สพฐ.หารือกฤษฎีกาตีความข้าราชการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร คาดได้ข้อสรุปสัปดาห์นี้ หากให้ข้าราชการเบิกได้ ต้องทำเรื่องกรณีพิเศษ “ขอเบิกย้อน” พร้อมเจรจากับกรมบัญชีกลางเบิกได้เท่าไหร่ ถ้าเบิกไม่ได้ คงต้องหาทางช่วยด้วยวิธีอื่น
นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2551 กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรงบอุดหนุนรายหัวนักเรียนขั้นพื้นฐาน หมายความว่า รัฐได้จัดการศึกษาฟรี 12 ปีโดยผู้ปกครองไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีโรงเรียนบางแห่งมีการจัดห้องเรียนพิเศษ โครงการ English program จ้างครูต่างชาติมาสอนภาษาต่างประเทศ จ้างครูพิเศษมาสอนเสริมหลังเลิกเรียน ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้สมัยก่อนข้าราชการสามารถเบิกจากต้นสังกัดได้จำนวนหนึ่ง พอมาปีนี้ได้มีการยกเลิกประกาศกระทรวง สมัย นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส่งผลให้ข้าราชการไม่สามารถเบิกค่าเล่าเรียนเหล่านี้ได้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ห่วงใยข้าราชการ จึงให้สำนักการคลังและสินทรัพย์ หารือกับกรมบัญชีกลาง
ด้าน นางผานิตย์ มีสุนทร ผู้อำนวยการสำนักการคลังและสินทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องนี้หารือกับกฤษฎีกา เพื่อตีความกรณีโรงเรียนเรียกเก็บเงินห้องเรียนพิเศษ โครงการ EP. จ้างครูต่างชาติมาสอนภาษา จ้างครูมาสอนพิเศษหลังเลิกเรียน ข้าราชการเบิกได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางกฤษฎีกา บอกว่า จะตีความให้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่ง สพฐ.ต้องลุ้นว่าการตีความของกฤษฎีกาจะออกมาเช่นไร
สมมติว่า กฤษฎีกาตีความให้เบิกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ก็ต้องมาเจรจากับกรมบัญชีกลางว่าจะเบิกได้จำนวนเท่าไหร่ อีกปัญหาหนึ่ง ข้าราชการสามารถเบิกย้อนหลังได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ข้าราชการส่วนใหญ่จ่ายให้กับทางโรงเรียนแล้ว ฉะนั้นคงต้องทำเงื่อนไขพิเศษ ให้เบิกย้อนหลังได้
“ท่านเลขา สพฐ.เป็นห่วงข้าราชการเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ซึ่งเคยเบิกได้แล้วมาเบิกไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้ข้าวของแพง หวั่นกระทบรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงเร่งหารือกฤษฎีกา ขอให้ตีความเรื่องนี้ หากให้เบิกได้ก็ต้องให้ทำเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ข้าราชการเบิกย้อนหลัง ถ้าบอกว่าขัดรัฐธรรมนูญ เบิกไม่ได้ อาจต้องหาทางอื่นเพื่อช่วยข้าราชการ”
นายรังสรรค์ มณีเล็ก ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2551 กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรงบอุดหนุนรายหัวนักเรียนขั้นพื้นฐาน หมายความว่า รัฐได้จัดการศึกษาฟรี 12 ปีโดยผู้ปกครองไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่มีโรงเรียนบางแห่งมีการจัดห้องเรียนพิเศษ โครงการ English program จ้างครูต่างชาติมาสอนภาษาต่างประเทศ จ้างครูพิเศษมาสอนเสริมหลังเลิกเรียน ฯลฯ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้สมัยก่อนข้าราชการสามารถเบิกจากต้นสังกัดได้จำนวนหนึ่ง พอมาปีนี้ได้มีการยกเลิกประกาศกระทรวง สมัย นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส่งผลให้ข้าราชการไม่สามารถเบิกค่าเล่าเรียนเหล่านี้ได้ คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ห่วงใยข้าราชการ จึงให้สำนักการคลังและสินทรัพย์ หารือกับกรมบัญชีกลาง
ด้าน นางผานิตย์ มีสุนทร ผู้อำนวยการสำนักการคลังและสินทรัพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องนี้หารือกับกฤษฎีกา เพื่อตีความกรณีโรงเรียนเรียกเก็บเงินห้องเรียนพิเศษ โครงการ EP. จ้างครูต่างชาติมาสอนภาษา จ้างครูมาสอนพิเศษหลังเลิกเรียน ข้าราชการเบิกได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางกฤษฎีกา บอกว่า จะตีความให้ภายในสัปดาห์นี้ ซึ่ง สพฐ.ต้องลุ้นว่าการตีความของกฤษฎีกาจะออกมาเช่นไร
สมมติว่า กฤษฎีกาตีความให้เบิกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ก็ต้องมาเจรจากับกรมบัญชีกลางว่าจะเบิกได้จำนวนเท่าไหร่ อีกปัญหาหนึ่ง ข้าราชการสามารถเบิกย้อนหลังได้หรือไม่ เพราะขณะนี้ข้าราชการส่วนใหญ่จ่ายให้กับทางโรงเรียนแล้ว ฉะนั้นคงต้องทำเงื่อนไขพิเศษ ให้เบิกย้อนหลังได้
“ท่านเลขา สพฐ.เป็นห่วงข้าราชการเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ซึ่งเคยเบิกได้แล้วมาเบิกไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้ข้าวของแพง หวั่นกระทบรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย จึงเร่งหารือกฤษฎีกา ขอให้ตีความเรื่องนี้ หากให้เบิกได้ก็ต้องให้ทำเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้ข้าราชการเบิกย้อนหลัง ถ้าบอกว่าขัดรัฐธรรมนูญ เบิกไม่ได้ อาจต้องหาทางอื่นเพื่อช่วยข้าราชการ”
