นครศรีธรรมราช – ชาวบ้านแตกตื่นทั้งอำเภอ สาวหายจากบ้านแม่ไปพบศพถูกฆ่าหมกคลอง รับกลับบ้านจัดงานบำเพ็ญกุศล คนตายโผล่งานศพคืนที่ 2
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ได้รับการแจ้งจาก นางบุญธรรม สุดชู อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.7 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน นครศรีธรรมราช ว่า บุตรสาวของตน คือ นางดวงแข สุดชู อายุ 30 ปี ได้หายสาบสูญไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.2551 และตนพร้อมด้วยบุตรชายได้ออกติดตาม นางดวงแข ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่านางดวงแขจะไปก็ไม่พบเจอ
โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา ก็ได้รับการแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีคนไปพบศพผู้หญิงถูกฆ่าทิ้งอยู่ในเหมืองน้ำ ม.2 ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช และตำรวจได้นำศพมาฝากเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ก็ได้เดินทางไปดูศพ ซึ่งเมื่อเห็นศพซึ่งมีลักษณะร่างอ้วน และรูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับนางดวงแข และมีรอยแผลเป็นที่ข้อมือขวา ซึ่งเป็นรอยแผลมีดบาดและเป็นแผลเป็น
จึงคาดว่า ศพผู้หญิงคนดังกล่าวนั้นเป็นนางดวงแข บุตรสาวที่หายไป จึงติดต่อกับพ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าของคดีเพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน
นางบุญธรรม กล่าวอีกว่า เมื่อนำศพของนางดวงแขกลับมาก็ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลำนาวม.14 อ.บางขัน นครศรีธรรมราช โดยตั้งบำเพ็ญกุศลมาเป็นเวลา 2 คืน ตั้งแต่คืนวันที่ 19-20 มี.ค.2551 และช่วงกลางวันของวันนี้ นางดวงแข ได้มาปรากฏตัวที่บ้านที่ อ.บางขัน และเจอกับญาติทำให้บรรดาญาติพากันตกใจมาก และตอนแรกคิดว่าผีหลอก แต่นางดวงแขก็ได้เดินเข้ามาหาญาติๆ และกอดเอาไว้ว่าไม่ใช่ผี ทำไมต้องคิดว่าตนเป็นผีด้วย และนางดวงแขได้ถามหานางบุญธรรม ผู้เป็นแม่ว่าอยู่ที่ไหนทางญาติจึงบอกว่าอยู่ที่วัดลำนาว
ญาติจึงได้นำ นางดวงแข มาที่วัดลำนาวเพื่อพบกับตน ซึ่งขณะนั้นพระกำลังฉันเพลอยู่ และมีคนมาร่วมในงานศพหลายสิบคน เมื่อจู่ๆ นางดวงแข มาปรากฏว่า ทั้งพระและแขกที่อยู่ในงานต่างก็ตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เพราะคิดว่าผีหลอกรวมทั้งตนด้วย ซึ่งนางดวงแขก็บอกกับทุกคนว่ายังไม่ตายศพที่อยู่ในโลงไม่ใช่ศพตน
สักพักหนึ่งเมื่อหายตกใจก็เริ่มที่จะกล้าเข้าไปใกล้นางดวงแข และเมื่อจับตัวดูก็พบว่าเป็นคนจริงๆ จึงได้ทราบว่า นางดวงแข ยังไม่ตายแต่เป็นการเข้าใจผิดของตนที่คิดว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็น นางดวงแข เพราะจำรอยแผลเป็นที่มือขวาได้ และเมื่อ นางดวงแข ตัวจริงปรากฏตัวอย่างนี้แสดงว่า ในโลงศพนั้นไม่ทราบว่าจะเป็นศพใคร จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงได้เดินทางมายังอำเภอเพื่อพบนายอำเภอบางขันเพื่อให้ช่วยเหลือเพราะทำไม่ถูก
ทางด้านของ นายมนัส เพ็งสุทธิ์ นายอำเภอบางขัน กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเองก็ไปร่วมงานศพของ นางดวงแข ในคืนแรก เพราะเห็นว่าเป็นประชาชนในพื้นที่และเป็นเหตุการณ์ที่สลดหดหู่ เพราะลูกสาวหายไปจากบ้านและกลายเป็นศพเช่นนั้น แต่พอได้รับการแจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดขึ้นมา ตนก็ได้นำนางบุญธรรมและนางดวงแขไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.บางขัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับตำรวจกับพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ต่อไป
โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่คนใน อ.บางขัน วิพากษ์วิจารณ์กันมาก และถือว่าเป็นโชคดีที่ นางดวงแข โผล่มาในตอนกลางวัน หากโผล่มาตอนกลางคืนคงจะแตกตื่นกันมากกว่านี้ ซึ่งตนได้สอบถามว่าช่วงที่หายไปนั้นหายไปไหนนางดวงแขได้บอกว่ามีปัญหาส่วนตัว และไม่สบายใจ จึงไปหาเพื่อนและทำงานที่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช และคิดถึงลูกทั้ง 2 คนที่ทิ้งไว้ให้อยู่กับแม่ จึงได้กลับมาส่วนสามีนั้น นางดวงแข ระบุว่า ได้เลิกร้างกันไปนานแล้ว
สำหรับ นางดวงแข สุดชู เป็นบุตรคนที่ 2 ของนางบุญธรรม กับนายสงวน (ถึงแก่กรรม) สุดชู นางดวงแข มีสามีชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ รัตนบุรี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ด.ช.ดนุสรณ์ รัตนบุรี อายุ 9 ขวบ และ ด.ญ.มณฑา สุดชู อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ปกติช่วยมารดาประกอบอาชีพทำสวนยางพารา
ด้าน พ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวรสภ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราชเจ้าของคดี กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางตำรวจ อ.บางขัน แล้ว ซึ่งขณะนี้ตนได้ประสานไปยังมูลนิธิสยามร่วมใจ เพื่อไปรับศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่มาเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง เหมือนเดิมเพื่อรอญาติจริงๆ มาติดต่อ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะตอนที่แม่ของผู้ที่ถูกระบุว่าตายมารับศพนั้น ก็ได้บอกกับตนอย่างหนักแน่นว่าจำรูปพรรณสัณฐานได้ ศพนี้เป็นลูกสาวที่หายสาบสูญไป ตนจึงให้รับศพไป ซึ่งก็คงจะต้องประกาศหาญาติจริงๆ ต่อไป
วันนี้ (21 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ได้รับการแจ้งจาก นางบุญธรรม สุดชู อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.7 ต.บ้านลำนาว อ.บางขัน นครศรีธรรมราช ว่า บุตรสาวของตน คือ นางดวงแข สุดชู อายุ 30 ปี ได้หายสาบสูญไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.2551 และตนพร้อมด้วยบุตรชายได้ออกติดตาม นางดวงแข ไปตามสถานที่ต่างๆ ที่คิดว่านางดวงแขจะไปก็ไม่พบเจอ
โดยเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2551 ที่ผ่านมา ก็ได้รับการแจ้งจากเพื่อนบ้านว่ามีคนไปพบศพผู้หญิงถูกฆ่าทิ้งอยู่ในเหมืองน้ำ ม.2 ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราช และตำรวจได้นำศพมาฝากเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช ก็ได้เดินทางไปดูศพ ซึ่งเมื่อเห็นศพซึ่งมีลักษณะร่างอ้วน และรูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับนางดวงแข และมีรอยแผลเป็นที่ข้อมือขวา ซึ่งเป็นรอยแผลมีดบาดและเป็นแผลเป็น
จึงคาดว่า ศพผู้หญิงคนดังกล่าวนั้นเป็นนางดวงแข บุตรสาวที่หายไป จึงติดต่อกับพ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวร สภ.เฉลิมพระเกียรติ เจ้าของคดีเพื่อรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน
