xs
xsm
sm
md
lg

สร้างนักคิด ที่ “ดิ อเมริกัน สกูล”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.ศ.2526 โรงเรียนนานาชาติดิษยะศริน เปิดหลักสูตรนานาชาติในระดับอนุบาล จนกระทั่งปี 2536 รัฐบาลไทยอนุญาตให้เอกชนเปิดโรงเรียนนานาชาติได้ โรงเรียนนานาชาติดิษยะศรินจึงเปิดสอนระดับประถมศึกษาด้วยหลักสูตรอเมริกัน พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “ดิ อเมริกัน สกูล ออฟ แบงค็อก” เพื่อความเป็นสากล จากแห่งแรกที่ตั้งในสุขุมวิท 49 ก็ได้ขยายไปสู่บางนาในพื้นที่ที่กว้างขวางกว่า และขยายฐานนักเรียนให้มากขึ้น ทำให้วันนี้มีนักเรียนทั้งสองแห่งรวมกันกว่า 700 คน จาก 30 ชาติ 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นเด็กต่างชาติโซนยุโรป อเมริกา และ เอเชีย อีก 30 เปอร์เซ็นต์เป็นเด็กไทย

ดร.ลักขณา ดิษยะศริน(ตะเวทิกุล)
** สร้างนักภาษาศาสตร์
ดร.ลักขณา ดิษยะศริน (ตะเวทิกุล) ผู้จัดการโรงเรียนนานาชาติ ดิ อเมริกัน สกูล ออฟ แบงค็อก ให้ข้อมูลว่า หลักสูตรการเรียนการสอนจากสหรัฐอเมริกา ตำรา เครื่องมือ เทคนิคการสอน วิธีการสอน กระทั่งข้อสอบก็เมดอินยูเอสเอทั้งหมด แต่ก็เอามาปรับปรุงให้เข้ากับนักเรียนที่มีความหลากหลายเพื่อต่อยอดความรู้ให้ครอบคลุมสำหรับการทำงานหรือเรียนต่อระดับสูง

“เราทำการศึกษาวิจัยก่อนที่จะนำหลักสูตรนี้มาใช้ เพราะถอดแบบมาจากอเมริกาทั้งหมดก็เกรงว่าจะเข้ากับนักเรียนไม่ได้ แต่ที่เน้นมากคือภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ เรายังเป็นโรงเรียนแรกที่สอนภาษาไทย และขนบธรรมเนียมประเพณีไทยให้นักเรียน เป็นจุดขายที่ตอนหลังกลายเป็นกฎข้อบังคับของกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ ก็ยังมีภาษาอื่นๆ ให้เขาเลือก เช่น เกาหลี จีน ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ถ้านักเรียนสนใจด้านภาษาศาสตร์ก็จะให้เขาเลือกเรียนได้มากกว่า 1 ภาษาโดยมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษาคอยดูแลว่าเด็กแต่ละคนมีความชอบหรือถนัดอะไร”

ใน ดิ อเมริกัน สกูล แห่งสยามนี้ ไม่ว่าเด็กชาติใดจะมาเรียน นอกจากภาษาอังกฤษที่เขาจะได้รับความรู้อย่างดีแล้ว ภาษาแม่ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน ดังนั้น โรงเรียนจะมีครูสอนภาษาในแต่ละประเทศให้อีกด้วย เช่น เด็กเกาหลี เนื่องจากเขามาเรียนโรงเรียนอเมริกัน เขาก็ต้องเรียนภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกันเขาก็จะได้เรียนภาษาเกาหลีในระดับประถม

