มะเร็งถุงน้ำดีคร่าชีวิต “พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ” ผู้บุกเบิกให้แพทย์แผนไทยกลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ด้วยวัย 56 ปีหลังเข้ารับการรักษาที่รพ.ศิริราชเป็นเวลากว่า 3 เดือน รดน้ำศพวันนี้ที่วัดชลประทานฯ
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 2 เมษายน ที่ห้อง 920 ชั้น 9 ตึก 84 ปี โรงพยาบาลศิริราช พ.ญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ สาธารณสุขนิเทศก์ เขต 8,9 กระทรวงสาธารณสุข ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งถุงน้ำดี ด้วยวัย 56 ปี หลังจากมีอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งถุงน้ำดี นานกว่า 1 ปี และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2550 รวมนานกว่า 3 เดือน
สำหรับพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ณ ศาลา 9 วัดชลประทานรังสฤษฎิ์ วันนี้เวลา 16.00 น. สวดพระอภิธรรมศพตั้งแต่วันที่ 2-4 เมษายน และพระราชทานเพลิงศพ 5 เมษายน 2551
ทั้งนี้ พญ.เพ็ญนภาถือเป็นผู้บุกเบิกริเริ่มงานด้านแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุข มานานกว่า 20 ปี เป็นแพทย์แผนปัจจุบันคนแรกที่บุกเบิกนำสมุนไพรมามาใช้ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบันในโรงพยาบาลวังน้ำเย็น จนเป็นที่ศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของงานแพทย์แผนไทย จนได้รับการบรรจุเป็นนโยบายระดับชาติ ศึกษาภาษาท้องถิ่น ภาษาพื้นเมือง ภาษาโบราณ จนรอบรู้แปลตำราแผนโบราณ พัฒนาเป็นตำราที่ทันสมัยอยู่เสมอ จัดทำเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์และซีดีรอมเกี่ยวกับแพทย์แผนไทย เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทย เป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้านดนตรี สามารถแต่งและร้องเพลงเพื่อชีวิตเกี่ยวกับการให้ความรู้ทางสุขศึกษาแก่ประชาชน
นอกจากนี้ พญ.เพ็ญนภา เคยได้รับเลือกเป็นแพทย์ดีเด่นชนบท ประจำปี 2529 จากคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราช พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แพทย์ดีเด่นในโรงพยาลประจำอำเภอ ประจำปี 2527 จากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูถัมภ์ แพทย์สตรีที่มีผลงานดีเด่นทางด้านสังคมชนบทประจำปี 2529 จากสมาคมแพทย์สตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นศิษย์เก่าดีเด่นและได้รับคัดเลือกเป็นศิษย์เก่าคณะแพทย์ดีเด่น ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปี 2530 , 2540 ของ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และเป็นศิษย์เก่าดีเด่น ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประจำปี 2541
ประวัติส่วนตัว พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ เกิดเมื่อวันที่ 27 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2495 จบการศึกษาปริญญาตรีแพทย์ศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปริญญาโทบริหารสาธารณสุขมูลฐาน(MPHM) สถาบันพัฒนาสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มรับราชการครั้งแรกที่โรงพยาบาลกบินทร์บุรี เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการรพ.วังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว อดีตนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ช่วยอธิบดีกรมการแพทย์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย รองอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และตำแหน่งสุดท้ายดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์เขต 8,9 กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งยังคงดำรงตำแหน่งเลขาธิการมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา และมีผลงานจากการค้นคว้า วิจัย เรียบเรียงเป็นเอกสารและตำราที่ทันสมัยเกี่ยวกับแพทย์แผนไทยกว่า 20 เล่ม
อนึ่ง โรคมะเร็งของถุงน้ำดี พบได้น้อยกว่ามะเร็งท่อน้ำดี และมักพบ ในผู้มีอายุ 40 ปี ขึ้นไปและพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ส่วนมะเร็งท่อน้ำดีพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ทั้งนี้ สาเหตุ พบว่า มีความสัมพันธ์กับนิ่วในถุงน้ำดี ส่วนสาเหตุ ของมะเร็งท่อน้ำดี มักเกิดจาก พยาธิใบไม้ในตับ และสารก่อมะเร็งพวก ไนโตรซามีนส์ ซึ่งอยู่ในสารถนอมอาหาร พวกดินประสิว นิ่วในตับก็มีความสัมพันธ์ ์กับมะเร็งท่อน้ำดีในตับ
นพ.ลือชา วนรัตน์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สธ. กล่าวว่า การเสียชีวิตของพญ.เพ็ญนภา ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่สำคัญของไทย เพราะพญ.เพ็ญนภา เป็นผู้บุกเบิกฟื้นฟูการแพทย์แผนไทยคนแรกๆ ของประเทศไทยก็ว่าได้ และยังเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ทั้งนี้ ในอนาคตทางกรมการแพทย์แผนไทยฯ อาจจะมีการร่วมมือกับมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา ในการพัฒนาและผลิตแพทย์แผนไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย
ด้าน นพ.วุฒิกิจ ธนะภูมิ ประธานมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา และอดีตอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า พญ.เพ็ญนภา ถือเป็นผู้บุกเบิกทำให้การแพทย์แผนไทยได้รับการยกย่อง จากแพทย์แผนไทยที่เป็นเพียงกองสังกัดกรมการแพทย์เลื่อนเป็นกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ทำให้คนไทยและทั่วโลกรู้จักการนวดแผนไทยและการแพทย์แผนไทย จึงเสียดายที่พญ.เพ็ญนภายังไม่ได้เป็นอธิบดี ไม่เช่นนั้นหากมีชีวิตอยู่คงทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกมาก
นพ.วุฒิกิจ กล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานในส่วนของมูลนิธิฯจะเดินหน้าต่อไป ซึ่งที่ผ่านมามีการให้ทุนในการวิจัยด้านการแพทย์แผนไทย มีการฝึกอบรมแพทย์แผนไทยระดับต่างๆ โดยเฉพาะการอบรมการนวดระยะเวลา 10 ปี มีหมอนวดแผนไทยผ่านการอบรมทั้งสิ้นกว่า 2 หมื่นคน จากนี้ไปเชื่อว่าดวงวิญญาณของพญ.เพ็ญนภาจะช่วยให้งานด้านการแพทย์แผนไทยเจริญก้าวหน้า ขณะเดียวกันก็ควรได้รับการช่วยเหลือส่งเสริมพัฒนาจากหน่วยงานราชการเพิ่มขึ้นเช่นกัน
“ผมได้ไปเยี่ยมหมอเพ็ญที่โรงพยาบาลหลายครั้ง ท่านมีกำลังใจดีมาก เท่าที่ผู้ป่วยจะมีได้ ท่านมีธรรมในใจ ฝึกสมาธิบ่อย เพราะแม้แต่ในงานการแพทย์แผนไทยก็เป็นผู้นำในการฝึกสมาธิทุกวัน”นพ.วุฒิกิจกล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถร่วมทำบุญโดยการบริจาคเข้ากองทุนพญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ เพื่อซื้อเครื่องช่วยหายใจให้กับรพ.กบินทร์บุรี ที่งานสวดอภิธรรมที่วัดชลประทานรังสฤษฎิ์
