xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ติวเข้มหนีบัญชีเป็นประเทศมีปัญหา วัณโรคสูงติดอันดับโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปลัด สธ.ติวเข้ม สสจ.ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ตำหนิให้บริการดูแลรักษาวัณโรคไม่ดีพอแนวโน้มป่วยมากขึ้น จี้เร่งปราบวัณโรค หนีการขึ้นบัญชีเป็นประเทศมีปัญหาวัณโรคสูงติดระดับโลก เพิ่มมิสเตอร์ทีบีต้องมีมากกว่า 1 คน ติดตามผลคนไข้ใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวัง 32 จังหวัด ติดชายแดน ค้นหาป้องกันแรงงานเสี่ยงเป็นวัณโรคแพร่เชื้อ

วันนี้ (1 พ.ค.) นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานสัมมนาผู้บริหารเพื่อพัฒนางานควบคุมโรค โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วไป และผู้เกี่ยวข้อง ประมาณ 250 คน มารับฟังแนวทางเร่งรัดงานวัณโรคเพื่อลดการระบาดของโรควัณโรคในประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ประเทศพ้นจากการขึ้นบัญชีเป็นประเทศที่มีปัญหาวัณโรคสูงติดระดับโลกขององค์การอนามัยโลกว่า เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในลำดับที่ 18 จาก 22 ประเทศ ที่มีปัญหาวัณโรค ซึ่งคาดการณ์ว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ ปีละ 90,000 ราย ประมาณ 40,000 ราย เป็นผู้ป่วยในระยะแพร่เชื้อ ซึ่งวิธีป้องกันวัณโรคที่ดีที่สุดคือการรักษาผู้ป่วยวัณโรคให้หาย ซึ่งผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาต่อเนื่องสม่ำเสมอเป็นเวลา 6 เดือน แต่จากการประเมินแผนงานวัณโรคของประเทศไทยของคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัณโรคระดับโลกขององค์การอนามัยโลกและของประเทศไทยกลับพบว่าผลสำเร็จการรักษายังต่ำกว่ามาตรฐานสากล ไม่สามารถลดโรควัณโรคได้ อีกทั้งยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อวัณโรคดื้อยาสูงขึ้น โดยมีอัตราความสำเร็จของการรักษาวัณโรคเพียงร้อยละ 72 ซึ่งมาตรฐานอัตราความสำเร็จของการรักษาต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 จึงมีแผนเร่งรัดการดำเนินงานป้องกันและควบคุมวัณโรคในทุกระดับ

“ขณะนี้การให้บริการดูแลรักษาโรควัณโรคยังไม่ดีพอ โดยมีโรงพยาบาลเพียงร้อยละ 60 เท่านั้นที่ถือว่าใช้ได้ อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ แต่ที่เหลือกว่าร้อยละ 30 ยังไม่ดีพอ ซึ่งผลการประเมินโรงพยาบาลแต่ละแห่งนี้ เป็นตัววัดผลหน่วยงานว่าทำงานมีประสิทธิภาพมีคุณภาพหรือไม่ ไม่อยากบอกว่าเป็นจังหวัดไหน โรงพยาบาลอะไร แต่ขอให้ไปดูตัวเลขกันเอง” นพ.ปราชญ์ กล่าว

นพ.ปราชญ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ขอให้ สสจ. ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ รพ.ทั่วไป รวมถึงอนามัย ให้ความสำคัญกับคุณภาพการรักษาอย่างดีที่สุด โดยต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ป่วยด้วย เนื่องจากปัญหาที่ผ่านมาเพราะขาดการติดต่อกับผู้ป่วยหรือญาติ ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ขาดการรับประทานยาต่อเนื่อง โดยให้เพิ่มผู้ประสานงานหรือที่เรียกว่ามิสเตอร์ทีบีเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1 คนต่อพื้นที่ เพื่อติดตามดูแลผู้ป่วยให้รับประทานยาต่อเนื่อง พร้อมสร้างแรงจูงใจโดยอาจให้รางวัลกับผู้ที่ค้นหาผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ รวมถึงอาจให้รางวัลจังหวัดละ 10,000 บาท หากสามารถลดจำนวนผู้ป่วยในพื้นที่ที่รับผิดชอบภายใน 1 ปี

นพ.ปราชญ์ กล่าวต่อว่า ส่วนวัยแรงงานโดยเฉพาะแรงงานที่ผิดกฎหมายไม่เลขทะเบียน 13 หลักถูกต้อง ซึ่งบริเวณ 32 จังหวัดที่ติดชายแดนประเทศไทย เป็นวัยแรงงานที่มีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บมาก ไม่เฉพาะวัณโรคเท่านั้น สำหรับการดูแลรักษาขณะนี้ยังไม่มีงบประมาณชัดเจนในการควบคุมวัณโรคกลุ่มนี้ เป็นการรักษาไปตามหลักมนุษยธรรม แต่การรักษาควบคุมเป็นไปอย่างอยากลำบากเนื่องจากแรงงานต่างชาติกลุ่มนี้ไม่กล้าที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และมักเป็นผู้แพร่เชื้อต่อ นอกจากนี้ ปัจจัยอื่นที่ทำให้มีการระบาดของวัณโรคเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ความยากจน การอพยพย้ายถิ่น แรงงานเคลื่อนย้าย การระบาดของเอดส์ ทำให้มีผู้ป่วยวัณโรคในประเทศไทยเพิ่มขึ้น

“ส่วนผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ ซึ่งเป็นปัญหาอยู่มาก เนื่องจากอากาศ และความแอดอัด ซึ่งตนไม่อยากให้ประเมินแค่ว่ามีปัญหาเท่านั้นเพราะไม่ได้ประโยชน์ แต่ให้ผู้เชี่ยวชาญกรมควบคุมโรคหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยว่าควรทำอย่างไร มีเรือนจำใดบ้างที่เป็นจุดเสี่ยง” นพ.ปราชญ์ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น