นางบุญธรรม กล่าวอีกว่า เมื่อนำศพของนางดวงแขกลับมาก็ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดลำนาวม.14 อ.บางขัน นครศรีธรรมราช โดยตั้งบำเพ็ญกุศลมาเป็นเวลา 2 คืน ตั้งแต่คืนวันที่ 19-20 มี.ค.2551 และช่วงกลางวันของวันนี้ นางดวงแข ได้มาปรากฏตัวที่บ้านที่ อ.บางขัน และเจอกับญาติทำให้บรรดาญาติพากันตกใจมาก และตอนแรกคิดว่าผีหลอก แต่นางดวงแขก็ได้เดินเข้ามาหาญาติๆ และกอดเอาไว้ว่าไม่ใช่ผี ทำไมต้องคิดว่าตนเป็นผีด้วย และนางดวงแขได้ถามหานางบุญธรรม ผู้เป็นแม่ว่าอยู่ที่ไหนทางญาติจึงบอกว่าอยู่ที่วัดลำนาว
ญาติจึงได้นำ นางดวงแข มาที่วัดลำนาวเพื่อพบกับตน ซึ่งขณะนั้นพระกำลังฉันเพลอยู่ และมีคนมาร่วมในงานศพหลายสิบคน เมื่อจู่ๆ นางดวงแข มาปรากฏว่า ทั้งพระและแขกที่อยู่ในงานต่างก็ตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น เพราะคิดว่าผีหลอกรวมทั้งตนด้วย ซึ่งนางดวงแขก็บอกกับทุกคนว่ายังไม่ตายศพที่อยู่ในโลงไม่ใช่ศพตน
สักพักหนึ่งเมื่อหายตกใจก็เริ่มที่จะกล้าเข้าไปใกล้นางดวงแข และเมื่อจับตัวดูก็พบว่าเป็นคนจริงๆ จึงได้ทราบว่า นางดวงแข ยังไม่ตายแต่เป็นการเข้าใจผิดของตนที่คิดว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็น นางดวงแข เพราะจำรอยแผลเป็นที่มือขวาได้ และเมื่อ นางดวงแข ตัวจริงปรากฏตัวอย่างนี้แสดงว่า ในโลงศพนั้นไม่ทราบว่าจะเป็นศพใคร จึงไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงได้เดินทางมายังอำเภอเพื่อพบนายอำเภอบางขันเพื่อให้ช่วยเหลือเพราะทำไม่ถูก
ทางด้านของ นายมนัส เพ็งสุทธิ์ นายอำเภอบางขัน กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนเองก็ไปร่วมงานศพของ นางดวงแข ในคืนแรก เพราะเห็นว่าเป็นประชาชนในพื้นที่และเป็นเหตุการณ์ที่สลดหดหู่ เพราะลูกสาวหายไปจากบ้านและกลายเป็นศพเช่นนั้น แต่พอได้รับการแจ้งว่าเป็นการเข้าใจผิดขึ้นมา ตนก็ได้นำนางบุญธรรมและนางดวงแขไปแจ้งความเป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.บางขัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ประสานงานกับตำรวจกับพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ ต่อไป
โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่คนใน อ.บางขัน วิพากษ์วิจารณ์กันมาก และถือว่าเป็นโชคดีที่ นางดวงแข โผล่มาในตอนกลางวัน หากโผล่มาตอนกลางคืนคงจะแตกตื่นกันมากกว่านี้ ซึ่งตนได้สอบถามว่าช่วงที่หายไปนั้นหายไปไหนนางดวงแขได้บอกว่ามีปัญหาส่วนตัว และไม่สบายใจ จึงไปหาเพื่อนและทำงานที่ อ.ทุ่งสง นครศรีธรรมราช และคิดถึงลูกทั้ง 2 คนที่ทิ้งไว้ให้อยู่กับแม่ จึงได้กลับมาส่วนสามีนั้น นางดวงแข ระบุว่า ได้เลิกร้างกันไปนานแล้ว
สำหรับ นางดวงแข สุดชู เป็นบุตรคนที่ 2 ของนางบุญธรรม กับนายสงวน (ถึงแก่กรรม) สุดชู นางดวงแข มีสามีชื่อ นายพงษ์ศักดิ์ รัตนบุรี มีบุตรด้วยกัน 2 คน คือ ด.ช.ดนุสรณ์ รัตนบุรี อายุ 9 ขวบ และ ด.ญ.มณฑา สุดชู อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดลำนาว อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ปกติช่วยมารดาประกอบอาชีพทำสวนยางพารา
ด้าน พ.ต.ท.นิวัฒน์ คงด้วง สารวัตรเวรสภ.เฉลิมพระเกียรติ นครศรีธรรมราชเจ้าของคดี กล่าวว่า ได้รับการประสานจากทางตำรวจ อ.บางขัน แล้ว ซึ่งขณะนี้ตนได้ประสานไปยังมูลนิธิสยามร่วมใจ เพื่อไปรับศพที่ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่มาเก็บไว้ที่วัดควนไม้แดง อ.ทุ่งสง เหมือนเดิมเพื่อรอญาติจริงๆ มาติดต่อ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลก เพราะตอนที่แม่ของผู้ที่ถูกระบุว่าตายมารับศพนั้น ก็ได้บอกกับตนอย่างหนักแน่นว่าจำรูปพรรณสัณฐานได้ ศพนี้เป็นลูกสาวที่หายสาบสูญไป ตนจึงให้รับศพไป ซึ่งก็คงจะต้องประกาศหาญาติจริงๆ ต่อไป