ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านบางคล้า ผวาภัยมืดโร่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังมีมือดีบุกคุกคามแอบทำลายล้มแผ่นป้ายคัตเอาต์ ข้อความต่อต้านโรงไฟฟ้าเสม็ดเหนือกลางดึก หวั่นลุกลามถึงคนแกนนำตกเป็นเป้า เชื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง จากกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ขณะตำรวจยังมืด ในที่เกิดเหตุไม่พบพยานหลักฐานของคนร้าย
วันนี้ (2 เม.ย.) เวลา 14.30 น.นายไพเราะ เลิศศิริ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71/1 ม.5 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อดีตนายก อบต.เสม็ดใต้ พร้อมแกนนำชาวบ้านกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าบางคล้า จำนวน 6 คน ได้เข้าพบ พ.ต.ท.นพดล นาคจู พนักงานสอบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ หลังจากแผ่นป้าย คัตเอาต์ขนาดใหญ่ข้อความ “เราไม่โรงไฟฟ้า” จำนวน 2 แผ่นป้าย ถูกมือมืดแอบตัดทำลายเลื่อยโครงสร้างล้มแผ่นป้าย ก่อนใช้มีดกรีดทำลายซ้ำจนเสียหายย่อยยับตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา
นายไพร วงศ์ภักดี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/5 ม.5 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในแกนนำ กล่าวเปิดเผยว่า แผ่นป้ายดังกล่าวเป็นแผ่นป้ายผ้ายางอิงค์เจ็ต ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร สูง 8 เมตร ที่ชาวบ้านร่วมกันบริจาคทำขึ้นมา รวมมูลค่าพร้อมโครงสร้างกว่า 1 หมื่นบาท ในการเขียนข้อความ “ชาวบางคล้าไม่เอาโรงไฟฟ้า” ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี ฝั่งขาเข้าบริเวณหลัก กม.ที่ 11-12 ใกล้ปากทางเข้าวัดสนามช้าง พื้นที่ ม.4 ต.เสม็ดใต้ สถานที่ ที่จะมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ของบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชน (บ.สยามเอ็นเนอร์ยี่ ร่วมทุนกับบริษัทเจพาวเวอร์) ถูกทำลายไปจำนวน 2 แผ่นป้าย
แผ่นป้ายลักษณะเดียวกัน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้าวัดสาวชะโงก ฝั่งตรงข้ามได้ถูกกรีดทำลายจนได้รับความเสียหายอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งเชื่อว่า แผ่นป้ายที่เสียหายทั้งหมด ถูกมือมืดเข้ามาลงมือในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันนี้ ชาวบ้านที่สัญจรผ่านยังบริเวณดังกล่าว ยังพบว่าแผ่นป้ายยังคงอยู่ในสภาพดี แต่พอรุ่งเช้ากลับพบว่าแผ่นป้ายกลับถูกทำลายจนได้รับความเสียหายอย่างย่อยยับ
นอกจากนี้ ในช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.00 น.ยังมีผู้พบเห็นรถยนต์กระบะไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียนขับมาจอดยังบริเวณดังกล่าวนี้ด้วย นายไพร กล่าว
นายไพร กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือว่าเป็นภัยคลุกคามต่อกลุ่มชาวบ้านที่รักบ้านรักแผ่นดินเกิด และพยายามที่จะออกมารักษาสิทธิ รวมทั้งผลประโยชน์ของชุมชนตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ จึงหวั่นเกรงว่าชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ ในการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของนายทุน จะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการสืบสวนหาตัว หรือจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ก่อนที่จะมีเหตุร้ายที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับชาวบ้านต่อไป
หลังรับแจ้งความ พ.ต.ท.นพดล พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้เดินทางไปตรวจสอบหาหลักฐานยังที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่าเสาโครงสร้างของแผ่นป้ายที่ทำจากไม้สน และยูคาฯ ถูกมือดีใช้เลื่อยตัดที่โคนเสาทุกต้นจนล้มลง ก่อนที่จะใช้มีดคัตเตอร์กีดแผ่นป้ายซึ่งเป็นแผ่นผ้ายางอิงค์เจ็ทจนขาดเสียหายทั้งแผ่น ก่อนที่จะขโมยนำแผ่นผ้ายางไปด้วย ส่วนอีกแผ่นป้ายฝั่งตรงข้ามเป็นเสาคอนกรีต ก็ได้ถูกมือดีใช้มีดคัตเตอร์กรีดจนเสียหายทั้งแผ่นเช่นเดียวกัน โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆ ของคนร้ายตกหล่นอยู่
