รักษาการผู้ว่าฯ มอบปลัด กทม.หาข้อสรุปกรณีคุณหญิงณฐนนทออกมาแฉ กทม.จัดซื้อรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีแพงเกินจริงภายใน 15 วัน พร้อมให้ระงับการดำเนินงานโครงการเอาไว้ก่อน
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. รักษาการณ์ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เพื่อให้ตรวจสอบการประมูลจัดซื้อรถโดยสาร ในโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษ หรือบีอาร์ที สายช่องนนทรี-ราชพฤกษ์นั้น กทม.ขอยืนยัยว่า การดำเนินการทุกอย่างทุกขั้นตอน เปิดเผยโปร่งใส และชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้นายพงศ์ศักดิฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในการจัดซื้อรถบีอาร์ทีว่าถูกต้องหรือไม่ ตลอดจนมีการเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันหรือไม่อย่างไร รวมถึงเข้าข่าย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือไม่ โดยให้ตรวจสอบเป็นเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ระหว่างที่มีการตรวจสอบ กทม.ได้ระงับการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวรถบีอาร์ที จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ ทั้งนี้ หากพบว่าการจัดซื้อโครงการดังกล่าว เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ กทม.จะยกเลิกการประมูล การจัดซื้อรถบีอาร์ทีที่บริษัท เบสท์ลิน กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นผู้ชนะการประมูลทันที
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้(2 เม.ย.) ในเวลา 10.00 น.กทม.จะแถลงข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงสเปกรถให้สาธาณชนได้รับทราบ ส่วนจะมีการแจ้งความฟ้องร้องกับผู้ร้องหรือไม่นั้นต้องดูจากข้อเท็จจริงอีกครั้ง
ด้านนายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษก กทม.กล่าวว่า สำหรับการชี้แจงกรณีดังกล่าว ในที่ประชุมคณะผู้บริหาร ได้เชิญทั้งนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ รองผู้ว่าฯ กทม. นายวินัย ลิ่มสกุล รักษาการ ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) และบริษัทที่ปรึกษาเข้าชี้แจง โดยที่ประชุมได้มีการซักถามทุกประเด็น ซึ่งผู้ชี้แจงสามารถตอบได้ทุกคำถาม พร้อมกับมีเอกสารหลักฐานยืนยันทุกอย่าง โดย กทม.ใช้รถบีอาร์ที แบบยูโร 3 ใช้เชื้อเพลิงแบบเอ็นจีวีมาตรฐานรถไฟฟ้า แม้จะมีราคาแพง แต่เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่รถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ใช้รถยูโร 2
“ต้องขอบคุณผู้ร้องที่ทำให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจโครงการรถเมล์ด่วนพิเศษบีอาร์ทีของ กทม.มากขึ้น ซึ่งกทม.มั่นใจว่า สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้อย่างเปิดเผย โปร่งใส โดยมีนายพณิช รองผู้ว่ากทม. รองปลัด กทม. สจส. และบริษัทที่ปรึกษาร่วมชี้แจง โดยจะจัดทำเป็นชาร์ตให้เห็นทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ตนขอเชิญผู้ร้องมาร่วมรับฟังคำชี้แจงในครั้งนี้ด้วย ส่วนที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนั้น ก็เป็นไปตามขั้นตอน เมื่อมีการร้องเรียน เพื่อไม่ให้ตกเป็นที่กล่าวหาว่า กทม.เพิกเฉยไม่ได้ทำอะไร มีการคาดการณ์ว่าเมื่อใกล้หมดสมัยของนายอภิรักษ์ก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เพื่อให้ตรวจสอบการทำงานของนายอภิรักษ์ แสดงให้เห็นว่าสมัยของนายอภิรักษ์มีแต่อุปสรรค ถือเป็นการดิสเครดิตอย่างหนึ่ง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่”นายถนอมกล่าว
แหล่งข่าวแจ้งว่า สำหรับสเปกรถบีอาร์ทีของ กทม. ใช้เครื่องยนต์จากประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งสหรัฐอเมริกาใช้แบบเดียวกับที่รถบีอาร์ที กทม.สั่งซื้อ แต่รูปแบบของตัวรถอาจแตกต่างกัน โดยราคารถบีอาร์ทีของอเมริกาอยู่ที่ 10-12 ล้านบาท ขณะที่ของ กทม.อยู่ที่ 7.5 ล้านบาท จัดซื้อทั้งหมด 387 ล้านบาท ประตูบีอาร์ทีกว้าง 1.5 เมตร ขณะที่รถเมล์ ขสมก.กว้างเพียง 1 เมตร รถบีอาร์ที กทม.ใช้เครื่องยนต์ยูโร 3 แบบรถไฟฟ้า ขณะที่รถเมล์ของ ขสมก.ใช้ยูโร 2 จัดซื้อในราคา 5.2 ล้านบาท/คัน บีอาร์ทีมีระบบดิสเบรกทั้ง 4 ล้อต่างจากรถโดยสารทั่วไป มีป้ายแอลซีดีแสดงผล ส่วนจำนวนที่นั่งใน TOR ระบุว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง ขณะที่คุณสมบัติผู้รับเหมาจะต้องเคยมีประสบการณ์เคยผลิตรถยนต์ 37 ที่นั่งมาก่อนจึงจะประมูลการจัดซื้อรถครั้งนี้ได้ ส่วนตัวผู้ร้องหากจะเล่นการเมืองแล้วใช้ประเด็นนี้ก็คงไม่เหมาะสม
ด้านนายพนิช กล่าวว่า ในส่วนของวิธีการประมูลจัดซื้อรถบีอาร์ทื ได้ใช้การประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์(อีออกชั่น) ซึ่งหากมีผู้ประมูล 2-3 รายก็สามารถดำเนินการได้ หากบริษัทดังกล่าว มีคุณสมบัติครบถ้วน เช่น คุณสมบัติด้านเทคนิค ผู้ถือหุ้น ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทที่แข่งขันมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อ ก็มีคณะกรรมหลายชุด เช่น คณะกรรมการกำหนดราคาจัดซื้อ คณะกรรมการกำหนดคุณสมบัติ ซึ่งในการกำหนดคุณสมบัติก็มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เช่น ผู้แทนจาก สนข. ผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก นอกจากนี้ยังมีคณะกรรมการตรวจรับอีกชุดหนึ่ง
“ขอยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างทุกขั้นตอน เป็นไปตามกฎหมายและโปร่งใส หากคณะกรรมการตรวจสอบที่คณะกรรมการแต่งตั้งขึ้นได้พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 15 วัน แล้วสรุปว่าการประมูลจัดซื้อรถบีอาร์ทีเข้าข่าย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ ก็จะทำให้กระบวนการจัดซื้อรถบีอาร์ทีสะดุด ที่ผ่านมาได้มีการลงนามกับบริษัทที่ชนะการประมูลไปเมื่อเดือนที่แล้ว และทางบริษัทอยู่ระหว่างการออกแบบตัวรถ และส่งผลิตโดดยรถบีอาร์ที 3 คันแรกจะส่งมาให้ กทม.ในเดือน มิถุนายน และอีก 20 คัน ในเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคมจะครบ 45 คัน หากพบว่าผิดจริง ก็จะทำให้ไม่สามารถเปิดบริการประชาชนได้ทันเดือนสิงหาคมนี้"นายพนิชกล่าว