** 4 โมเดลสร้างผู้นำเต็มรูปแบบ
“จุดเด่นของเรา คือ เด็กมีความมั่นใจมาก มีความเป็นผู้นำ และคิดสร้างสรรค์ได้อย่างอิสระ” ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติดิษยะศริน กล่าวต่ออีกว่า หลัก 4 ประการให้เขาเป็นผู้นำ เป็น Independent Learner คือ เด็กทุกคนต้องมีความคิดที่อิสระ ครูเปรียบเสมือนเพื่อน ฉะนั้น เด็กก็จะมีความกล้า พร้อมที่จะเข้าหาครูได้ทุกเมื่อ และไม่มีเส้นขีดในการตั้งคำถาม Critical Thinker สามารถวิเคราะห์ วิจัยได้ ในสิ่งที่เขาสนใจหรือสิ่งที่ครูมอบหมายให้ทำ Effective Communicator คนเราจะสำเร็จในสังคมได้ต้องเป็นคนเข้าใจคนอื่น สามารถสื่อสารได้รู้เรื่อง การสอนต้องผ่านภาษาศาสตร์ นำความรู้ในวิชาต่างๆ มาพูดสื่อสารได้ในชั้นเรียน นักเรียนสามารถเป็นครูได้ และ World Class Citizen สอนให้เด็กมีจิตใจที่อ่อนโยน มีจริยธรรมคุณธรรม เป็นคนดีมีวิสัยทัศน์ทางบวก เพื่อที่จะให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
เพราะการเรียนการสอนส่งเสริมให้เด็กคิดได้อย่างอิสระ ในการเรียนภาษานั้น นอกจากแกรมมาที่น่าเบื่อแล้ว กลวิธีการสร้างอิสระในการเขียนที่เรียกว่า Creative writing กล่าวคือ นักเรียนอยากเขียนอะไรก็เขียน เด็กก็จะสามารถสร้างจินตนาการโดยใช้ภาษานี้ได้ โดยมีอาจารย์ขัดเกลาแกรมมาให้ จินตนาการก็ไม่ถูกจำกัดและควบคุม

“แต่เราก็มีความเชื่อที่ว่าการเรียนสมัยใหม่และหลุดโลกไปเลยก็ไม่ได้เช่นกัน เราก็ต้องกลับไปสู่การเรียนแบบเดิม เช่น การคัดลายมือ หรือแกรมมาก็ต้องเข้มโดยมีตำราเป็นตัวควบคุม การสอนภาษาไทยก็มีวิธีการสอนเหมือนกัน ให้เขาคิด จินตนาการและสร้างสรรค์อย่างเต็มรูปแบบ”
ในห้องทดลองของ “ดิ อเมริกัน สกูล ออฟ แบงค็อก”
** ชดช้อยอย่างไทยในนานาชาติ
การสอนภาษาไทย และขนบธรรมเนียมไทยให้นักเรียนและครูใน ดิ อเมริกัน สกูล ออฟ แบงค็อก ก็เพื่อให้เข้าใจประเทศไทยและเจ้าของประเทศ ทั้งนี้ เพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยความเคารพในความแตกต่าง

“วัฒนธรรมไทยเอาไปสอดแทรกในสัปดาห์ละ 3 คาบ ไปเรียนในวิชาภาษาไทยแล้วเมื่อถึงวันสำคัญของไทยก็จะมีกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน การสอนวัฒนธรรมร่วมแบบนี้แม้เด็กจะมีความมั่นใจมาก แต่วิชานี้ทำให้เด็กมีความเข้าใจในการใช้ชีวิตในประเทศไทยอย่างมาก เวลาเจอคนไทยเขาก็จะไหว้และยิ้ม นิ่มนวลและน่ารัก ในความมั่นใจมีความอ่อนน้อมด้วย”

โดยวิธีการสอบคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียน ดิ อเมริกัน สกูล ออฟ แบงค็อก จะไม่เน้นเชื้อชาติ แต่ประวัติการเรียนจะต้องไม่ต่ำกว่า 2.00 นอกจากนี้ ก็จะมีสอบวัดภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐานในนานาชาติ เพื่อให้รู้ว่าเด็กแต่ละคนควรจะเรียนภาษาในระดับใด โดยค่าเล่าเรียนเมื่อถูกบวกลบจากต้นทุนของโรงเรียนสำหรับค่าครูพิเศษ อุปกรณ์ที่ต้องเปลี่ยนทุกๆ ปีแล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 350,000-400,000 บาทต่อปี สำหรับประถมและมัธยม อนุบาลปีละ 180,000 บาท

ในฐานะผู้ก่อตั้งโรงเรียนนานาชาติ อาจารย์ลักขณา มีคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองที่อยากส่งลูกหลานเข้าเรียนนานาชาติ 4 ข้อ คือ เลือกโรงเรียนที่คิดค่าเล่าเรียนได้ตามกำลัง ตรวจสอบคุณภาพโรงเรียนว่าได้รับการรับรองจากต่างประเทศหรือไม่ สภาพแวดล้อมที่ร่มรื่นและปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็ก และสุดท้ายการยินยอมพร้อมใจของลูก

“เป้าหมายต่อไปที่จะสนับสนุนให้นักเรียนที่มีคุณภาพได้รับทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยระดับโลกของต่างประเทศ ซึ่งก็ได้มากขึ้นทุกปีโดยส่วนใหญ่ไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา” อาจารย์ลักขณา ตอกย้ำมาตรฐานของ ดิ อเมริกัน สกูล ตลอด 25 ปี ส่งท้ายบทสนทนา
กำลังโหลดความคิดเห็น