาจจะคิดว่ามีอำนาจแล้วจะเปลี่ยนบอร์ดได้ตามใจตนเอง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง

“อำนาจทางการเมืองมีแค่ระยะสั้น หากต้องเปลี่ยนบอร์ดใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาล จะทำให้บอร์ดทำงานได้น้อยซึ่งไม่ดี เพราะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต้องทำงานที่มีความต่อเนื่อง และงานบางอย่างก็ต้องใช้เวลานาน หากรัฐวิสาหกิจไหนเปลี่ยนบอร์ดบ่อยก็ทำงานลำบาก” นพ.ประเวศ กล่าว

นพ.ประเวศ กล่าวต่อว่า สำหรับ นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานบอร์ด อภ.เป็นคนเก่ง คนดี มีความรู้ ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่คดโกง ซึ่งได้พิสูจน์ตัวเองมานานหลาย 10 ปี คนแบบนี้หาได้ยาก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ถูกปลดออกจากบอร์ด อภ.ซึ่งทุกวันนี้ บางคนเป็นคนดีแต่ไม่เก่ง ส่วนคนเก่งก็ไม่ได้ และมีอีกมากที่ทั้งไม่เก่ง และไม่ดี

ด้าน นายถิรชัย วุฒิธรรม กล่าวว่า แม้ตนจะไม่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเรื่องยา แต่ในทางบริหารงานไม่น่ามีปัญหา เพราะการบริหารงานต้องเป็นไปตามกรอบที่วางไว้อยู่แล้ว รวมถึงในบอร์ดชุดใหม่ก็มีแพทย์อยู่ถึง 6 คน ที่สำคัญบอร์ดของรัฐวิสาหกิจ จะดูแลเฉพาะนโยบาย การทำงานภาพรวมขององค์กรเท่านั้น ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดหรือต้องเชี่ยวชาญด้านเทคนิค แค่กำกับดูแลให้องค์การดำเนินงานตามนโยบายหรือวิสัยทัศน์ของผู้อำนวยการองค์การเภสัชก็พอ

“การตั้งข้อสังเกตว่าบอร์ด อภ.ชุดใหม่ ไม่มีความรู้ เชี่ยวชาญเรื่องยา สามารถทำได้ แต่จากประสบการณ์การเป็นบอร์ดมาหลายหน่วยงานทำให้ทราบว่า บอร์ดแต่ละชุดต้องความหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องเป็นวิชาชีพนั้นๆ เท่านั้นถึงมากำกับดูแลได้ เช่น บอร์ด การบินไทย คนที่เป็นประธานบอร์ดไม่จำเป็นต้องเป็นกัปตันนักบิน แต่ให้มีความรู้เรื่องการตลาด การเงิน หรือเศรษฐกิจ ก็สามารถบริหารองค์กรได้” นายถิรชัย กล่าว

นายถิรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่เครือข่ายผู้ป่วยต่างๆ จะมีการเคลื่อนไหวต่อต้านนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง หากจะต่อต้านก็ต่อต้านรัฐบาล หรือ นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะผมได้รับแต่งตั้งตามอำนาจของรัฐบาล และตนไม่ได้เกี่ยวข้องทางการเมืองด้วย หากจะตรวจสอบก็ต้องดูที่การทำงานของตน

“ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงานใน อภ.และยังไม่ได้หารือร่วมกับกรรมการ อภ. คนอื่นๆ อย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นได้นัดกรรมการ อภ.เพื่อหารือนอกรอบก่อนเข้าทำงานภายในช่วงวันหยุดนี้ว่าแต่ละคนจะมีแนวทางหรือนโยบายการทำงานอย่างไร สำหรับแนวทางการทำงานของตน ตงจะต้องนำนโยบายของบอร์ด อภ.ชุดเก่ามาศึกษาว่าเป็นอย่างไร ส่วนความต่อเนื่องของงานคงต้องดูที่งบประมาณ และความต้องการของประชาชนเป็นหลัก” นายถิรชัย กล่าว

