ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ “พ.ต.สมศักดิ์ เขียนวงศ์” ที่พลีชีพในเหตุการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผู้ว่าฯ นำครอบครัวญาติพี่น้องและประชาชนชาวศรีสะเกษร่วมพิธีด้วยความโศกเศร้า ขณะที่พ่อทหารกล้า เผย ภูมิใจที่ลูกชายคนเดียวได้พลีชีพเพื่อชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษ ว่า ที่วัดบ้านหอย ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พล.ต.เชาวฤทธิ์ ศิริกิจ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ส.อ.สมศักดิ์ เขียนวงศ์ ได้รับพระราชทานเลื่อนยศเป็น พ.ต.สมศักดิ์ เขียนวงศ์ ทหารสังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล กองพลทหารม้าที่ 1 จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นทหารประจำหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 39 กองพันทหารม้าที่ 138
บรรยากาศในการประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเป็นไปด้วยความเศร้าสลด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของพ่อแม่ ครอบครัว ญาติพี่น้อง เหล่าทหาร และประชาชนชาวศรีสะเกษที่พากันมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ พ.ต.สมศักดิ์ เขียนวงศ์ ได้พลีชีพ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2550 เวลาประมาณ 10.00 น.ขณะที่ พ.ต.สมศักดิ์ ได้เข้าทำการลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ บริเวณบ้านปูโงปาโล๊ะ ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งหลบอยู่ในร่องน้ำสวนยางพารา หลังหมู่บ้านปูโงปาโล๊ะ ยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งที่โรงพยาบาลนราธิวาสทนพิษบาดแผลไม่ไหว และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบถูกทหารยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย
พล.ต.เชาวฤทธิ์ ศิริกิจ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า พ.ต.สมศักดิ์ เขียนวงค์ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ด้วยอายุเพียงแค่ 28 ปี ได้ประกอบคุณงามความดีแก่ทางราชการ แก่ส่วนรวม และประเทศชาติไว้เป็นอย่างมาก ซึ่งการถึงแก่กรรมในครั้งนี้เป็นการสละชีพเพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของประเทศชาติ ถือว่าได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน และทำหน้าที่ของชายชาติทหารอย่างสมเกียรติแล้ว จึงเชื่อว่า ย่อมได้รับความดีนั้นไปด้วย และเป็นที่น่าปลื้มใจที่ได้ทำชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างเต็มที่
ทางด้าน นายสามารถ เขียนวงค์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 บ้านหอยพัฒนา ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพ่อของ พ.ต.สมศักดิ์ กล่าวว่า การที่ลูกชายเพียงคนเดียวได้พลีชีพเพื่อชาติ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประเทศชาติบ้านเมืองในครั้งนี้ ตนมีความภาคภูมิใจในตัวของลูกชายคนนี้มาก ซึ่งจะเก็บธงชาติที่คลุมร่างศพลูกชายเอาไว้เพื่อจะได้เป็นความภาคภูมิใจแก่วงศ์ตระกูลสืบต่อไป สำหรับในขณะนี้ได้รับความช่วยเหลือจากทางกองทัพบก และทหารจากกรม กอง รวมทั้งส่วนราชการต่างๆ ส่งมาช่วยเหลือเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท ซึ่งจะได้ใช้เงินจำนวนนี้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้กับลูกชายต่อไปด้วย