ตำรวจเตรียมอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนที่จะเดินทางกลับบ้านเกิดและท่องเที่ยวยังต่างจังหวัด โดยจะเปิดการจราจรช่องทางพิเศษให้เพื่อบรรเทาปัญหารถติด
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พสิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยบนท้องถนน และอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์
พล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้ว่าปีนี้รัฐบาลไม่ได้ตั้งเป้าให้อุบัติเหตุผลกี่เปอร์เซ็นต์ แต่กองบังคับการตำรวจทางหลวงต้องการให้มีการสูญเสียก็ต้องลดลงกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้เตรียมมาตรการ บุคลากรในวันสงกรานต์ โดยห้ามลา ห้ามหยุด ตำรวจในสังกัดนอกจากจะป่วยจริงๆเท่านั้น เพราะช่วงเทศกาลต้องมีการระดมกำลังทุกด้าน เพราะจะมีปัญหาด้านการจราจรสูงกว่าปกติประมาณ 8-10 เท่า โดยเฉพาะภาคเหนือ และอีสาน โดยในปีนี้ตำรวจทางหลวงรับผิดชอบเปิดทางพิเศษทั้งหมดเอง เพราะปีที่ผ่านพบปัญหาว่าการให้ตำรวจภูธรพิจารณาเปิดทางพิเศษจะทำได้ช้า และบางจังหวัดก็ไม่เปิดทางพิเศษเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ
พล.ต.ต.พศิน กล่าวต่อว่า ในปีนี้ตำรวจทางหลวงได้เตรียมเปิดช่องทางพิเศษ 4 จุด คือ 1.บริเวณต่างระดับสระบุรี บริเวณ กม.106-107 2.บริเวณอ.แก่งคอย จ.สระบุรี ช่วงกม.125-153 เพราะช่วงนี้เป็นทางลาดชัน รถจะติดขัด 3.บนถนนสายเอเชียสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี บริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างถนนเปิด 4 ช่องทาง แต่บนสะพานยังเปิดใช้ได้ 2 ช่องทางทำให้เป็นคดขวดรถมาสะสมทำให้ติดขัด และ 4.ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว-ปักกธงชัย ซึ่งเป็นถนนเลี่ยงเข้าภาคอีสานได้อีกช่องทางซึ่งมีรถไปใช่หนาแน่นเช่นเดียวกัน ทำให้ต้องเปิดช่องทางพิเศษขึ้นมา
ผบก.ทล.กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการป้องกันอุบัติเหตุนั้น 1.บังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก และอื่นๆ อย่างเคร่งครัด 2.การตั้งจุดตรวจจับความเร็ว และตรวจแอลกอฮอล์กระจายทุกพื้นที่ 3.สำรวจจุดเสี่ยงอันตรายต่างๆ 68 จุดในสายหลัก โดยประสานกับตำรวจภูธรให้เข้าไปดูสภาพถนนทางร่วมทางแยกต่างๆ แล้วให้หามาตรการไปดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงเหล่านั้น หลังจากแก้ไขก็จะประเมินผลว่าอุบัติเหตุลดลงกี่เปอร์เซ็นต์
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนการดูแลทรัพย์สินของประชาชนได้กำชับให้ตำรวจทำงานเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ และให้ทำโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัยให้เพื่อนบ้านช่วยเป็นหูเป็นตา และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ลงไปในพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชนให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ให้ผู้กำกับการไปแนะนำตัวเองให้ประชนชนรู้จัก ประชาชนจะได้อุ่นใจ มีอะไรก็โทรศัพท์ไปแจ้งผู้กำกับการได้ทันที
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวอีกว่า ในปีนี้ ตร.ได้เตรียมการสำหรับกรณีผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยให้กองบินตำรวจ และรพ.ตำรวจ จัดแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อรองรับ เพื่อทำการสนับสนุนเคลื่อยย้ายผู้ป่วยหนักส่งโรงพยาบาลใหญ่ๆ โดยจะเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งใน กทม.และเพิ่มศูนย์ที่ จ.นครสวรรค์ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นศูนย์การในการเดินทางสู่ภาคเหนือ และอีสาน โดยคาดว่าจะช่วยบรรเทาการสูญเสียชีวิตได้ ส่วนการดูแลนักท่องเที่ยวนั้นมอบหมายให้ตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยว และให้ตำรวจน้ำดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาด ตร.จะดูแลประชาชนนักท่องเที่ยวตั้งแต่การเดินทางจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง พล.ต.ต.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พสิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยบนท้องถนน และอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์
