“ไชยา” เดินหน้าแนวคิดทำประกันชีวิตให้ จนท.สธ. 3 จังหวัดใต้ มั่นใจสุดคุ้มค่า เตรียมขอความเห็นในที่ประชุมนายแพทย์สาธารณสุขทั่วประเทศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล 27 มี.คนี้ ยันไม่มีใครคัดค้าน
นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงแนวคิดการทำประกันชีวิตให้กับแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า แนวคิดนี้มาจากการที่ไม่มีใครทราบว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้จะเป็นอย่างไร หรือจะเกิดอะไรขึ้นอีก อีกทั้งแม้จะมีงบประมาณ แต่ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ สมมติมี 20 ล้านบาท หากมีคนตาย1 คนจะเอาเงินไปช่วยเหลือใดๆ ไม่ได้ เพราะจะผิดระเบียบราชการ ขณะนี้มันต้องมีระเบียบปฏิบัติให้สามารถใช้ได้กับสถานการณ์ ขณะเดียวกัน แม้จะมีเบี้ยเลี้ยงสำหรับแพทย์ที่หมุนเวียนกันลงไปในพื้นที่วันละประมาณ 2.7 พันบาท แต่ไม่มีใครกล้าลงไปในพื้นที่ เพราะไม่มีการทำประกันชีวิตให้พวกเขา ดังนั้น การทำประกันชีวิตถือเป็นความคุ้มค่า ซึ่งเร็วๆ นี้ จะเดินทางไปลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
“ถามว่า ปีหนึ่งๆ เสียค่าประกันชีวิตให้พวกเขาคนละประมาณ 5 พันบาทต่อปี ซื้อความสบายใจ สร้างขวัญกำลังใจให้พวกเขา เหตุใดจะไม่คุ้มค่า ผมถือว่าคุ้มค่ามาก ใครบอกว่าในบอร์ดมีคนไม่เห็นด้วยหรอ ไม่น่าจะมี เรื่องเป็นประโยชน์กับเขา ไม่น่าจะมีใครคัดค้าน ซึ่งพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) จะคุยกันในการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขประจำเดือน มี.ค.โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งเข้าร่วมประชุม จะมาฟังเสียงกันในที่ประชุมว่าเป็นอย่างไร” นายไชยา กล่าว
นายไชยา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องการรับเงื่อนไขของบริษัทประกันว่าจะไม่รับประกันชีวิตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุความรุนแรงเข้าข่ายเป็นวินาศกรรม ซึ่งโดยปกติบริษัทจะไม่รับทำประกันชีวิตให้นั้น ในกรณีของสธ.ถือว่าเป็นกรณีพิเศษที่บริษัทจะดำเนินการให้
ด้านนพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.กล่าวว่า เรื่องการทำประกันชีวิต เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายร้องขอสธ.มาด้วยซ้ำ ญาติ พี่น้องของเจ้าหน้าที่สอบถามมายัง สธ.ว่า จะมาประกันความปลอดภัยอะไรให้พวกเขาบ้าง ซึ่งในวันที่ 1 เม.ย.มีจะมีการปฐมนิเทศนักศึกษาแพทย์ใหม่ที่จะลงพื้นที่ทำงาน ก็จะหารือเรื่องความปลอดภัยเช่นกัน เพราะหาก สธ.ไม่ทำประกันชีวิตให้เกิดความอุ่นใจและปลอดภัยในชีวิตการทำงาน อาจทำให้เกิดปัญหาบุคลากรหนีออกนอกระบบจะยิ่งกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น
“ที่ผ่านมา สมัยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็น รมว.สธ.เคยได้ทำประกันชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ สธ.แล้ว แต่ต้องหยุดดำเนินการไปเนื่องจากไม่มีงบประมาณ ส่วนการประกันชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาทิ แพทย์ พยาบาล รวมถึงแพทย์ที่หมุนเวียนลงไปในพื้นที่ด้วย คาดว่ามีจำนวนไม่ถึง 1 หมื่นคน โดยจะดำเนินการประกัน 1 ปี จากนั้นจะประเมินผลขยายกลุ่มไปยังลูกจ้าง และอาสาสมัครสาธารณสุขซึ่งจะเป็นโครงการต่อไปในอนาคต ส่วนงบประมาณ 40 ล้านบาทนั้นเป็นการคาดการณ์จากจำนวนเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะใช้งบประมาณน้อยกว่าหรือมากกว่านี้ก็ได้” นพ.ปราชญ์ กล่าว
นพ.ปราชญ์ กล่าว่า นอกจากนี้ ฝ่ายญาติของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ยังต้องการขวัญกำลังใจจาก สธ.โดยได้ไถ่ถามทั้งเรื่องของการมอบเหรียญตรา เหรียญพิทักษ์เสรีชน เหรียญราชการชายแดน ฯลฯ เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ยังไม่ได้ยินกระแสคัดค้าน ซึ่งหากใครมีความคิดเห็นที่แตกต่างก็สามารถเสนอได้ในที่ประชุมวันที่ 27 มี.ค.นี้