นายถิรชัย กล่าวด้วยว่า ขอให้ประชาชนจับตา ตรวจสอบ ประเมินผลการทำงานของตนได้ หากตนทำงานไม่ได้ก็ไม่อยู่ต่อในตำแหน่งนี้ ให้มองเป็นเรื่องมาง่าย ก็ไปง่ายไม่ควรยึดติด หากมีการเปลี่ยนรัฐบาล ตนก็ต้องลาออกอีก ซึ่งเป็นไปตามมารยาท แต่หากถูกแต่งตั้งเข้ามาอีกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง โอกาสควรมีสำหรับทุกคนไม่จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าบอร์ด อภ.ชุดใหม่ อาจมีคนที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทยาเอกชน นายถิรชัย กล่าวว่า ตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับแวดวงแพทย์ ถือว่าปลอดเรื่องนี้มากๆ ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัทยาใดๆทั้งสิ้น ส่วนกรรมการคนอื่น ตนไม่ทราบ แต่หากบอร์ดชุดนี้ทำให้ อภ.เสียหาย หรือทำให้ข้อมูลของ อภ.รั่วไหล ประชาชน สังคม จะเป็นผู้จับตามองความไม่ชอบมาพากลเอง ว่าบอร์ดชุดนี้มีวาระซ้อนเร้นอื่นหรือไม่

นายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การแต่งตั้งบอร์ด อภ.ชุดใหม่ครั้งนี้ ไม่เคยมีการเปิดเผยเลย รัฐมนตรีนำเข้า ครม.แล้วก็ประกาศทันที เป็นการเร่งรีบจนเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่พบลักษณะอย่างนี้มาก่อน และหลังจากได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของบอร์ดอภ.แต่ละคนแล้ว ดูแล้วไม่น่าจะเหมาะสม ทั้งความรู้ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาวิจัยตลาด หรือบางท่านเป็นตำรวจ จะเข้ามาบริหารพัฒนาอภ.ได้อย่างไร ยิ่งหากมีผู้ที่มีความใกล้ชิดกับบริษัทยาที่เป็นคู่แข่งของอภ.จริง คงรับไม่ได้ ไม่เห็นด้วย 100% แต่ขณะนี้ต้องตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดก่อนว่าจริงเท็จอย่างไร

“ในหลักการถ้าเข้ามาแล้วไม่ทำประโยชน์ หรือสิ่งดีๆ ให้กับองค์การทำให้องค์การไม่เข้มแข็ง เราเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ซึ่งเรามีการหารือกับเครือข่ายผู้ป่วยอยู่ตลอด และมีทิศทางไปในแนวเดียวกัน คือ ดูแลผลประโยชน์ประชาชนและประเทศชาติ ทั้งนี้เป็นที่น่าจับตาว่า คณะกรรมการบางคนเป็นวิศวะกร หรือผู้รับเหมา จะเข้ามาหาผลประโยชน์จากโรงงานยาต้านไวรัสเอดส์และโรคงานวัคซีนที่อภ.กำลังก่อสร้างอยู่หรือไม่ หรือเข้ามาเพื่ออะไร” นายระวัย กล่าว

นายระวัย กล่าวอีกว่า ไม่ทราบว่า รัฐมนตรี เอาเรื่องกำไรลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้นมาจากไหน เพราะเป็นเรื่องไม่จริงอย่างยิ่ง กำไรเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากพี่น้องชาวไทย การที่กำไรลดลงเป็นการลดยอดขายหรือไม่ เพราะยาที่มีการจ่ายสูงขึ้นนั้น เนื่องจากอภ.ลดราคายาบางตัวลงแต่กำไรจริงๆ ไม่ได้ลดลงเลย ส่วนค่าใช้จ่ายก็เป็นเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น 6% เหมือนกับที่ขึ้นให้กับข้าราชการไม่ได้นำไปใช้ในด้านที่ทำให้เสียหายเลย

นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมา นพ.วิชัย ไม่เคยมาปรึกษาหารือเรื่องใดๆ โดยเฉพาะเรื่องบอร์ด อภ.ที่ลาออกไป 6 คน แต่ถ้าจะมาบอกตนตอนนี้คงไม่ทันแล้ว เพราะรายชื่อบอร์ดชุดใหม่เข้า ครม.ไปแล้ว ซึ่งตนให้ปลัด สธ.อธิบดีกรมต่างๆ ที่ได้ลาออกจากบอร์ด อภ.นำกลับเข้ามาใหม่หมด แต่สำหรับ นพ.วิชัย ตนเห็นว่า การไม่อยากจะออก ไม่อยากจะเข้า แปลว่า อยากจะไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อหารือใดๆ กับนายถิรชัย รวมถึงยังไม่มีการเรียกประชุมเพื่อมอบหมายนโยบายกับบอร์ดชุดใหม่ เพราะต้องรอให้บอร์ดชุดใหม่มีความพร้อมก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น