xs
xsm
sm
md
lg

สุ่มซื้อยาหยอดตาใช้เอง เสี่ยงเจอสารสเตียรอยด์ทำบอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แพทย์ระบุยาหยอดตาที่หาซื้อได้ตามร้านยาทั่วไป ยาบางตัวผสมสเตียรอยด์ มีความเสี่ยงสูงเกิดโรคต้อหิน พร้อมเผยตัวเลขผู้ป่วยโรคต้อหินในไทยที่พบกว่า 1 ล้านคน แต่เข้ารับการรักษาเพียงแค่ 10%

รศ.นพ.ปริญญ์ โรจนพงศ์พันธุ์ รองประธานสมาคมต้อหินแห่งเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ กรรมการชมรมต้อหินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคต้อหินเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของไทยที่ทำให้ตาบอดถาวร โดยในตอนนี้มีผู้ป่วยที่พบว่าเป็นโรคต้อหินทั้งประเทศประมาณ 1 ล้าน ที่พบมากที่สุดจะอยู่ในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ที่เป็นต้อหินกว่า 840,000 คน แต่ผู้ป่วยเหล่านี้ได้เข้ารับรักษาเพียงแค่ 10% เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 90% เป็นผู้ป่วยที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่าเป็นโรคต้อหิน เนื่องจากผู้ป่วยที่เป็นในระยะแรกๆจะไม่แสดงอาการ จะทราบได้จากการตรวจโดยจักษุแพทย์เท่านั้น เมื่อประสาทตาเสื่อมไปมาก จึงทำให้เกิดอาการตามัว ยกเว้นต้อหินชนิดเฉียบพลันที่จะทำให้มีอาการปวดตา แสบตา ตามัว

โดยกลุ่มเสี่ยงกลุ่มที่สำคัญ คือ กลุ่มที่มีคนในครอบครัวเป็นต้อหิน ซึ่งมาจากพันธุกรรม และคนที่สายตาสั้นและยาวมากกว่าปกติจะเป็นสาเหตุหนึ่งของโรค อีกทั้งผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุที่กระทบกับดวงตาอย่างรุนแรงก็จะเสี่ยงต่อการเกิดต้อหินได้

นอกจากนี้ คนเป็นโรคภูมิแพ้ที่จะมีอาการข้างเคียงทำให้เกิดอาการคันที่ดวงตา และเลือกที่จะรักษาโดยการซื้อยาหยอดตาตามร้านขายยาทั่วไปมารักษาเองจะเสี่ยงต่อการเป็นโรคต้อหินอย่างมาก เนื่องจากยาหยอดตาที่ซื้อตามร้านขายยา ก็ต้องยอมรับว่าบางร้านนั้นไม่มีเภสัชกรควบคุมดูแล และจะแนะนำให้ผู้ป่วยใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ เพราะจะทำให้ผลการรักษาได้ผลดี ลดอาการที่เป็นได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อเป็นอีกก็ซื้อยาประเภทนี้มาใช้อีก และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน สารสเตียรอยด์จะทำให้ความดันภายในตาสูงขึ้นเป็นผลให้เกิดโรคต้อหินได้

“ยาหยอดตาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์นั้น บางร้านจะไม่มีเภสัชควบคุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามพื้นที่ต่างจังหวัด ด้วยเหตุที่ตัวยาผลิตง่าย ใช้แล้วอาการหายทันที ทำให้มีคนนิยมซื้อใช้ อีกทั้งไม่มีใครให้ข้อมูลว่ายาจำพวกนี้จะมีผลข้างเคียงอย่างไร และกฎหมายของไทยเองไม่ได้ห้ามซื้อขาย อย่างในอเมริกาหากต้องการจะซื้อยาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ ซื้อไม่ได้ง่ายๆ ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์กำกับด้วยจึงจะซื้อได้ แต่ที่บ้านเรายังไม่มีกฎหมายควบคุม ที่จริงจังพอ วิธีการที่จะสังเกตยาหยอดตาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์นั้น คือ ให้สังเกตจากฉลากกำกับข้างขวด หากมีคำว่า “ยาอันตราย” หรือตัวยาประเภท เดคซาเมทธาโซน, เคลปมิโซโลน หรือตัวยาใกล้เคียง ให้ตังข้อสังเกตว่าเป็นยาที่มีส่วนประกอบของสเตียรอยด์ทั้งสิ้น” รศ.นพ.ปริญญ์ กล่าว

รศ.นพ.ปริญญ์ กล่าวอีกว่า ผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นโรคต้อหินต้องระวังปัจจัยที่จะทำให้ความดันตาขึ้นสูง โดยสาเหตุอาจจะมาจากคนที่เป็นต้อหินออกแล้วมีการออกกำลังกายแบบหนักๆ เช่นการเล่นเวท เล่นกล้าม เพราะหากมีการเกร็งกล้ามเนื้อนานๆ กลั้นหายใจนานๆ ความดันตาก็จะขึ้นสูง อีกทั้งการออกกำลังกายที่ต้องห้อยหัวต่ำก็เป็นอันตรายต่อคนไข้ต้อหิน และการดื่มน้ำจากความเชื่อที่ว่าดื่มน้ำครั้งละ 1 ลิตรจะช่วยให้การขับถ่ายดี ก็เป็นความเชื่อที่ถูก แต่ใช้ไม่ได้กับผู้ที่เป็นโรคต้อหิน เพราะจากการศึกษาพบว่า ผู้ที่เป็นโรคต้อหินหากดื่มน้ำมากๆ ในครั้งเดียว จะทำให้ความดันตาสูงขึ้น ดังนั้นให้ค่อยๆ ดื่มน้ำทีละน้อยแต่ให้ดื่มเป็นประจำ

รศ.นพ.ปริญญ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงมาตรฐานการรักษาโรคต้อหิน สำหรับในประเทศไทยอย่างจริงจัง ทางชมรมต้อหินในราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย จึงจัดงานวันต้อหินโลก ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก พร้อมกันกับหลายประเทศสมาชิก เพื่อการรณรงค์และลดปัญหาโรคต้อหิน ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น. ณ ลานเอเทรี่ยม 2 ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งภายในงานจะมีการให้บริการตรวจโรคต้อหินฟรี
กำลังโหลดความคิดเห็น