xs
xsm
sm
md
lg

สบส.เสนอสั่งระงับ “ตัดไข่” ทั่วประเทศ เผยชื่อในบัญชีดำอยู่ในเขตท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สบส.เสนอสั่งสถานพยาบาลทั่วประเทศ ระงับให้บริการ “ตัดไข่” เปลี่ยนชายเป็นหญิงพรุ่งนี้ พร้อมตรวจสถานพยาบาลทั่วประเทศ เผยขึ้นบัญชีดำหลายแห่ง โดยเฉพาะจุดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญต่อมไร้ท่อยันทั่วโลกไม่มีใครที่ไหน “ตัดไข่” ลดฮอร์โมน มีแต่ตอนไก่ ตอนสัตว์ ตอนขันทีในจีนที่เลิกทำแล้ว ระบุข้อบ่งชี้ชัดเจนตัดเฉพาะหยุดยั้งเซลล์มะเร็ง ด้านจิตแพทย์ ระบุ ในไทยแปลงเพศเสรี มีการปรึกษาจิตแพทย์น้อย

วันนี้ (31 มี.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สข.) นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยนพ.อภิชัย มงคล รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต นพ.เทพ หิมะทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพธารินทร์ อดีตหัวหน้าหน่วยต่อมไร้ท่อ รพ.รามาธิบดี ร่วมกันแถลงข่าว “ผ่าตัดลูกอัณฑะ ไร้จริยธรรม ผิดจรรยาบรรณแพทย์”

นพ.ศุภชัย กล่าวว่า ในวันที่ 1 เมษายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการสถานพยาบาล ทางกองการประกอบโรคศิลปะ จะเสนอให้มีการสั่งให้สถานพยาบาลทุกแห่งระงับการผ่าตัดอัณฑะให้กับชายที่ต้องการเป็นหญิง เพื่อลดฮอร์โมนเพศชาย ทำให้มีรูปร่างสวยงาม เสียงเล็กลงคล้ายกับผู้หญิง โดยให้มีผลระงับการผ่าตัดไปจนกว่าแพทยสภาจะมีการพิจารณาตัดสินว่า การให้บริการผ่าตัดดังกล่าวผิดหลักจริยธรรมวิชาชีพ หรือได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งแพทยสภาจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 3 เมษายนนี้

นพ.ศุภชัย กล่าวต่อว่า หากแพทยสภาพิจารณาว่าเป็นการผ่าตัดที่ไม่ถูกต้อง กองการประกอบโรคศิลปะ จะถือว่าเจ้าของสถานพยาบาลที่เปิดให้มีการบริการผ่าตัดดังกล่าวมีความผิด ตามมาตรา 34 (2) พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังเสนอเรื่องไปยังแพทยสภาเพื่อใช้ดุลพินิจอย่างเร่งด่วน ว่า การที่ นพ.เทพ เวชวิสิฐ เจ้าของคลินิกประตูน้ำการแพทย์และผู้ดำเนินการสถานพยาบาลที่ระบุว่าได้ดำเนินการผ่าตัดลูกอัณฑะด้วยวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีที่ปลอดภัยและเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการแปลงเพศนั้น เป็นมาตรฐานในการรักษาผู้ป่วยหรือไม่ และการดำเนินการดังกล่าวเป็นการผิดจริยธรรมของวิชาชีพด้วยหรือไม่

“ในเชิงเทคนิคศัลยแพทย์ทุกคนสามารถผ่าตัดลูกอัณฑะได้ทั้งนั้น เพราะเป็นผ่าตัดทั่วไปมีลักษณะคล้ายกับการทำหมัน ไม่ได้หมายความว่า แพทย์ที่ให้บริการผ่าตัดเรื่องนี้จะเป็นคนเก่งกาจ หรือมีประสบการณ์มากกว่าแพทย์คนอื่นๆ แต่แพทย์จะรับทำหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับจิตใจ จริยธรรม ความคิดของแพทย์ ที่สำคัญ การผ่าตัดอวัยะวะไม่ใช่การตัดสินใจของศัลยแพทย์ผู้เดียว แต่ต้องผ่านการทดสอบจากจิตแพทย์ หรือสหวิชาชีพด้วย และยิ่งเป็นแพทย์ที่มีผลประโยชน์ในการผ่าตัดด้วยก็ไม่สมควร หากแพทย์จะผ่าตัดอวัยวะสำคัญของร่ายกายได้ทันทีโดยไม่ผ่านสหวิชาชีพร่วมด้วยสังคมคงป่วนมากกว่านี้ ดังนั้นจึงต้องมีจริยธรรมกำกับ” นพ.ศุภชัย กล่าว

นพ.ศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กองประกอบโรคศิลปะกำลังดำเนินการตรวจสอบไปยังสถานพยาบาลอื่นๆ คาดว่า จะได้ผลเร็วๆ นี้ โดยสถานพยาบาลที่อยู่ในบัญชีดำนั้นมีในหลายจังหวัดที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะทางภาคเหนือและใต้

ด้าน นพ.เทพ กล่าวว่า ในการผ่าตัดลูกอัณฑะทั้งมาตรฐานทางการแพทย์ในประเทศหรือมาตรฐานโลกไม่เคยมีการให้ผ่าตัดอัณฑะเพื่อลดฮอร์โมน แต่เป็นการตัดอัณฑะออกเพื่อลดการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซึ่งการเปลี่ยนเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ควรมีความมั่นใจ เนื่องจากหากตัดสินใจตัดแล้วก็ไม่สามารถกลับคืนได้ อีกทั้งการผ่าตัดอัณฑะควรเป็นแพทย์เฉพาะทาง หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทางเดินปัสสาวะ

นพ.เทพ กล่าวต่อว่า ส่วนข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดอัณฑะ เนื่องจากเป็นชายแต่อยากเป็นหญิง หรือเพื่อการแปลงเพศนั้น ยังไม่มีข้อบ่งชี้ ซึ่งการผ่าตัดเพื่อแปลงเพศ ศัลยแพทย์ไม่ใช่ผู้ที่สามารถตัดสินใจแต่เป็นจิตแพทย์ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบผลกระทบที่ตามมาในระยะยาวว่า การผ่าตัดอัณฑะ แล้วให้ฮอร์โมนเพศหญิงจะมีสิ่งใดตามมาบ้าง แต่ในทางทฤษฎีพบว่า มีโอกาสในการเป็นมะเร็งเต้านม กล้ามเนื้อฝ่อ มีไขมันเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะที่บริเวณหน้าท้องเป็นอันตราย หลอดเลือดตีบตัน และชราภาพเร็ว

“ในอดีตการผ่าตัดอัณฑะมีเฉพาะในกลุ่มขันทีที่ทำกันในประเทศจีน โดยการตัดอัณฑะ หรือที่เรียกว่าการตอนจะทำตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้กลายเป็นคนทีมีความผิดปกติ มีเสียงเล็ก ไม่มีกล้ามเนื้อ แต่มีไขมันแทนที่ อีกทั้งขันทีส่วนใหญ่มีอายุสั้นและชราภาพเร็ว ซึ่งปัจจุบันในจีนก็เลิกทำไปแล้ว ซึ่งการตัดอัณฑะก็เหมือนกับการตอนไก่ ตอนสัตว์อื่นๆ โดยการตัดอัณฑะทิ้ง”นพ.เทพ กล่าว

นพ.เทพ กล่าวต่อว่า การตัดอัณฑะมีข้อบ่งชี้ 3 ประการ คือ 1.ผู้ที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากซึ่งกรณีนี้มีการตัดอัณฑะมากเพื่อหยุดการผลิตฮอร์โมนทำให้เซลล์มะเร็งเติบโตช้าลง 2.การที่มีลูกอัณฑะอยู่ในช่องท้อง หากไม่ตัดอัณฑะออกจะทำให้กลายเป็นมะเร็งช่องท้องได้ และ 3.ผู้ที่มีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ โดยมี 2 เพศ คือ อวัยวะภายนอกเป็นเพศหญิงแต่มีอัณฑะหลบอยู่ที่ช่องท้องทำให้ต้องผ่าตัดเลือกเพศ เช่นเดียวกันหากไม่ผ่าตัดก็ทำให้เป็นมะเร็งได้ ดังนั้นข้อบ่งชี้ที่ทำให้ต้องตัดอัณฑะออกส่วนใหญ่เป็นเพราะทำให้เกิดมะเร็ง และเมื่อตัดออกไปแล้ว ก็จะต้องให้โฮอร์โมนเพศทดแทนตลอด

นพ.อภิชัย กล่าวว่า ปกติผู้ที่ต้องการแปลงเพศจะต้องผ่านการทดสอบจากจิตแพทย์หลายขั้นตอน ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 1 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าต้องการผ่าตัดแปลงเพศจริงๆ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วโลก โดยคนไข้จะต้องร่วมรับผิดชอบกับจิตแพทย์ และแพทย์ผู้ให้การผ่าตัด แต่จากประสบการณ์การเป็นจิตแพทย์กว่า 27 ปี ตนไม่เคยมีคนไข้มาปรึกษาเรื่องการแปลงเพศแต่อย่างใด เพราะประเทศไทยมาปรึกษาจิตแพทย์น้อย และให้มีการผ่าตัดแปลงเพศได้อย่างเสรี แตกต่างจากสหรัฐอเมริกา หรือประเทศแถบลาตินอเมริกา ที่ให้ความสำคัญกับการทดสอบจิตวิทยา และร่ายกายเป็นอย่างมาก

กำลังโหลดความคิดเห็น