“สมชาย” เร่งเครื่องสร้างผลงานเรียนฟรี 14 ปี ชงเรื่องเข้า ครม.ของบ 2,900 ล้านมาเพิ่มให้โรงเรียน หวังให้ผู้ปกครองเดือดร้อนน้อยที่สุด ชูธงเด็กยากจนจะได้รับการดูแลก่อน สั่ง ผอ.เขตพื้นที่ทั่วประเทศ สำรวจเด็กยากจนมาดูแลให้ครบ และให้เตรียมบุคลากรรองรับการศึกษายุคไฮเทคโนโลยี
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังเปิดการประชุมผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ (ผอ.สพท.) 178 เขต ว่า ศธ.เตรียมข้อมูลเรื่องการจัดการศึกษาฟรี 14 ปี เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้ข้อมูลเสร็จเรียบร้อยและตนได้ลงนามเสนอเรื่องเข้าสู่การประชุม ครม.แล้ว เพื่อของบประมาณมาดำเนินการหากไม่ติดขัดว่า เรื่องนี้ต้องไปผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอ ครม.ก่อน น่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ได้พรุ่งนี้ (11 มี.ค.) หากต้องผ่านความเห็นของคณะกรรมการกลั่นกรองก่อน คงต้องรอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า
ส่วนงบประมาณที่ขอไปนั้น ได้เพิ่มค่าใช้รายหัวให้โรงเรียนระดับประถมและมัธยมศึกษาทุกสังกัด เพื่อให้สถานศึกษามีเงินจัดการศึกษาได้โดยไม่ต้องเดือดร้อนผู้ปกครอง โดยต้องการขอเพิ่มตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษา 2551 แล้วยังของบมาขยายการจัดการศึกษาฟรีระดับอนุบาลด้วย พร้อมกันนี้ยังได้ของบประมาณมาจัดสรรเป็นทุนการศึกษาให้เด็กยากจนและด้อยโอกาส ถ้า ครม.ไม่สามารถจัดสรรให้งบประมาณให้ได้เท่าที่เสนอขอไป คงต้องมาเกลี่ยงบที่ได้รับมา เน้นนำไปใช้ในเรื่องที่สามารถลดภาระผู้ปกครองได้มากที่สุด โดยเฉพาะเด็กยากจนที่มีอยู่ร้อยละ 30 ในระดับประถมศึกษา และร้อยละ 25 ในระดับมัธยมศึกษา จะต้องได้รับการดูแลครบทุกคน ซึ่งตนให้ สพฐ.ไปสำรวจหานักเรียนที่ยากจนจริงๆ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ว่ามีจำนวนเท่าไหร่
“ปัจจุบันนี้คนยากจนมีจำนวนมาก พวกเราหลุดพ้นความลำบากมาแล้ว ควรเหลียวกลับไปดูด้านหลังแล้วยื่นมือไปดึงเขาขึ้นมา เพื่อให้พ้นจากวงจรความยากจน ผมคิดว่าการให้การศึกษาเป็นหนทางสำคัญช่วยให้หลุดพ้นความยากจนได้ และในการประชุม ผอ.สพท.วันนี้ ผมบอกกับ ผอ.สพท. ทั่วประเทศ ว่า รัฐบาลมีนโยบายชัดเจน ให้เด็กทุกคนได้เรียนฟรี 14 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ผมเน้นย้ำให้ดูแลเด็กยากจนเป็นพิเศษ ขอให้ ผอ.สพท.ยึดเรื่องนี้เป็นนโยบายในการทำงาน และกระตุ้นผู้บริหาร ครูในพื้นที่ให้เข้าใจนโยบายของรัฐบาลด้วย”
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ผมยังฝากให้เขตพื้นที่การศึกษา เตรียมความพร้อมรองรับการก้าวเข้าสู่การจัดการศึกษาแบบไฮเทคโนโลยี นำเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์มาประกอบการเรียนการสอน วิธีนี้จะช่วยยกคุณภาพการเรียนการสอนได้ นอกจากนี้จะต้องเตรียมพัฒนาครู เปลี่ยนวิสัยทัศน์และกระตุ้นให้ครูพยายามเรียกรู้สื่อการสอนไฮเทค ส่งเสริมให้ครูมีพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้ดีขึ้น สิ่งเหล่าประโยชน์จะเกิดกับเด็ก
ด้าน นางจรวยพร ธรณินทร์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า งบประมาณที่ ศธ.จะเสนอขอ ครม.เพื่อนำมาจัดเรียนฟรี 12 ปีนั้น หลักๆ เป็นการของบประมาณมาเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัว ให้โรงเรียนทุกสังกัดเต็มตามผลการวิจัย ดังนี้ อนุบาล 1,700 บาทต่อปี ประถมศึกษา 1,900 บาท ม.ต้น 3,500 บาท ม.ปลาย 3,800 บาท ส่วนสถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ระหว่าง 4,900 ถึง 11,900 บาท
อย่างไรก็ตาม ศธ.ต้องการเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวให้ โรงเรียนตั้งแต่ภาคเรียนแรกของปีการศึกษา 2551 เพราะฉะนั้น จึงต้องขอใช้งบกลางประมาณ 2,900 ล้านบาท มาเพิ่มรายหัวให้ ร.ร.ในเทอม 1 พอถึงเทอม 2 ซึ่งตรงกับปีงบประมาณ 2552 ค่อยตั้งงบปกติใช้ ทั้งนี้ ถ้าแยกรายละเอียด พบว่า ร.ร.สังกัด สพฐ. ต้องการใช้งบกลาง 1,627 ล้านบาท ร.ร.สังกัด สช. 866 ล้านบาท สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาใช้ 201 ล้านบาท สถานศึกษาสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) 203 ล้านบาท ซึ่งการปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวแล้ว ร.ร.จะมีเงินเพียงพอในการบริหารจัดการ ไม่ต้องไปเดือดร้อนผู้ปกครองอีกต่อไป
นายสมเกียรติ ชอบผล รอง กพฐ.กล่าวเสริมว่า ในส่วนของ สพฐ.นอกจากจะเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัว ยังได้ของบ 988 ล้านบาทเพื่อเพิ่มเงินค่าปัจจัยพื้นฐานที่ให้เด็กยากจน รวมทั้งจัดซื้อหนังสือเรียนอุปกรณ์การเรียนด้วย