พล.ต.ต.พศิน กล่าวว่า ตำรวจทางหลวงมีหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน แม้ว่าปีนี้รัฐบาลไม่ได้ตั้งเป้าให้อุบัติเหตุผลกี่เปอร์เซ็นต์ แต่กองบังคับการตำรวจทางหลวงต้องการให้มีการสูญเสียก็ต้องลดลงกว่าปีที่ผ่านมา จึงได้เตรียมมาตรการ บุคลากรในวันสงกรานต์ โดยห้ามลา ห้ามหยุด ตำรวจในสังกัดนอกจากจะป่วยจริงๆเท่านั้น เพราะช่วงเทศกาลต้องมีการระดมกำลังทุกด้าน เพราะจะมีปัญหาด้านการจราจรสูงกว่าปกติประมาณ 8-10 เท่า โดยเฉพาะภาคเหนือ และอีสาน โดยในปีนี้ตำรวจทางหลวงรับผิดชอบเปิดทางพิเศษทั้งหมดเอง เพราะปีที่ผ่านพบปัญหาว่าการให้ตำรวจภูธรพิจารณาเปิดทางพิเศษจะทำได้ช้า และบางจังหวัดก็ไม่เปิดทางพิเศษเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุ
พล.ต.ต.พศิน กล่าวต่อว่า ในปีนี้ตำรวจทางหลวงได้เตรียมเปิดช่องทางพิเศษ 4 จุด คือ 1.บริเวณต่างระดับสระบุรี บริเวณ กม.106-107 2.บริเวณอ.แก่งคอย จ.สระบุรี ช่วงกม.125-153 เพราะช่วงนี้เป็นทางลาดชัน รถจะติดขัด 3.บนถนนสายเอเชียสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำลพบุรี บริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างถนนเปิด 4 ช่องทาง แต่บนสะพานยังเปิดใช้ได้ 2 ช่องทางทำให้เป็นคดขวดรถมาสะสมทำให้ติดขัด และ 4.ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว-ปักกธงชัย ซึ่งเป็นถนนเลี่ยงเข้าภาคอีสานได้อีกช่องทางซึ่งมีรถไปใช่หนาแน่นเช่นเดียวกัน ทำให้ต้องเปิดช่องทางพิเศษขึ้นมา
ผบก.ทล.กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการป้องกันอุบัติเหตุนั้น 1.บังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ สวมหมวกกันน็อก และอื่นๆ อย่างเคร่งครัด 2.การตั้งจุดตรวจจับความเร็ว และตรวจแอลกอฮอล์กระจายทุกพื้นที่ 3.สำรวจจุดเสี่ยงอันตรายต่างๆ 68 จุดในสายหลัก โดยประสานกับตำรวจภูธรให้เข้าไปดูสภาพถนนทางร่วมทางแยกต่างๆ แล้วให้หามาตรการไปดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงเหล่านั้น หลังจากแก้ไขก็จะประเมินผลว่าอุบัติเหตุลดลงกี่เปอร์เซ็นต์
ด้าน พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ส่วนการดูแลทรัพย์สินของประชาชนได้กำชับให้ตำรวจทำงานเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ และให้ทำโครงการเพื่อนบ้านเตือนภัยให้เพื่อนบ้านช่วยเป็นหูเป็นตา และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ลงไปในพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชนให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ ให้ผู้กำกับการไปแนะนำตัวเองให้ประชนชนรู้จัก ประชาชนจะได้อุ่นใจ มีอะไรก็โทรศัพท์ไปแจ้งผู้กำกับการได้ทันที
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวอีกว่า ในปีนี้ ตร.ได้เตรียมการสำหรับกรณีผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยให้กองบินตำรวจ และรพ.ตำรวจ จัดแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อรองรับ เพื่อทำการสนับสนุนเคลื่อยย้ายผู้ป่วยหนักส่งโรงพยาบาลใหญ่ๆ โดยจะเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ทั้งใน กทม.และเพิ่มศูนย์ที่ จ.นครสวรรค์ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นศูนย์การในการเดินทางสู่ภาคเหนือ และอีสาน โดยคาดว่าจะช่วยบรรเทาการสูญเสียชีวิตได้ ส่วนการดูแลนักท่องเที่ยวนั้นมอบหมายให้ตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยว และให้ตำรวจน้ำดูแลนักท่องเที่ยวตามชายหาด ตร.จะดูแลประชาชนนักท่องเที่ยวตั้งแต่การเดินทางจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พัก
